วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl พ่อค้าแม่ค้าราษีไศล นับร้อยโบยโดนไล่ที่ไม่ให้ขายสินค้าเกษตรหน้าที่ว่าการอำเภอ

พ่อค้าแม่ค้าราษีไศลนับร้อยโวยโดนไล่ที่ไม่ให้ขายสินค้าเกษตรหน้าที่ว่าการอำเภอ  แกนนำเผยขายสินค้าในช่วงเวลากลางคืนมานานกว่า 30 ปี ไม่มีปัญหา แต่ต่อมาอำเภอกำหนดให้มีการปิดประตูและห้ามขายของภายในบริเวณที่ว่าการอำเภอในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 19.00 – 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก
วันที่ 30 ต.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เคยทำมาค้าขายอยู่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ราษีไศล จำนวนประมาณ 60 คน นำโดยนายโชคชัย  ปรัชญาประเสริฐ  อายุ  49 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 5 ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้พากันมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องขอให้ทาง อ.ราษีไศล อนุญาตให้พวกตนนำเอาสินค้าทางการเกษตรมาขายที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ราษีไศล ได้เช่นเดิม หลังจากที่ อ.ราษีไศล ได้ทำประตูรั้วเหล็กปิดทางเข้าบริเวณที่ว่าการ อ.ราษีไศล โดยจะปิดประตูเวลา 19.00 น. และเปิดประตูเวลา 06.00 น. ทุกวัน ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถนำเอาสินค้าทางการเกษตรมาจำหน่ายในเวลากลางคืนได้ โดยทาง อ.ราษีไศลได้จัดสถานที่ใหม่ให้พ่อค้าแม่ค้านำเอาสินค้าไปขายห่างจากที่เดิมประมาณ 500 เมตร แต่ว่าไม่สามารถขายสินค้าได้ เนื่องจากไม่มีลูกค้าติดตามไปหาซื้อสินค้าแต่อย่างใด ทำให้กลุ่มแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนมาก  ต่อมา นายโชคชัย ได้นำกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขึ้นไปพบกับ นายอนุชา  เรืองอมรวิวัฒน์ นายอำเภอราษีไศลและ นายกัณพงศ์  แซ่จึง นายกเทศบาล ต.เมืองคง และคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้พิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาช่วยเหลือโดยด่วนด้วย
นายโชคชัย  ปรัชญาประเสริฐ  อายุ  49 ปี  แกนนำกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กล่าวว่า ตามมติที่ประชุม อ.ราษีไศล ได้กำหนดว่า ทางอำเภอได้มีการจัดระเบียบการขายของขายสินค้าของตลาดอำเภอราษีไศล ที่พ่อค้าแม่ค้าได้ขายสินค้าในบริเวณตลาดหน้าที่ว่าการ อ.ราษีไศล โดยกำหนดให้มีการปิดประตูและห้ามขายของภายในบริเวณที่ว่าการอำเภอในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น นั้น ทำให้พวกตนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ผู้มาจับจ่ายซื้อขายสินค้าตลาดในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งทำการค้าขายมานานมากกว่า 30 ปีได้รับผลกระทบ มีความเดือดร้อนเพราะไม่มีที่ขายของ ไม่มีที่จอดรถ ซึ่งมีทั้งรถตลาด รถประชาชน รถพ่อค้าแม่ค้าซึ่งมาจับจ่ายซื้อของในช่วงดึก ทั้งรถยนต์ รถพุ่มพวง รถสามเข่ง ซึ่งมีประมาณมากกว่า 100 คันที่มาซื้อของเพื่อนำไปขายให้ผู้คนในหมู่บ้าน ไม่สามารถที่จะทำการค้าขายได้  พวกตนจึงขอความเป็นธรรมและขอความเสมอภาคในการบริหารจัดการ ซึ่งการที่เทศบาลตำบลเมืองคง อ้างว่ามติที่ประชุมอำเภอราษีไศลเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2566 มีผู้ร้องเรียนว่า มาติดต่อราชการแล้วไม่มีที่จอดรถ จึงสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปจำหน่ายสินค้าในบริเวณที่ว่าการ อ.ราษีไศล และสั่งให้ปิดประตูอำเภอในเวลา 19.00 น. ถึง 06.00 น. ซึ่งพวกตนเห็นว่าในเวลาดังกล่าวไม่ใช่เวลาราชการที่ผู้ที่จะมาติดต่อราชการได้รับผลกระทบไม่มีที่จอดรถ เพราะตลาดกลางคืนเริ่มขายของในเวลา 24.00 น. ถึง 07.00 น. แค่นั้น และส่วนใหญ่จะตั้งร้านตั้งแผงขายในถนนด้านทิศตะวันออก จะมีบางส่วนที่ตั้งขายในลานจอดรถและฟุตบาทด้านหน้าประตูรั้ว การไม่มีที่จอดรถไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับตลาดกลางคืนแต่อย่างใด น่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าในช่วงเวลากลางวันที่ขายสินค้าทั้งบริเวณถนนและล้ำเข้าไปในลาดจอดรถเป็นบริเวณกว้าง

นายโชคชัย  กล่าวต่อไปว่า ซึ่งจากการที่การร้องเรียนว่าตลาดกลางคืนได้ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลไว้ภายในที่ว่าการอำเภอ ในการทิ้งขยะนี้ ตั้งแต่ช่วงหลังโควิดเป็นต้นมา มีพนักงานจากเทศบาลตำบลเมืองคงเข้ามาเก็บเงินค่าเก็บขยะจากรถพุ่มพวง รถสามเข่ง และจากพ่อค้าแม่ค้าแผงละ 10 บาท ทุกคืนเพื่อเป็นค่าจัดการขยะ (มีใบรับเงินค่าขยะ)เดิมเทศบาลได้จัดที่ทิ้งขยะไว้บริเวณที่วัดปริมาณน้ำฝน ต่อมาได้จัดเปลี่ยนที่ทิ้งขยะ มาเป็นบริเวณข้างหอประชุมอำเภอเก่า ซึ่งขยะนี้ส่วนใหญ่มาจากพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดเทศบาล จุดสินค้าตลาดกลางคืนส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสำเร็จที่ทำเสร็จจากบ้านมาแล้ว และพอมาถึงตลาดสามารถวางขายได้เลยสินค้า ตลาดกลางคืนจะมีพ่อค้าแม่ค้าซึ่งปลูกผักเองซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ได้นำมาวางจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้
ให้แก่ครอบครัวและชุมชน ส่วนรถพุ่มพวง รถสามเข่ง ที่มาซื้อขายสินค้าและจอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ พอถึงช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ก็ได้พากันขับรถออกจากลานจอดรถเพื่อไปขายสินค้าให้กับประชาชนตามหมู่บ้าน และเวลาประมาณ 07.00 น. พ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าเกษตรกลางคืนได้ทำการเก็บร้านกลับกันหมดทุกร้านแล้ว  ซึ่งตลาดแห่งใหม่ที่ทางเทศบาล ต.เมืองคง จัดให้พ่อค้าแม่ค้าไปขายสินค้านั้น เหมือนกับให้พวกตนไปตาย เพราะว่าไม่สามารถขายสินค้าได้ อีกทั้งสถานที่ดังกล่าวไม่มีห้องสุขา ผู้ซื้อมีน้อยมาก ไม่มีที่จอดรถ ต้องจอดรถตามถนน 2 ข้างทางทำให้การจราจรติดขัดเป็นจำนวนมาก  ดังนั้น พวกตนจึงได้มาร้องทุกข์กับนายอำเภอราษีไศลและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า มาขายสินค้าเวลากลางคืนที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ราษีไศลได้เช่นเดิมด้วย

ทางด้าน นายอนุชา  เรืองอมรวิวัฒน์ นายอำเภอราศีไศล กล่าวภายหลังจากการหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 11 พ.ย.2566  อ.ราษีไศล จะจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน โดยจะมีการจำหน่ายสินค้านานาชนิดทั้งเครื่องหนัง อาหาร เครื่องสำอาง แว่นตา เฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ และสวนสนุกชุดใหญ่ ดังนั้น จึงจะให้ทำการเปิดประตูทางเข้าที่ว่าการ อ.ราษีไศล ตั้งแต่วันที่ 1 – 15 พ.ย.2566 และในวันที่ 2 พ.ย. 2566 จะมีการประชุมคณะกรรมการเกี่ยวกับการจัดระเบียบการขายสินค้าของตลาด อ.ราษีไศล เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เพื่อจะได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป//

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ คว้าโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นประจำปี 2566

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์คว้าโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นปี 2566 ของนายกรัฐมนตรี  ขณะที่    ดร.อุดมศักดิ์  เพชรผา ได้รับรางวัลเสริมสร้างคนดีมีคุณธรรมประจำปี 2566 ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเข็มกลัดเชิดชูเกียรติ (หม่อมงามจิตต์  บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก”
 
เมื่อวันที่ 30  ตุลาคม  2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 10/2566 โดยมี นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต  นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย  น.ส.ชนมณัฐ รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  นายธาตรี สิริรุ่งวนิช  ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดศรีสะเกษ และภาคเอกชนมี นายวิทยา  วิรารัตน์  ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว  นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ  ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนมาเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก  
ซึ่งก่อนที่จะมีการเริ่มประชุม  ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณให้แก่บุคคลต่าง ๆ  ดังนี้ 1. ดร.อุดมศักดิ์  เพชรผา ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ  ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเข็มกลัดเชิดชูเกียรติ “ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก “รางวัลเสริมสร้างคนดีมีคุณธรรม” ประจำปี 2566   2. ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์                    นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ”อาสาสมัครดีเด่น”ประจำปี 2566 ของนาย เศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ 3. มอบใบรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมให้แก่เกษตรกร และ 4.ได้มอบเกียรติบัตรแก่ทีมนักสื่อสารสังคมตามโครงการการสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง ประจำปี 2566 

ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวภายหลังจากการรับมอบโล่จาก ผวจ.ศรีสะเกษแล้วว่า  สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ได้จัดงานพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่น และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น  โล่ประกาศเกียรติคุณ อาสาสมัครดีเด่น เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยมีนายวราวุธ ศิลปะอาชา  รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีมอบโล่และเข็มประกาศเกียรติคุณ อาสาสมัครดีเด่น และ องค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่นประจำปี 2566  จำนวนทั้งหมด  261 คน  ซึ่งมีหน่วยงานราชการได้รับจำนวน 90 คน   องค์กรสาธารณประโยชน์จำนวน  72  คน สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  28 คน  องค์กรเอกชนอื่น 34  คน  สภากาชาดไทย 18 คน และตน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  จากจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับ “อาสาสมัครดีเด่น” จากหน่วยงานราชการ  กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม  ซึ่งทั่วประเทศได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ อาสาสมัครดีเด่น เพียง 2 ราย เท่านั้น  และในวันนี้นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “อาสาสมัครดีเด่น”ประจำปี 2566 จากนายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30   ถือว่าเป็นเกียรติและเชิดชูคุณความดีให้แก่ตนเป็นอย่างยิ่ง  ขอให้ผู้มีจิตอาสาทุกท่านทั่วประเทศได้ทำความดีช่วยเหลือสังคมเพื่อจะได้รับรางวัลแห่งคุณงามความดีนี้//
ภาพ /  ข่าว   ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl พ่อเมือง นำชาวดอกลำดวนจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรเทโว

พ่อเมืองนำชาวดอกลำดวนจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรวันเทโวโรหณะ
วันที่ 30 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม  พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ  พร้อม รอง ผวจ.  หัวหน้าส่วนราชการ และ พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันเทโวโรหณะ  โดยมี พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษและรักษาการเจ้าอาวาสวัดเจียงศรีมงคลวราราม  เป็นประธานสงฆ์และนำคณะพระภิกษุสงฆ์สามเณรออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนที่พากันหอบลูกจูงหลานพากันมาทำบุญตักบาตรจำนวนมาก 
พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษและรักษาการเจ้าอาวาสวัดเจียงศรีมงคลวราราม กล่าวว่า วันเทโวโรหณะ  หมายถึง วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  หลังจากเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาตลอดพรรษาหรือครบไตรมาศ  ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11  ซึ่งพระพุทธเจ้าจะเสด็จลงถึงโลกมนุษย์ในวันรุ่งขึ้นของอีกวันหนึ่ง คือ วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 และ บิณฑบาตในเช้าวันนั้น  ดังนั้น วันตักบาตรเทโว จึงเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 สำหรับพุทธศาสนิกชนทุกวัดจะมีการประกอบพิธีทำบุญตักบาตรเทโว และ อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐานบนรถ  นำหน้าพระภิกษุสงฆ์สามเณร และ พระภิกษุสงฆ์สามเณรก็จะเดินเป็นแถวออกรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้ง  จากพุทธศาสนิกชนที่พร้อมใจมารอใส่บาตรในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานี้//

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl ไฟไหม้ร้านขายของชำ พ่อเฒ่าวัย 70 โดนไฟไหม้ใบหน้าหวิดดับคาบ้าน

ไฟไหม้ร้านขายของชำ เฒ่าวัย 70 โดนไฟไหม้ใบหน้าหวิดดับคาบ้าน ทองเงินเก่าบ้านเสียหายกว่า 700,000 บาท ปภ.และดร.กัลยาณี นำสิ่งของไปซับน้ำตาให้การช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ทันที
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 บ้านหนองแคน ต.ขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย    จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้นบนของบ้าน ซึ่งบริเวณชั้นล่างได้เปิดเป็นร้านขายของชำและขายอาหาร โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้ช่วยกันนำเอาน้ำมาสาดเพื่อดับไฟ แต่ว่าไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันเข้าไปนำเอาร่างของ นายวาน ธรรมเนียม อายุ 70 ปี  ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่โดนไฟไหม้บริเวณใบหน้าทั้งหมดและเป็นลมหมดสติอยู่บริเวณบันไดออกมาจากตัวบ้าน พร้อมทั้งได้ช่วยกันขนเอาทรัพย์สินส่วนหนึ่งออกมาจากตัวบ้าน  ต่อมา ได้มีรถดับเพลิงของ อบต.ขะยูง มาช่วยกันดับเพลิง  ใช้เวลาประมาณ  45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้  โดยพบว่า ไฟไหม้ชั้นบนของบ้านเสียหายทั้งหมด ข้าวของทรัพย์สินต่างๆ โดนไฟไหม้เสียหายไม่เหลือสภาพเดิม  โดยบ้านที่อยู่ใกล้เคียงโดนไฟไหม้ด้วยแต่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากมีการฉีดน้ำป้องกันไม่ให้ไฟลามเข้าไปไหม้บ้านได้
ต่อมา  นายพีระพงศ์  หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ศรีสะเกษ และคณะ ได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภค ที่นอน หมอนมุ้ง ข้าวสารอาหารแห้ง มามอบให้กับนายวาน  ซึ่งได้มารับมอบสิ่งของด้วยตนเอง   คณะที่นำเอาสิ่งของมามอบให้ได้พบว่า นายวานโดนไฟไหม้บริเวณใบหน้า ปาก ใบหู เส้นผม และมือขวาโดนไฟไหม้ ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น  ปภ.ศรีสะเกษและคณะ ได้นำเอาสิ่งของไปมอบให้ นายใบ มังสาลี อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ซึ่งบ้านอยู่ติดกันและบ้านโดนไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย  โดย ดร.กัลยาณี ได้ปีนบันไดบ้านที่สูงชันนำเอาสิ่งของขึ้นไปมอบให้ด้วยตนเอง  จากนั้น นายวสุรัตน์ โพธิ์ศรี กำนัน ต.ขะยูง นายสยาม เพ็งพันธ์ ผญบ.หนองแคน และนายประมวล มากเมือง ส.อบต.ขะยูง ได้นำคณะ ปภ.ศรีสะเกษ ทำการตรวจสอบสภาพความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้บ้านครั้งนี้  เพื่อจะได้หาทางในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้บ้านอย่างเต็มที่ต่อไป 
นายวาน ธรรมเนียม อายุ 70 ปี  ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้เล่าถึงวินาทีที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านว่า ขณะนั้น เวลาประมาณ 06.00 น. ของวันนี้ (29 ต.ค.66) ตนนั่งอยู่ชั้นล่างของบ้านกับหลานสาวตัวเล็ก ๆ คนในบ้านพากันไปทำบุญที่วัดบ้านหนองแคนในวันออกพรรษากันหมด  ต่อมาตนได้ยินเสียงเด็กที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกันร้องบอกว่า มีเสียงดังปัง ๆๆๆ หลายครั้ง และมีไฟไหม้ที่ชั้นบนบ้านของตน  ดังนั้น ตนจึงได้รีบลุกขึ้นวิ่งขึ้นบันไดบ้านเพื่อที่จะเข้าไปเอาทองคำหนัก 1 บาท และเงินสดที่เป็นเงินเก่าเก็บมีเลข 9 ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งเป็นเงินสะสมไว้นานแล้ว  รวมทั้งเงินสดจำนวนประมาณ 60,000 บาท เป็นเงินที่ตนจะนำเอาไปใช้หนี้ที่ไปจำนองข้าวเอาไว้   แต่ว่าพอตนเอื้อมมือเพื่อจะเปิดลูกบิดประตู ปรากฏว่า ลูกบิดประตูได้ร้อนมากจนลวกมือของตน ซึ่งตนได้พยายามดึงเปิดประตูออกได้  ทันใดนั้น เปลวไฟได้พวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วมาก ทำให้เปลวไฟได้ไหม้บริเวณใบหน้าของตนทั้งหมด  ตนได้พยายามคลานลงมาที่ชั้นล่าง สติได้ดับวูบไป จนกระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยกันนำเอาตนออกมาจากบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง และไฟได้ไหม้ชั้นบนเสียหายทั้งหมด  ค่าเสียหายเป็นเงินสด เงินใหม่ เงินเก่า ทองคำรูปพรรณ และตัวบ้านที่โดนไฟไหม้ ค่าเสียหายประมาณกว่า  700,000  บาทเศษ สาเหตุคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร 

นายพีระพงศ์  หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า นายอนุพงศ์  สุขสมนิตย์  ผวจ.ศรีสะเกษ มีความห่วงใยชาวบ้านที่โดนไฟไหม้บ้าน ดังนั้น จึงได้มอบให้ตนและคณะ นำเอาสิ่งของมาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น  จากนั้น จะได้ประสานงานกับ อบต.ขะยูงและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนให้นายวาน สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้เช่นเดิมโดยด่วนที่สุด  ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ฝากถึงประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนว่า ขณะนี้กำลังจะย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อาจจะเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงขอให้ช่วยกันระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้อย่างเต็มที่ และหากเกิดเพลิงไหม้ให้แจ้ง อบต.ใกล้บ้านเพื่อจะได้เรียกรถดับเพลิงมาช่วยกันดับเพลิงอย่างเร่งด่วนที่สุด 

ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์          ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนทราบข่าวว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านหลังนี้ ดังนั้น จึงได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคที่นอน หมอน ผ้าห่ม และอาหารแห้งมามอบให้ เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และจะได้ช่วยประสานงานกับผู้ใจบุญเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ที่ถูกไฟไหม้บ้านอย่างเต็มที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมา  ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว            ศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ศรีสะเกษ และนายพีระพงศ์  หมื่นผ่อง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปยังบริษัท พีเค ซิตี้ทัวร์ อยู่ที่ อ.เมืองศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นบ้านของ        ดร.กัลยาณี และได้นำเอาบัวหิมะ  ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่ ดร.กัลยาณี ซื้อมาจากประเทศจีน บัวหิมะมีสรรพคุณในการรักษาบาดแผลที่ถูกเพลิงไหม้ น้ำร้อนลวก  ดร.กัลยาณี ได้นำเอาบัวหิมะ มาทาให้กับนายวาน ด้วยตนเอง โดยก่อนที่จะทาบัวหิมะ ดร.กัลยาณี และ นายพีระพงศ์ ได้ช่วยกันทำความสะอาดบาดแผลที่โดนไฟไหม้จนสะอาด จากนั้น ได้นำเอาบัวหิมะทาที่บริเวณใบหน้า ใบหู และริมฝีปาก รวมทั้งฝ่ามือด้านขวา จนเสร็จเรียบร้อย โดย ดร.กัลยาณี ได้มอบบัวหิมะยาสมุนไพรคุณภาพเยี่ยมจากประเทศจีน จำนวน 1 กระปุกใหญ่ให้กับ นายวาน เพื่อจะได้ใช้ทารักษาบาแผลจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติต่อไป//

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นครสวรรค์l ประวัติ นางเกี่ยว แซ่ล้ออายุ 100 ปี

 ประวัติ นางเกียว แซ่ล้อ อายุ 100 ปี
นางเกียว แซ่ล้อ อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่1 ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ 
สามี นายฮั้งใช้ แซ่ล้อ เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2511 นางเกียว มีบุตร 6 คน ชาย 2 คน หญิง 4 คน มีหลาน 6 คน มีเหลน 5 คน 
1. บตรคนที่นางจิราภรณ์ คงอารยะเวชกุล ค้าขาย มีบุตรชาย 3 คน
2. ทันตแพทย์ ปริญญา คงทวีเลิศ บุตรคนที่2 รับราชการ จนเกษียณอายุ มีบุตรชาย 1 คนเรียนจบ ด๊อกเตอร์จาก สหรัฐอเมริกา ด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันรับราชการที่ คณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล 
3. นางจิติมา คงทวีเลิศ พนักงานฝ่ายพัสดุ โรงงานน้ำตาลอุตรดิตถ์ ปัจจุบันเกษียณอายุแล้ว ปีพ.ศ. 2556
4. เภสัชกรหญิง เชาวรัตน์ มั่นพรหม บุตรคนที่4 เคยรับราชการเป็นหัวหน้าแผนกเภสัชกรรม รพ.สระบุรี จนเกษียณอายุปี 2560 
5. ศาตราจารย์ ด๊อกเตอร์ ปรัชญา คงทวีเลิศ บุตรคนที่5  ปัจจุบันยังคงรับราชการเป็นอาจารย์ ภาควิชา ชีวะ-เคมี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีบุตรชาย 1 คน เรียน คณะแพทย์อยู่มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ 
6. นาง ชวนพิศ คงทวีเลิศ บุตรคนที่6  ปัจจุบันเป็น ผู้จัดการฝ่าขาย  บ. แกล็กโซ สมิทไคลน์ (ประเทศไทย) จำกัด มีบุตรสาว 1 คน จบปริญญาเอก จากสหรัฐอเมริกา ด้านการร้องเพลง และคุณยายเกียวได้มาเลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด
◦ นางเกียว แซ่ล้อ การศึกษา ป.4 ศาสนาพุทธ 
คุณยายเกียว ได้เคยค้าขายผ้าอยู่ อ.ท่าตะโก และเลี้ยงลูกคนเดียวหลังจากสามี นายฮั้งใช้ แซ่ล้อ เสียชีวิต ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2511 
ได้ส่งเสียบุตรและธิดาให้มีการศึกษา ทุกคน จนสามารถมีอาชีพ มั่นคงทุกคน
คุณยายเกียว ได้อบรมบุตรหลานในเรื่องความดี และซื่อสัตย์ สุจริต ให้ขยันทำงาน และช่วยเหลือสังคมเมื่อมีโอกาส 
⁃ สุขภาพดี ช่วยเหลือตัวเองได้ปานกลาง ความจำดี พูดคุยรู้เรื่อง ทานอาหารครบ  3 มื้อ ชอบทานปลา 
⁃ ปัจจุบันนางเกียว แซ่ล้อ อายุครบ 100 ปี วันที่ 12 ก.ย.2566 เพราะเกิด 12 ก.ย.2466 มีสุขภาพแข็งแรง สามรรถช่วยเหลือตัวเองได้ปานกลาง ตามอายุ และมีความจำดีเลิศ
◦ นางเกียว แซ่ล้อ ได้ช่วยเหลือชุมชน เมื่อมีงานทางศาสนา เช่นทอดกฐิน งานวัดที่ต้องรวมคนช่วยเหลือโดยถนัดงานครัว เมื่ออยู่ อ.ท่าตะโก 
ปัจจุบันอาศัยอยู่กับ 
นางชวนพิศ คงทวีเลิศ บุตรคนที่ 6 โดยมีบุตรสาว อีก 2 คนคือคนที่3 และ4 ดูแลอย่างใกล้ชิด

ศรีสะเกษl ผู้ใช้รถเวสป้า ใจบุญหอบข้าวสารอาหารแห้งไปช่วยผู้ป่วยจิตเวชและคนไร้ที่พึ่ง

ผู้ใช้รถเวสป้าใจบุญหอบข้าวอาหารแห้งไปช่วยผู้ป่วยจิตเวชและคนไร้ที่พึ่งที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ ขณะที่ ดร.กัลยาณี วอนผู้ใจบุญทุกท่านว่าหากมีวันเกิดของท่านใดแทนที่จะไปเลี้ยงกัน  ก็ขอให้นำอาหารมาเลี้ยงคนไร้ที่พึ่งหรือซื้อของใช้ที่จำเป็นมามอบให้เพราะยังขาดแคลนจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ  ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์        ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางไปให้การต้อนรับคณะผู้บริหารเวสป้าไทยแลนด์ และเวสป้าศรีสะเกษ นำโดย นายไพศาล ระยับศรี ผู้จัดการเวสป้าศรีสะเกษ  ที่นำคณะนำเอาสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคและอาหารกลางวันจำนวนมากมามอบให้กับนางพนาลี ทองประเสริฐ ผู้ปกครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่  ซึ่งหลังจากมอบสิ่งของแล้ว นางพนาลี ได้นำคณะไปทำการปลูกต้นไม้ที่บริเวณด้านข้างอาคารห้องประชุมเพื่อให้เป็นร่มเงาสร้างความร่มรื่นให้กับสถานที่แห่งนี้  โดยมี น.ส.ชมบงกช สินธวาชีวะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ  น.ส.กมลพัชร บุญขาว และ น.ส.นริชา จันทะศรี ทีมดูแลเรื่องงาน CSR ภายในจังหวัดศรีสะเกษและคณะ ให้การต้อนรับ
นายไพศาล ระยับศรี ผู้จัดการเวสป้าศรีสะเกษ  กล่าวว่า  โครงการนี้เป็นโครงการที่เวสป้าประเทศไทยได้จัดขี้น เพื่อเป็นกิจกรรมส่งเสริมสังคมให้กับลูกค้าทุกท่านที่ใช้รถเวสป้า แม้กระทั่งลูกค้าทั่วไป เป็นลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ เพื่อให้ได้ได้มาร่วมทำบุญด้วยกัน ร่วมรณรงค์ว่ากิจกรรมส่งเสริมสังคมนี้มีอะไรบ้างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ทางเวสป้าประเทศไทยคือเวสตี้ได้จัดขึ้นทั่วประเทศไทย โดยผู้มาร่วม กิจกรรมในวันนี้มีจำนวน 60 คันได้นำเอาข้าวสารอาหารแห้ง ขนมและมีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับคนไร้ที่พึ่งและผู้ป่วยจิตเวชทุกคนในสถานสงเคราะห์แห่งนี้
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนักสังคมสงเคราะห์ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนขอขอบพระคุณคณะเวสป้าที่ได้นำสิ่งของมามอบให้ในวันนี้  เพราะถือว่าได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้จำนวนมาก   ที่นี่มีผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 238  คน  ถ้าจะรองบประมาณจากรัฐบาลก็คงจะไม่เพียงพอ เนื่องจากว่ามีงบประมาณให้น้อยมาก การที่ท่านนำสิ่งของมามอบให้จึงถือว่าช่วยได้มาก   ตนได้นำสิ่งของมามอบให้ที่นี่เป็นประจำ  เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มอบหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำนวน 3 ใบให้  และได้มีผู้มาร่วมมอบสิ่งของ  พร้อมกับได้นำแพมเพิรส์กับน้ำยาล้างห้องน้ำผงซักฟอก มามอบให้ด้วย ตนอยากจะฝากถึงผู้ใจบุญทุกท่านว่า   หากมีวันเกิดของท่านใด  แทนที่จะไปเลี้ยงกัน  ก็ขอให้นำอาหารมาเลี้ยงคนที่นี่หรือซื้อของใช้ที่จำเป็นมามอบให้เพราะยังขาดแคลนอีกจำนวนมาก  ได้ทราบว่าจะมีการนำคนไร้ที่พึ่งมาไว้ที่นี่อีก 100 กว่าคน  ซึ่งจะทำให้ขาดที่นอนขาดหมอนขาดผ้าห่มขาดเครื่องใช้อีกมาก  ขอฝากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ว่า ขอเชิญชวนผู้ที่มีจิตกุศลใจบุญมีเมตตาให้ช่วยกันนำมาสิ่งของต่าง ๆ มอบให้ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่นี้จะเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่มาก

นางพนาลี ทองประเสริฐ ผู้ปกครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่  กล่าวว่า  สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่  มีผู้ใช้บริการเป็นผู้ชายจำนวนประมาณ 139 คนและมีผู้หญิงที่เหลือเป็นส่วนใหญ่จาก 238 ราย ที่อยู่ที่นี่จะมีผู้ป่วยที่มีอาการเป็นจิตเวชอยู่ประมาณ 198 ราย มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ 3 รายมีคนพิการอยู่ประมาณ 200 รายและมีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 56 ราย สิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือก็จะเป็นในช่วงฤดูหนาวคนไร้ที่พึ่งส่วนใหญ่ที่มีอาการจิตเวชก็จะหนาวกว่าคนปกติทั่วไป เขาจะไม่ชอบอากาศหนาวเลยจะชอบอากาศร้อน เพราะฉะนั้นก็ฝากขอความอนุเคราะห์จากผู้มีอุปการะคุณท่านใดอยากทำบุญก็ขอเชิญที่สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ผ้าห่มเสื้อกันหนาวจะเป็นมือหนึ่งมือสองเราก็ต้องการทั้งหมดรับได้ทั้งหมด ข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคก็ต้องการมากเช่นกัน ท่านผู้ใจบุญสามารถติดต่อขอบริจาคได้ที่โทร 045 -  826421////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl ผู้สร้างภาพยนตร์สัปเหร่อ แจ้งจับโมเดลลิ่งปลอมแอบอ้างเป็นทีมงานไทบ้าน

ผู้สร้างภาพยนตร์สัปเหร่อ แจ้งจับโมเดลลิ่งปลอม แอบอ้างเป็นทีมงานไทบ้าน หลอกให้สาวถ่ายอนาจารเพื่อดูเรือนร่าง อ้างเป็นการแคสติ้งนักแสดงก่อนเข้าวงการ 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ นายอวิรุทธ์ อรรคบุตร กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด หนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ ไทบ้าน เดอะซีรีส์  และ ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จ ทำรายได้ทะลุ 600 ล้านไปแล้วในปัจจุบัน ได้เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ  จากกรณีที่มีคนแอบถ่ายภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ และนำเผยแพร่ลงสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ และผู้ที่แอบอ้างเป็นโมเดลลิ่งปลอม หลอกวัยรุ่นหนุ่มสาว เพื่อขอดูภาพอนาจาร
นายอวิรุทธ์ อรรคบุตร กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด  เปิดเผยว่า  จากกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เราตรวจพบ ปัจจุบันมีการแอบถ่าย และนำเผยแพร่ทางยูทูป และติ๊กต๊อก  ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็นการเผยแพร่หนังที่เป็นตัวเต็มแต่อย่างใด แต่เป็นการแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ในบางช่วงบางตอนและนำเผยแพร่ลงช่องทางโซเชี่ยลมีเดียดังกล่าว ที่กล่าวข้างต้น ซึ่งหลายๆ ยูสเซอร์ที่แอบถ่ายภาพยนตร์ของเรา และทำการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ พวกเราก็ได้แจ้งตักเตือนให้ทำการลบคลิปดังกล่าวออกแล้ว ด้วยความไม่รู้ เหลือเพียงบางยูสเซอร์เท่านั้น ที่ยังคงไว้และไม่ดำเนินการลบออก  ซึ่งตนขอฝากเตือนไปยังพี่ๆ น้องๆ และประชาชนว่าจริงๆแล้ว เราไม่สามารถแอบถ่ายภาพยนตร์จากโรงภาพยนตร์ และมาอัพโหลดลงบนโลกออนไลน์ไม่ได้ เพราะมันเป็นความผิดในการละเมิดลิขสิทธิ์ 

นายอวิรุทธ์ อรรคบุตร กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร บริษัท ไทบ้าน สตูดิโอ จำกัด  กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี โมเดลลิ่ง ปลอม นั้น ตนได้รับร้องเรียนจากแฟนเพจไทบ้านว่า มีการเรียกแคสติ้งนักแสดง ไม่ว่าจะตามกลุ่มไลน์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการทักแชทส่วนตัว และหลอกลวงให้ส่งคลิปถ่ายภาพโชว์เรือนร่างให้กับโมเดลลิ่งปลอมดู  โดยส่วนใหญ่บุคคลที่โดนจะเป็นเพศหญิง ซึ่งทางพวกเราขอยืนยันตรงนี้ว่า จะไม่มีการทักแชทส่วนตัวไปหาใครอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีการคัดนักแสดง จะมีการประกาศผ่านแฟนเพจไทบ้านอย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยไม่มีการว่าจ้างโมเดลลิ่งจัดหานักแสดง อีกทั้งยังไม่มีการการันตีว่า เมื่อมาอยู่กับพวกเราแล้วจะมีชื่อเสียง ซึ่งที่ประสบความสำเร็จ ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถ และโอกาส งานมันเลยออกมาปัง และโด่งดังในปัจจุบัน//

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษlมูลนิธิราษฎร์ประชานุเคราะห์มอบเงินและสิ่งของพระราชทานแด่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย

 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย จ.ศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหัวช้าง ต.ก้านเหลือง อ.ทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินและสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจที่บ้านเรือนเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้งหลัง โดยมี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำ จ.ศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่นางช่อง โพธิ์ศรี นายบุญทรัพย์ แก้วสมุทร และนายบุญช่วย รัตนาม
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 ต.ค.66 ได้เกิดเหตุอัคคีภัยบริเวณบ้านเลขที่ 9, 93, 116, บ้านหัวช้าง หมู่ที่ 12 ต.ก้านเหลือง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะกษ ทำให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง บ้านเลขที่ 3, และบ้านเลขที่ 159 ได้รับความเสียหายบางส่วน โดยมี นางช่อง โพธิ์ศรี นายบุญทรัพย์ แก้วสมุทร นายบุญช่วย รัตนาม นางบุญลบ แก้วสมุทร และนายอภิสิทธิ์ ประมวล เป็นผู้ประสบอัคคีภัย มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งการได้รับเงินและสิ่งของพระราชทานในครั้งนี้ นำความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้แก่ทั้งสองครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
โอกาสนี้ หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน อาทิ สำนักงานเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ ชมรมแม่บ้านมหาดไทย จ.ศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ชมรมนุ่งผ้าไทยใส่บาตร ที่ว่าการ อ.อุทุมพรพิสัย ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมมอบเงินและเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อช่วยบำรุงขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ด้วย

จากนั้น ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 88 บ้านโคก หมู่ที่ 4 ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินและสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจที่บ้านเรือนเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้งหลัง โดยมี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ นายคำรบ เพ็งแจ่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจที่บ้านเรือนเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้งหลัง 

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 23.28 น. วันที่ 4 ต.ค.66 ได้เกิดเหตุอัคคีภัย บริเวณบ้านเลขที่ 88 บ้านโคก หมู่ที่ 4 ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ของนายคำรบ เพ็งแจ่ม ได้รับความเสียหายทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน มูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท ซึ่งการได้รับเงินและสิ่งของพระราชทานในครั้งนี้ นำความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้แก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง//
 
ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl นพ.สสจ.ประกาศแจ้งเตือนให้พยาบาลกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต้นสังกัดตามเดิมด่วนที่สุด หากฝ่าฝืนลงโทษไล่ออกจากราชการ

นพ.สสจ.ประกาศแจ้งเตือนให้พยาบาลกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต้นสังกัดเดิมด่วนที่สุด หากฝ่าฝืนโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากขาดราชการเกินกว่า 15 วันแล้ว ซึ่งเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
วันที่ 25 ต.ค.2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่ได้มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวนประมาณ 103 คนพากันไปรายงานตัวที่ อบจ.ศรีสะเกษ เนื่องจากได้ขอถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามความสมัครใจของตนเอง และมีข่าวว่า คณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2566 มีมติเห็นชอบข้อมูลการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ.และจำนวนบุคลากรที่ประสงค์ถ่ายโอนมาสังกัด อบจ.ในปีงบประมาณ 2567 ตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเสนอ แต่ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งและหนังสือสั่งการแจ้งลงมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งให้ข้าราชการที่ได้รับการถ่ายโอนเพื่อให้ไปปฏิบัติราชการที่สังกัดใหม่แต่อย่างใด  เพียงแต่มีการแจ้งด้วยวาจาว่า ให้ข้าราชการที่มีรายชื่อได้รับการถ่ายโอนทั้ง 103 ราย ให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานใหม่ตามที่ได้รับการถ่ายโอนได้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา  ขณะเดียวกันทางหน่วยงานต้นสังกัดเดิมทั้ง รพ.จังหวัด รพ.อำเภอได้ทำหนังสือเรียกตัวพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ รพ.สต.ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ต้นสังกัดเดิม เนื่องจากว่า ยังไม่มีคำสั่งและหนังสือสั่งการแต่อย่างใด เป็นการไปปฏิบัติราชการสังกัดใหม่ที่ไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมายของทางราชการ 
นายแพทย์ทนง  วีระแสงพงษ์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า เรื่องนี้คงจะต้องดำเนินการตามระเบียบข้าราชการพลเรือนเพราะตอนนี้ต้องถือว่าพยาบาลทุกคนยังเป็นข้าราชการพลเรือน ต้องใช้ระเบียบข้าราชการพลเรือน ดังนั้นในส่วนของบุคลากรสาธารณสุขที่สังกัดอยู่ 5 หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นทางโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ   ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในข้อตกลงของการถ่ายโอนไปยัง  ระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิท้องถิ่นตอนนี้เราได้ทำหนังสือไปที่หน่วยงานต้นสังกัดให้เรียกตัวพยาบาลให้กลับไปปฏิบัติติหน้าที่ยังต้นสังกัดเดิมก่อน เพราะขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเองถ้าเป็น 5 หน่วยงานนี้ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ในระบบตติยภูมิหรือทุติยภูมิคุณสมบัติยังต้องปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของสถานบริการสุขภาพ ทุติยภูมิและตติยภูมิ ให้กลับมาไม่อย่างนั้นทางโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนนี้ก็จะเดือดร้อน ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบเนื่องจากอัตรากำลังขาดหายไปโดยที่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งหากว่ามีพยาบาลผู้ที่ดื้อแพ่งไม่ยอมกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต้นสังกัดเดิม ในเบื้องต้นได้แจ้งไปว่าจะต้องมีการดำเนินการในเรื่องของวินัย ดังนั้นจึงอยากให้บุคลากรทุกท่านได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของระเบียบข้าราชการ  พลเรือนที่ท่านยังสังกัดอยู่ให้กลับมา เพราะขณะนี้หนังสือส่งตัว หนังสืออะไรต่างๆทั้งหลายนั้นจริงๆแล้วยังไม่มีปรากฏแน่ชัด ดังนั้นบุคลากรที่เข้าใจว่าจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่สังกัดใหม่นั้น ยังเป็นข้าราชการในสังกัด ข้าราชการพลเรือน และอีกอย่างหนึ่งเงินเดือนของเดือนนี้ก็ยังเป็นเงินเดือนที่ทางกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ดำเนินการเบิกจ่ายให้ ก็อยากให้บุคลากรกลับมาปฏิบัติ หน้าที่ที่ตนสังกัดเหมือนเดิมโดยขอให้กลับมาในทันทีที่ได้ทราบเรื่องนี้ให้รีบกลับมาโดยด่วนที่สุด เพราะว่ากังวลในเรื่องของการขาดราชการเกิน 15 วันซึ่งถือว่าเป็นวินัยอย่างร้ายแรงและเป็นความผิดชัดแจ้ง โทษคือโดนไล่ออกจากราชการ ก็อยากให้บุคลากรทุกคนได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า ตนขอฝากถึงบุคลากรที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สังกัดใหม่ว่า การดำเนินการต้องเป็นไปตามขั้นตอน การที่จะถ่ายโอนไปอยู่ทางท้องถิ่นนั้นมันก็จะต้องมีขั้นตอนจะต้องมีหนังสือแจ้งมายังปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตรงนี้เท่าที่ทราบมายังไม่เห็นมีหนังสือมาแต่อย่างใด รวมทั้งรายชื่อผู้ที่จะถ่ายโอนไปก็ยังไม่มีรายชื่อปรากฏชัดเจนออกมา ก็จะเห็นมีแค่บางส่วนที่มีอยู่ในข้อตกลงแนวทางโครงการถ่ายโอนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ใน รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไป ส่วนบุคลากรที่อยู่ในสังกัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้ถ่ายโอนไป ก็จะต้องรอมติของคณะกรรมการถ่ายโอนร่วมกัน จะต้องสื่อสารร่วมกันกับทางกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะมีมติร่วมกันอย่างไรในการที่จะให้ถ่ายโอนไป ดังนั้นระหว่างนี้มตินี้ยังไม่ออกมา ก็อยากให้ทั้งในส่วนของบุคลากรที่อยู่ในกลุ่มที่เป็นบุคลากรของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ไม่ได้ถ่ายโอนไปด้วยให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ยังต้นสังกัดเดิม 

นายแพทย์ทนง  วีระแสงพงษ์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ  ยังกล่าวต่อไปว่า ซึ่งกรณีที่บุคลากรได้ทิ้งหน้าที่ราชการไป ปฏิบัติหน้าที่ยังสังกัดใหม่นั้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อโรงพยาบาลสังกัดเดิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าแผนกบางแผนกต้องปิดตัวลงเนื่องจากอัตรากำลังหายไปโดยทันที ไม่ได้มีการเตรียมการความพร้อมอะไร ไม่ได้มอบงาน ไม่ได้ส่งมอบงานใดๆไปเลย บางครั้งมีการจัดเวรเอาไว้แล้วก็ไม่ได้มีการส่งมอบเวรต่อ ฝากเวรต่อหรือทดแทนเวรก็ทำให้เกิดปัญหากระทบต่อการให้บริการประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอย่างมาก//

 
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...