วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl ตำรวจแค้นแม่ค้าทวงเงิน ค่าทุเรียนภูเขาไฟกระโดดถีบหน้าแม่ค้าดั้งหัก ยอมจ่ายเงิน 50,000 บาท

ตำรวจแค้นแม่ค้าทวงเงินค่าทุเรียนภูเขาไฟกระโดดถีบหน้าแม่ค้าดั้งหัก ยอมจ่ายเงิน 50,000 บาท ค่ารักษาดั้งหักและคางแตก แต่ยังค้างจ่ายค่าเสียโอกาศทำมาหากินอีก 90,000 บาท แม่เหยื่อท๊อปบูท โหดเรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและดำเนินคดีอาญาแล้ว
วันที่ 31 ส.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ฑิตยา  บุญพามี  อายุ 27 ปี  และนางเกษร วงค์บา  อายุ 53 ปี  ซึ่งเป็นแม่ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 90/49 หมู่ 11 ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาหลักฐานการแจ้งความดำเนินคดีกับ ดาบนนท์ (นามสมมุติ) ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ และหลักฐานการรักษาพยาบาลเข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูก ดาบนนท์ สวมเครื่องแบบตำรวจเต็มยศกระโดดถีบหน้าที่ร้านกาแฟภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง  และขณะนี้ดาบนนท์ยังคงแวะเวียนมาข่มขู่ จนทำให้ นางเกษร ต้องไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงว่า อาจจะโดนดาบนนท์ทำร้ายร่างกาย  โดยนำเอาคลิปวีดีโอที่โดนดาบนนท์ถีบหน้ามาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบและนำไปตรวจสอบดูสถานที่เกิดเหตุภายในร้านกาแฟที่โดนดาบนนท์กระโดดถีบหน้าจนทำให้ น.ส.ฑิตยา ได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักและคางแตก เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ฑิตยา ได้ไปเสริมความงามที่บริเวณใบหน้ามาแล้ว 
น.ส.ฑิตยา  บุญพามี  เหยื่อตำรวจท๊อปบู๊ทโหด กล่าวว่า เมื่อช่วงประมาณต้นเดือนและกลางเดือน ส.ค. 2566 ดาบนนท์ หรือตานนท์ (นามสมมุติ) ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้มาใช้เครดิตเซ็นทุเรียนภูเขาไฟของตนไปจำนวน 2 ลูก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,350 บาท และบอกกับตนว่าจะจ่ายเงินช่วงสิ้นเดือนนี้ พอถึงวันที่ 28 ส.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. ตนเห็นดาบนนท์เข้ามาที่ร้านกาแฟใกล้กับร้านขายทุเรียนภูเขาไฟของตน โดยดาบนนท์ ได้เปิดหน้าต่างร้านกาแฟออกมา ตนจึงเข้าไปทวงเงินค่าทุเรียนกับดาบนนท์ที่บริเวณหน้าต่างร้านกาแฟ ซึ่ง ดาบนนท์ได้ยื่นเงินให้ตน จำนวน 1,000 บาท แล้วบอกว่า หายกันแล้วนั้น แต่ตนไม่ยอมเพราะว่า ยังขาดเงินค่าทุเรียนอยู่อีกจำนวน 350 บาท จึงทวงเงินอีก ทำให้ดาบนนท์โกรธมากและด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนจึงได้ด่าคืนไปทำให้ดาบนนท์โกรธมาก และใช้เท้าถีบเข้าที่หน้าของตนทำให้ตนเซถลา จนเกือบจะล้มลง  ตนจึงได้รีบวิ่งเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อจะถามดาบนนท์ว่า ถีบหน้าตนทำไม แต่ปรากฏว่า ดาบนนท์ได้ใช้มือลากเก้าอี้มาด้วยคล้ายกับจะใช้เก้าอี้ตีตน ดังนั้น ตนจึงได้วิ่งเข้าไปต่อสู้กับดาบนนท์เพื่อป้องกันตนเอง และต่อมามีพนักงานของร้านกาแฟและเพื่อนของตนมาแยกออกจากกัน ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณดั้งจมูกหักและคางแตก ตนจึงได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.วีรวิชญ์  ศรีโพนดวน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับ ดาบนนท์ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษต่อไป
น.ส.ฑิตยา  เล่าต่อไปว่า  ต่อมาในวันนี้ (31 ส.ค.66) ตนได้รับการประสานงานจาก ร.ต.อ.วีรวิชญ์            ศรีโพนดวน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ แจ้งว่าให้ตนไปตกลงเจรจาค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ตนพร้อมด้วยแม่คือ นางเกสร วงค์บา จึงได้เดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวนและพบกับ ดาบนนท์ โดยตนได้นำเอาใบค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องเสริมจมูกดั้งใหม่ และเสริมคางที่แตก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท และค่าเสียโอกาสในการทำมาหากินเพราะว่าต้องพักรักษาตัวนานหลายวัน โดยคิดค่าเสียหายวันละ 3,000 บาท รวมเป็นเงินทั้ง 90,000 บาท ไปให้พนักงานสอบสวน และดาบนนท์ ได้พิจารณาค่าเสียหาย  ซึ่งปรากฏว่า ดาบนนท์ ได้ยินยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตน จำนวน 50,000 บาท และได้นัดหมายจะจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีกภายในวันที่  15 ก.ย.2566  ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้สึกเสียใจมากที่โดนเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษถีบหน้า เป็น ตร.แทนที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนกลับใช้กำลังทำร้ายประชาชน แล้วแบบนี้ประชาชนจะหันไปพึ่งพาอาศัยใครได้ ตนร้องทุกข์กับสื่อมวลชนเนื่องจากเกรงว่า อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องนี้ เพราะว่า ผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการตำรวจนั่นเอง

นางเกษร วงค์บา  อายุ 53 ปี  แม่ของเหยื่อ ตร.โหด กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเห็นเหตุการณ์ตลอด  และตนได้ร้องตะโกนบอกลูกสาวว่า ระวังด้วยเพราะว่า เห็นดาบนนท์ถือเก้าอี้ไปด้วยเหมือนกับจะใช้เก้าอี้ตีลูกสาวของตน เรื่องนี้ตนเสียใจมากที่ลูกสาวโดนทำร้ายร่างกายจาก ตร.ที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศ  ตนขอให้ผู้บังคับบัญชาของดาบนนท์  ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาสถานหนักด้วย เพื่อเป็นไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

น.ส.เหมียว (นามสมมุติ) พนักงานร้านกาแฟที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และเห็นว่า กำลังจะมีการทะเลาะวิวาทกัน ตนรู้จักทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้งเกรงว่า ทรัพย์สินของทางร้านจะได้รับความเสียหาย ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจรีบเข้าไปห้ามไม่ให้มีการทะเลาะกัน และสามารถห้ามปรามได้ 

ทางด้าน พ.ต.อ.ณัฐกิติ์  เจริญเกษสุวรรณ์  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ  กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายกับ ตร.ที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากว่า เป็นการกระทำที่ผิดวินัยและผิดกฎหมายอาญา ซึ่งตนจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง  2  ฝ่ายตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอย่างเต็มที่///

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ รับโล่กรรมการสงเคราะห์ดีเด่น 2 ปี ซ้อน

ดร. กัลยาณี ธรรมจารีย์ รับโล่กรรมการสงเคราะห์ดีเด่น 2ปีซ้อน ระดับกรมและระดับดีมาก
วันที่ 30 ส.ค.66  นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานมอบเกียรติบัตรพร้อมโล่แก่คณะกรรมการสงเคราะห์ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2564 ระดับกรม  และคณะกรรมการสงเคราะห์ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2565 ระดับดีมาก ก่อนการประชุมคณะกรมการจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 8/2566 ณ ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ   โดยนายเนฤมิตร ธรรมสละ ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายเอกณรงค์ วงศ์ธีระศักดิ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการเป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสาวอรทัย  บุตรศรี  นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการและ นางสาวพจมาน ผูกจันทร์  เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน นำคณะกรรมการสงเคราะห์เข้ารับรางวัล   
นายเอกณรงค์ วงศ์ธีระศักดิ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ กล่าวว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ได้มีคณะกรรมการสงเคราะห์ประจำสถานพินิจที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการสถานพินิจ ช่วยเหลือกิจการสถานพินิจเพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน ซึ่งกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนพิจารณาคัดเลือกกรรมการสงเคราะห์ดีเด่นประจำปี 2564 และประจำปี 2565 จำนวน 3 ระดับ คือ ระดับดี ระดับดีมาก และระดับกรม 

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ มีคณะกรรมการสงเคราะห์ จำนวน 26 ท่าน และได้รับการคัดเลือกจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรมให้ได้รับรางวัลคณะกรรมการสงเคราะห์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2564 ระดับกรม จำนวน 1 ท่าน ได้แก่ นางกัลยาณี ธรรมจารีย์ และระดับดีมาก จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ นางจันทร์จิรา แนวมั่น นางจันทร์เพ็ญ กุย นายสถิตย์ โลปัตถา และกรรมการสงเคราะห์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2565 ระดับดีมาก จำนวน 1 ท่าน ได้แก่ นางกัลยาณี ธรรมจารี///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl ส.นว อ.อีสาน ประสานมือ มรภ.อุบลฯ และหอการค้า อุบลฯ สร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง" รู้เท่าทันสื่อ" ไม่ตกเป็นเหยื่อสื่อออนไลน์

ส.นวอ.อีสาน ประสานมือ มรภ.อุบลฯ และหอการค้าอุบลฯ สร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง “รู้เท่าทันสื่อ” ไม่ตกเป็นเหยื่อสื่อออนไลน์
วันที่  30 ส.ค.2566 พ.ท.พิสิษฐ์  ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อฯ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า สมาคมเครือข่ายฯภาคอีสานได้ร่วมกับ ม.ราชภัฎอุบลฯ และหอการค้าจังหวัดอุบลฯ จัดโครงการพัฒนาทักษะเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่น ภาคอีสาน “รู้เท่าทันสื่อ ไม่หลงเชื่อโฆษณา”ระหว่างวันที่ 26 – 27 สิงหาคม 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.อ.นิรุทธ เกตุสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและบรรยายพิเศษ และ รศ.สนธยา เกาะสมบัติ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวเปิดการอบรม คณะวิทยากรได้รับเกียรติจาก ดร.ปณิสญา อธิจิตตา อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ,นายมงคล จุลทัศน์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ,คุณธัญวรัตน์ ศิริพานทอง กรรมการ บริษัท เบน เบน ฟู๊ด จำกัด ,นายทองวรรณ จิตโชติ นายก อบต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ,อาจารย์จำรัส จันทนาวิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์แมนรัตน์ แปลกลำยอง ผู้อำนวยการกิจกรรมการตลาดดิจิทัล บริษัท ซูพรีโม จำกัด ในเครือสยามพิวรรธน์ โดยมี นักศึกษา ผู้ประกอบการ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมโครงการรวม 158 คน
พล.อ.นิรุทธ เกตุสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าสื่อออนไลน์ มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทข่าวสาร ติดตามกระแสหรือเทรนด์ต่าง ๆ และสื่อออนไลน์ มีความสะดวกสบายในการใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนนิยมใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งสื่อออนไลน์นับว่าเป็นดาบสองคม ที่อาจเกิดจากการลอกเลียนแบบ ส่งผลเสียต่อตนเองและคนรอบตัวได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสื่อออนไลน์มีแต่ผลเสีย บางครั้งการอ่านข่าวหรือตามกระแสต่าง ๆ อาจเป็นการช่วยเตือนภัยหรือทำให้เราระมัดระวังตัวมากขึ้น แค่เรามีโทรศัพท์เครื่องเดียว ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี หากเราเอาสื่อออนไลน์มาใช้ในทางที่ดี มันก็จะเกิดประโยชน์อย่างมาก สามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับเราได้ การใช้งานสื่อออนไลน์ ควรจะระมัดระวังตัวเองเสมอ เพราะเป็นเหมือนดาบสองคน ถ้าเราเอาไปใช้ในทางที่ผิดมันก็เกิดผลเสียกับเรา แต่ถ้าเราเอาไปใช้ในทางที่ถูก มันก็เป็นประโยชน์มากมายเหมือนกัน อยู่ที่คนใช้ว่ามีจุดประสงค์อะไรในการใช้สิ่งนี้ 
รศ.สนธยา เกาะสมบัติ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวว่า การเข้าถึงสื่อออนไลน์ในปัจจุบันทำได้ง่ายขึ้น เป็นโอกาสดีในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ แต่หากเราใช้สื่อออนไลน์โดยไม่รู้จักไตร่ตรอง ก็อาจเป็นอันตรายได้ สังคมสื่อออนไลน์ นอกจากจะเป็นพื้นที่ไว้สนทนาหรืออัปเดตข่าวสารต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ดีเยี่ยมอีกช่องทางหนึ่ง แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น เราต้องมีการศึกษาข้อมูลเพื่อลดความเสี่ยง และเพื่อให้รู้แนวทางว่าควรทำอย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มช่องการขาย ขยายตลาด และเพิ่มยอดสั่งซื้อของลูกค้าที่จะเข้ามาชม ช่องทางในการสั่งซื้อสินค้า และสร้างนักขายของออนไลน์ ซึ่งในการจัดการอบรมครั้งนี้ ก็ได้วิทยากรที่ทรงคุณวุฒิ และเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวมาให้ความรู้ ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านได้เก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ที่ท่านวิทยากรได้นำมาเสนอและเรียนรู้ ขอให้การอบรมทั้ง ๒ วัน เป็นการอบรมที่เต็มไปด้วยความรู้ ความชำนาญการ เพื่อที่ผู้เข้ารับการอบรมจะได้นำไปต่อยอด สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (ส.นวอ.อีสาน) กล่าวว่า ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สื่อออนไลน์ทำให้คนเข้าถึงกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็ตาม สามารถที่จะติดต่อกันได้ และดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลมากที่สุดกับคนในยุคนี้ ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ดี ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาล แต่ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี ก็สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหันต์ เราจะเห็นเด็กวัยรุ่นมากมาย มีปัญหากับเรื่องสื่อโซเชียล ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ //

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl บิ๊กโจ๊ก ลุยติดตามคดีฆ่าโหดปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ เตรียมแก้กฎหมายอาวุธปืนบีบีกัน ผู้ใดมีไว้ครอบครองจะผิดกฎหมายทั้งหมด

บิ๊กโจ๊ก ลุยติดตามคดีฆ่าโหดปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ เตรียมแก้ไขกฎหมายอาวุธปืน บีบี กัน  ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะผิดกฎหมายทั้งหมด
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 28 ส.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย คณะนายตรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาติดตามการดำเนินคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายบุญชอบ  พวงจำปา  ปลัดอาวุโส  อ.กันทรารมย์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ  10.30 น. ของวันที่ 27 ส.ค.2566 ที่บริเวณถนนสาธารณะระหว่างบ้านโคก -บ้านหนองกี่ บริเวณตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกี่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งต่อมา  พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา  ผกก.สภ.กันทรารมย์  เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์และชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ สามารถจับกุมคนร้ายได้คือ นายอรรถมงคล   สมแก้ว หรือแจ็ค  บ้านโคก  อายุ 28  ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/2 หมู่ 5 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  มาดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน  ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษ ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ  โดยมี พล.ต.ท.สมประสงค์  เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ นายธาตรี สิริรุ่งวนิช ปลัด จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา  ผกก.สภ.กันทรารมย์ และนายอิทธิพล  สุยะลา  นายอำเภอกันทรารมย์ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปเรื่องคดีนี้ให้ทราบ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงนายบุญชอบ  พวงจำปา  ปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ เสียชีวิต และได้นำเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดของกลางเป็นปืนขนาด .380 เป็นปืนบีบี กัน ดัดแปลงพร้อมซองกระสุนปืนและกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด ที่ซุกซ่อนเอาไว้ริมสระน้ำใกล้บ้านพักของตนเอง   คดีนี้ตนต้องขอชมเชย  ผบช.ภาค 3 ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ผกก.สภ.กันทรารมย์และทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบสืบสวนสอบสวนทราบว่า สาเหตุการฆ่าโหดมีมูลเหตุจูงใจเกิดจากตัวผู้ต้องหามีความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายว่ากล่าวเรื่องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ก่อคดีมาแล้วหลายคดีทั้งพยายามฆ่า เสพยาเสพติดให้โทษ โดยเฉพาะคดีหลักคือคดียาเสพติดและน่าจะเป็นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อด้วยอยู่ในพื้นที่ด้วย  ซึ่งคดีนี้ตนสั่งให้คัดค้านการปล่อยตัวผู้ต้องชั่วคราว เนื่องจากว่าเป็นคดีที่ร้ายแรงมาก อีกทั้งพยานหลักฐานต่าง ๆ ครบถ้วน มั่นใจว่าสามารถที่จะดำเนินคดีลงโทษผู้ต้องหาตามกฎหมายได้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อไปว่า  ขณะนี้ตนได้มีการประชุมร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับกฎหมายอาวุธปืน ที่มีการนำเอาปืนบีบีกันแล้วนำมาดัดแปลงใช้กระสุนปืนจริงทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิต ซึ่งได้มีการพูดคุยกันกับคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงมหาดไทยแล้ว จะทำการแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้ โดยจะดำเนินการดังนี้คือ 1.ปืนบีบีกันมีครอบครองเอาไว้ก็จะผิดกฎหมายทั้งหมด  2. ถ้าศุลกากรไม่อนุญาตให้นำเข้าปืนพวกนี้เข้ามาก็นำเข้าไม่ได้การนำเข้าจะต้องขออนุญาต ซึ่งตนกำลังจะไปแก้ที่ต้นตอ ตอนนี้อยู่ระหว่างการร่างระเบียบต่างๆแก้กฎหมายกันอยู่ ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แน่นอนว่าการปราบปรามก็ต้องทำและการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะต้องทำควบคู่ไปด้วยเป็นคู่ขนาน เนื่องจากว่าอาวุธปืนบีบีกันหาซื้อง่ายกระบอกละไม่กี่พันบาทและมีการส่งทางขนส่งเอกชนทำให้ถึงมือผู้รับที่สั่งซื้อได้อย่างรวดเร็วมาก///

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl ความคืบหน้า รัว 5 นัด ฆ่าโหดปลัดอาวุโส อ.กันทรลักษ์ ตำรวจจับกุมมือปืนโหดได้แล้วรับสารภาพแค้นฆ่า เพราะโดนด่าเรื่องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

คืบหน้ารัว 5 นัดฆ่าโหดปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ ตำรวจจับกุมมือปืนโหดได้แล้ว รับสารภาพแค้นฆ่าเพราะโดนด่าเรื่องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตั้งข้อหาหนักฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่ นายอำเภอกันทรารมย์เผยการเสียชีวิตของนายบุญชอบไม่เกี่ยวกับงานในหน้าที่แต่อย่างใด 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุมีชายถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ที่ถนนสาธารณะระหว่างบ้านโคก -บ้านหนองกี่ บริเวณตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกี่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา  ผกก.สภ.กันทรารมย์  ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และได้นำพนักงานสอบสวนไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีแพทย์เวรจากโรงพยาบาลกันทรารมย์ร่วมไปตรวจสอบด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบศพชายทราบชื่อว่า นายบุญชอบ พวงจำปา อายุ 53 ปี ที่อยู่ 114 ม.11  ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน นอนคว่ำหน้าอยู่ที่ข้างทางต้านทิศใต้ พบบาดแผลเป็นรอยกระสุนเข้าที่บริเวณท้ายทอยของศีรษะ และพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ยี่ห้อยามาฮ่า  รุ่นฟิโน่  สีฟ้าขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงด้านซ้าย หันหน้ารถไปทางทิศตะวันตก และพบปลอกกระสุนปืนทองเหลือง ขนาด .380 จำนวน 2  ปลอก ตกอยู่ที่พื้นถนน ห่างจากศพประมาณ 5  เมตร ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์  ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์ และชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เร่งไล่ล่าจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วนที่สุด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 28 ส.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสาธารณะระหว่างบ้านโคก -บ้านหนองกี่ บริเวณตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกี่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ  พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์  ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์  พ.ต.อ.กฤษณ์  พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.ยุทธศาสตร์  ลือขจร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เทอดชัย  เครืออาจ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.กันทรารมย์  ร.ต.อ.ทวีศักดิ์  จันทรง ร้อยเวรสอบสวน เจ้าของคดี เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ  และกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.กันทรารมย์ ได้นำตัวมือปืนโหดรายนี้คือ นายอรรถมงคล สมแก้ว อายุ 28  ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/2 หมู่ 5 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  ซึ่งนายอรรถมงคล ถูกจับกุมได้เมื่อช่วงกลางคืนของวันที่  27 ส.ค.2566  ที่บ้านพักของนายอรรถมงคล และได้ถูกเจ้าหน้าที่ ตร.นำตัวมาทำการเค้นสอบสวนอย่างหนัก อีกทั้งจนมุมต่อพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ตร. ทำให้นายอรรถมงคล ได้ให้การรับสารภาพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.ของวันที่ 28 ส.ค.2566 ว่า เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงนายบุญชอบ  พวงจำปา  ปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ เสียชีวิต และได้นำเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดของกลางเป็นปืนขนาด .380 เป็นปืนดัดแปลงพร้อมซองกระสุนปืน จำนวน 2 ซอง และกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ที่ซุกซ่อนเอาไว้ริมสระน้ำใกล้บ้านพักของตนเอง 

โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดแรกเป็นจุดที่นายอรรถมงคล  ใช้อาวุธปืนยิงนายบุญชอบ จนล้มลงไปข้างทางและยิงซ้ำไปที่ร่างของนายบุญชอบ  จากนั้น  ได้นำตัวนายอรรถมงคล ไปทำแผนจุดที่นำเอาปืนของกลางไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณริมสระน้ำใกล้บ้านของนายอรรถมงคล โดยมีบรรดาญาติพี่น้องของนายบุญชอบ เหยื่อสังหารโหดและชาวบ้านโคก พากันมามุงดูเหตุการณ์ และต่างพากันร่ำไห้ ร้องตะโกนด่าสาปแช่ง นายอรรถมงคล ที่ได้ไปฆ่านายบุญชอบ ซึ่งเป็นคนที่ชาวบ้านทุกคนรักนับถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า นายบุญชอบเป็นคนดีชอบช่วยเหลือชาวบ้านทุกคน 

นางทอง (นามสมมุติ) อายุ  50 ปี  แม่ของนายอรรถมงคล  ผู้ต้องหารายนี้  กล่าวว่า  ตนยอมรับว่า  นายอรรถมงคล ลูกชายของตนติดยาบ้ามานานแล้ว  แต่ว่าไม่เคยตีหรือว่าทำร้ายแม่รวมทั้งคนในบ้านแต่อย่างไร  อีกทั้งตนไม่เคยเห็นนายบุญชอบเข้ามาที่บ้านของตนแต่อย่างใด และไม่ทราบว่า นายบุญชอบ ได้ด่าว่านายอรรถมงคล ลูกชายของตนหรือไม่  ซึ่งนายอรรถมงคล ลูกชายของตนเป็นคนดี ทำงานหาเงินช่วยเหลือครอบครัวเป็นอย่างดี  ตนไม่ทราบว่า เพราะเหตุใดนายอรรถมงคล จึงได้ไปใช้อาวุธปืนยิงนายบุญชอบ พวงจำปา  คนในหมู่บ้านเดียวกันเสียชีวิตในครั้งนี้

พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์ ได้ออกสืบสวนโดยการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่อยู่ตามเส้นทางที่คนร้ายที่ก่อเหตุหลบหนี ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุได้จับภาพตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุในที่เกิดเหตุได้อย่างชัดเจน  จนทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นคนร้ายในการก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนที่ สภ.กันทรารมย์ จนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำพาตรวจค้นของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุที่บริเวณริมสระน้ำข้างบ้านของผู้ต้องหา จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด เพื่อประกอบการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า สำหรับของกลางที่ตรวจยึดมาได้ ประกอบด้วย กระเป๋าสะพายสีนำตาล 1 ใบ  เสื้อลายพราง 1 ตัว หมวก 1 ใบ  กางเกงขาสั้นสีดำ 1 ตัว  รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ 1 คัน อาวุธปืนพกสั้น ชนิดประดิษฐ์เอง (ดัดแปลง) ขนาด .380 มม. 1 กระบอก  กระสุน .380 มม. 1 นัด  พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ได้ตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายอรรถมงคล ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า  สาเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงนายบุญชอบถึงแก่ความตายนั้น เนื่องจากว่า โกรธที่โดนนายบุญชอบด่าว่า เรื่องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและนำเอายาบ้ามาขายในหมู่บ้าน  โดยในวันเกิดเหตุ นายอรรถมงคล ขับรถมาจากทำธุระนอกบ้าน และขับรถ จยย.เข้าในหมู่บ้านโคก ได้เห็นนายบุญชอบ ขับขี่รถ จยย.ออกไปทางบ้านหนองกี่  นายอรรถมงคลจึงได้ขับรถ จยย.ติดตามไป  และได้มาดักซุ่มอยู่ที่ทางโค้งก่อนถึงจุดเกิดเหตุ และเมื่อนายบุญชอบขับรถ จยย.กลับมา  นายอรรถมงคล จึงได้ขับรถ จยย.ติดตามมาประกบด้านหลังและใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายบุญชอบ 1 นัด ทำให้นายบุญชอบล้มลง จากนั้น นายอรรถมงคล ได้ใช้อาวุธปืนยิงซ้ำเข้าไปที่ตัวของนายอรรถมงคลอีก 2 นัด  ได้ขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป และต่อมาโดนเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้พร้อมของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้

นายอิทธิพล  สุยะลา  นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า  นายบุญชอบ  พวงจำปา เป็นข้าราชการที่ดีตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งสิ้น ตนขอยืนยันว่า สาเหตุการเสียชีวิตของนายบุญชอบไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานในหน้าที่แต่อย่างใด ไม่มีการทุจริต อีกทั้ง อ.กันทรารมย์ ได้รับงบประมาณในแต่ละปีจำนวนไม่มาก ส่วนเรื่องการดูแลให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายบุญชอบนั้น ตนได้รายงานให้หน่วยเหนือทราบแล้ว เพื่อจะได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางทางราชการอย่างเต็มที่ต่อไป

ทางด้าน นายสุรชาติ  ชาญประดิษฐ์  ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  ตนขอชื่นชมที่ พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ และ ตร.สภ.กันทรารมน์ทุกนาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ที่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างรวดเร็วมาก  โดยส่วนตัวแล้ว ตนไม่เชื่อว่า นายบุญชอบจะถูกยิงเสียชีวิตเพราะเรื่องการป้องกันปราบปรามยาเสพติดเพียงเรื่องเดียว  น่าจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่านี้เป็นประเด็นสั่งตายด้วย  ตนขอให้เจ้าหน้าที่ ตร.ได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดมากกว่านี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ทำให้นายบุญชอบ  พวงจำปา  ปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นคนดีเป็นที่รักของชาว อ.กันทรารมย์ ทุกคน ต้องมาถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้ ///

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl มือปืนโหดกระหน่ำยิง 5 นัด ฆ่าปลัดใหญ่ อ.กันทรารมย์ ผกก สภ.กันทรารมย์ สั่งชุดสืบสวนเร่งไล่ล่า ติดตามจับกุมคนร้าย

 มือปืนโหดกระหน่ำยิง 5 นัดฆ่าปลัดใหญ่ อ.กันทรารมย์ ผกก.สภ.กันทรารมย์สั่งชุดสืบเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้าย  สาเหตุคาดว่าเกิดจากปัญหาในหน่วยงานเรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 27 ส.ค.2566  ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ จันทรง ตำแหน่ง รอง สว. (สอบสวน ) ขณะปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.กันทรารมย์ว่า เกิดเหตุ มีชายถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ที่ถนนสาธารณะ ระหว่างบ้านโคก -บ้านหนองกี่ บริเวณ ตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกี่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ธัชพงศ์  พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ทราบ และรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์  โดยมีแพทย์เวรจากโรงพยาบาลกันทรารมย์ ร่วมไปตรวจสอบด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบศพของชายคนหนึ่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน นอนคว่ำหน้าอยู่ที่ข้างทางด้านทิศใต้ พบบาดแผลเป็นรอยกระสุนเข้าที่บริเวณท้ายทอยของศีรษะ ทราบชื่อว่า นายบุญชอบ พวงจำปา อายุ 53 ปี ที่อยู่ 114 ม.11 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ   อาชีพรับราชการตำแหน่ง ปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์ ใกล้กัน พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีฟ้าขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงด้านซ้าย หันหน้ารถไปทางทิศตะวันตก 
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนทองเหลือง ขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก ที่ตกอยู่ที่พื้นถนนห่างจากศพ ประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด ถ่ายภาพ และ ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพร่วมกับ นพ. พงษ์เสก สมสุข แพทย์ โรงพยาบาลกันทรารมย์  และ น.ส.อรวรรณ  เกษแก้ว ภรรยาของผู้ตายตามกฎหมาย จากนั้น ได้นำศพของผู้ตาย ส่งไปที่โรงพยาบาลกันทรารมย์ เพื่อตรวจชันสูตร โดยละเอียด และจะได้ส่งศพของผู้ตายไปตรวจชันสูตรพลิกศพ ที่ แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศรีสะเกษ ต่อไป 
จากการสอบสวน นายบัณฑิต  สุวรรณบุตร  อายุ   54  ปี ชาวบ้านพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจากบ้านโคก ต.ยาง ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ตายกับครอบครัว จากนั้น ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาซื้อบุหรี่และกาแฟกระป๋อง ที่หมู่บ้านหนองกี่ ต่อมา ผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านโคก และได้มี คนร้ายเป็นชายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิง สีแดงดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สวมเสื้อสีเขียว ลายพรางทหาร  สวมหมวกผ้าแบบปีกชนิดมีที่ปิดหน้า สีเขียวลายพลางทหาร ติดตามผู้ตายมาทางด้านหลัง เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงผู้ตายทางด้านหลัง จำนวน 5 นัด จนผู้ตายล้มลงไปนอนคว่ำอยู่ข้างทาง รถจักรยานยนต์ได้ล้มลง  จากนั้น คนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปทางทิศตะวันตกทางไปบ้านโคก   

พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ กล่าวว่า  ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจเช็คกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย  และได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาสาเหตุของการฆ่าโหด ป.ใหญ่ อ.กันทรารมย์ในครั้งนี้  ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องปัญหาส่วนตัว ปัญหาเรื่องการทำงาน ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนสืบสวนเพื่อนำตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

น.ส.อรวรรณ เกษแก้ว   อายุ  45 ปี  ภรรยาของผู้ตายเหยื่อมือปืนโหดรายนี้ กล่าวว่า  ก่อนเหตุ นายบุญชอบ สามีของตน ได้บ่นว่า ปวดหัวจากเรื่องงาน และวันนี้ค่อนข้างเครียดมาก  จากนั้น ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปซื้อกาแฟกระป๋องและบุหรี่ที่บ้านหนองกี่  และต่อมาตนได้รับแจ้งจากญาติว่า นายบุญชอบสามีของตนโดนคนร้ายยิงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าศูนย์เด็กเล็ก อบต.ยาง ทำให้ตนตกใจและเสียใจมาก  ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุแต่อย่างใด แต่ว่า นายบุญชอบ มีอาการค่อนข้างเครียดจากเรื่องงานมาก บ่นเรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  ส่วนการประกอบพิธีทางศาสนานั้น ตนจะนำศพของนายบุญชอบ ไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเทิน ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์  ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ นายบุญชอบ  สามีของตน เนื่องจากว่า นายบุญชอบ มีแม่อายุ 81 ปี  ที่มีชีวิตอยู่ และนายบุญชอบ จะนำเอาอาหารไปส่งให้แม่เป็นประจำทุกวัน เพราะว่านายบุญชอบเป็นลูกชายที่รักแม่มาก

นพ.อดุลย์  โบจรัส  ผอ.รพ.กันทรารมย์  กล่าวว่า  จากการตรวจสอบสภาพศพของนายบุญชอบ เบื้องต้น พบว่า โดนยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยซ้าย สะบักซ้าย และบั้นเอวด้านซ้ายจุดละ 1 นัด  ซึ่งจะได้ส่งศพไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อตรวจชันสูตรศพอย่างละเอียดประกอบการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนต่อไป

นายสุรชาติ  ชาญประดิษฐ์  ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2 พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  นายบุญชอบ  พวงจำปา ปลัดอาวุโส อ.กันทรารมย์  เป็นข้าราชการที่ดีมีความตั้งใจในการทำงานเพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนชาว อ.กันทรารมย์อย่างเต็มที่มาโดยตลอด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช่วงเกิดเหตุอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ ปรากฏว่า  เขต อ.กันทรารมย์ โดนน้ำท่วมรุนแรงมาก  ซึ่งขณะนั้น นายบุญชอบ รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอกันทรารมย์ ได้นำคณะข้าราชการร่วมกับทุกภาคส่วนออกทำการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ทำให้ได้รับคำชมเชยจากทุกภาคส่วนที่สามารถทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างดีเยี่ยม  ตนจึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ ตร.ให้ช่วยกันติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยด่วนที่สุดด้วย/

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นครสวรรค์l ตลาดย่านเศรษฐกิจ เทศบาลหนองบัว วิกฤตหนัก ฝนตกเพียงแค่ 1 ชั่วโมงน้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั่วหน้าครั้งที่ 2

ตลาดย่านเศรษฐกิจ เทศบาลหนองบัว วิกฤตหนัก ฝนตกเพียงแค่ 1 ชั่วโมง น้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในเขตทั่วหน้า ครั้งที่ 2 

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2566 ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้ในเขต ตลาดย่านเศรษฐกิจ เทศบาลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วมขังระดับน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว สาเหตุเกิดจากท่อระบายขนาดเล็กน้ำระบายไม่ทันท่วงที น้ำทะลักจากท่อ จากการทำถนน 225 ผ่านจากสี่แยกหนองบัว-อำเภอชุมแสง ถนนสูงเกินความเป็นจริง เวลาฝนตกเป็นเวลานาน น้ำฝนจะไหลจากบนถนนลงสู่ บ้านเรือนประชาชนทั้งสองฝั่งในเขตเทศบาล ทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้นจนท่อระบายน้ำไม่ทันท่วงทีเพราะท่อขนาดเล็กเกินไป 
วันนี้ ฝนก็ตกหนักกว่าครั้งที่แล้ว ระดับน้ำก็สูงขึ้นเร็วมาก นายกวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว ก็ออกสำรวจเส้นทางและเร่งระบายน้ำออกจากเขตเทศบาล อย่างสุดความสามารถแล้ว 
เรื่องปัญหาน้ำท่วม เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่ชาวอำเภอหนองบัวในเขตเทศบาล ต้องการให้แก้ไข ไม่ใช่ปล่อยให้แต่เทศบาล เร่งแก้ไขอยู่ฝ่ายเดียว        
    ฝาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ท่านนายอำเภอหนองบัว อธิบดีกรมทางหลวง และแขวงทางหลวงตากฟ้า ช่วยลงมาแก้ปัญหาที

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl เลี้ยงคอลเซ็นเตอร์อาละวาดหนักดูดเงินแม่เลี้ยงเดี่ยวเกลี้ยงธนาคาร

แก๊งค์คอลเซนเตอร์อาละวาดหนักดูดเงินแม่เลี้ยงเดี่ยวเกลี้ยงธนาคาร  เผยเป็นเงินที่สะสมมาทั้งชีวิตเพื่อเป็นทุนการศึกษาบุตรและเลี้ยงดูพ่อแม่ ขณะที่ ตร.และธนาคารเร่งอายัดเงินช่วยเหลือเหยื่อแล้วแต่ไร้ผลเงินหายเกลี้ยง
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 25 ส.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.ใหม่ อยู่เย็น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.12 ต.โนนคูณ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ  พร้อมด้วยพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.ท.ทองพูน  ประกอบกิจ  สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อนำเอาหลักฐานเกี่ยวกับการถูกแก๊งค์คอลเซนเตอร์มาหลอกให้โอนเงินไปจนเกลี้ยงบัญชีธนาคาร นำเอามามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ 
น.ส.ใหม่ อยู่เย็น อายุ 30 ปี กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2566 ตนได้มาแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธนพล โนโชติ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2566 เวลาประมาณ 10.12 น. ได้มีหมายเลขโทรศัพท์ 093 -7470633 ส่งลิงค์เกี่ยวการติดตามพัสดุมาทางข้อความของตนที่หมายเลขโทรศัพท์ ******โดยแจ้งว่า พัสดุที่ตนส่งไปยังกรุงเทพฯมูลค่าประมาณ 2,000 บาท นั้นได้รับความเสียหาย หากต้องการรับเงินชดเชยพัสดุที่เสียหายให้กดเข้าไปดู ปรากฎว่าเป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกนไลน์ ตนจึงได้ใช้เครื่องโทรศัพท์หมายเลข *******สแกนเข้าไป ปรากฎเป็นไลน์ชื่อบัญชี "F Ex" จากนั้นได้สนทนากัน ไลน์ชื่อบัญชี "F  Ex "จึงได้ส่งลิ้งค์มาให้ตน  ซึ่งตนกดเข้าไปอีก และให้ตนกลับไปทำตามขั้นตอนเครื่องโทรศัพท์ที่ได้รับลิ้งค์ครั้งแรก ตนจึงได้ส่งลิ้งค์ดังกล่าวไปทาง Messenger Facebook ของหลานสาว จากนั้นตนจึงได้ใช้โทรศัพท์เครื่องแรกเข้าไปที่ Messenger Facebook ที่ได้ส่งให้หลานสาว  ซึ่งตนได้กดเข้าไปและได้กดดาวน์โหลด  แอพส่งของ F  Ex   กดติดตั้งและกดรับการตั้งค่าต่างๆในโทรศัพท์ ซึ่งขณะนั้นได้มีโทรศัพท์หมายเลข 062-0370732 ได้โทรมาบอกวิธีติดตั้งแอพและให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ผู้แจ้งได้ทำตามขั้นตอนจนทำการติดตั้งสำเร็จ
น.ส.ใหม่ อยู่เย็น อายุ 30 ปี กล่าวต่อไปว่า  จากนั้น ไลน์ชื่อบัญชี "F  Ex "ได้โทรเข้ามาให้ตนส่งคิวอาร์โค้ดธนาคารกรุงเทพของผู้แจ้งไปให้และให้ตนโอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงเทพไปยังบัญชีธนาคารอื่นของตนก่อนชัก 30-50 เปอร์เซ็นต์  ตนจึงได้โอนไปรวมทั้งหมด 159,107 บาท ไปยังบัญชีธนาคาร ธกส. ชื่อบัญชี น.ส.ใหม่ อยู่เย็น หมายเลขบัญชี ********* จากนั้นสายได้หลุดไป จากนั้น ตนผิดสังเกตุพบเห็นเป็นรูปคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของตน จึงได้เข้าไปตรวจสอบในแอพธนาคาร ธกส. พบว่า เงินในบัญชีธนาคารของตนทั้งหมด จำนวน 163,226 บาท ได้ถูกดูดหายไปหมดเกลี้ยงบัญชีธนาคาร ตนจึงได้โทรศัพท์ไปยังธนาคาร ธกส. ได้รับแจ้งจากธนาคารว่า บัญชีที่ปลายทางที่บัญชีธาคาร ธกส.ของผู้แจ้งได้โอนไป คือ บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี ********=ชื่อบัญชี สุพรรณสา และถูกโอนเข้าไปยัง บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี ******** ไม่มีชื่อบัญชี ตนเชื่อว่าถูกหลอกลวง ทำให้ตนได้รับความเสียหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนติดตามเงินของตนให้ด้วย และให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

น.ส.ใหม่ อยู่เย็น อายุ 30 ปี ยังกล่าวด้วยว่า เงินในบัญชีธนาคารที่ถูกดูดเอาไปเป็นเงินที่ตนสะสมมานานหลายสิบปีแล้ว เพื่อหวังให้เงินก้อนนี้ ซึ่งเป็นเงินก้อนเดียวในชีวิตของตนที่ต้องการเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกชายของตน เนื่องจากว่า ตนเป็นแม่เลี่ยงเดี่ยว และต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่ชรามากแล้ว ซึ่งการที่ตนโดนดูดเอาเงินจากธนาคารไปจนหมดสิ้น ทำให้ตนเศร้าเสียใจมาก  ขณะนี้ตนไม่เหลือเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ทำให้ชีวิตตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก

นางหวัน  อยู่เย็น  อายุ 66 ปี  แม่ของ น.ส.ใหม่  กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนสงสารลูกสาวมาก เพราะว่า เขาเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพังคนเดียว การที่เงินถูกลักเอาไปจนหมดเกลี้ยงธนาคารแบบนี้ทำให้ครอบครัวพวกตนได้รับความลำบากมาก  ตนขอฝากไปถึงคนร้ายว่า ไม่ควรที่จะใช้วิธีนี้ในการหากิน เพราะว่า เป็นบาปกรรมมากที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริสุทธิ์ที่หากินสุจริต

ทางด้าน พ.ต.ท.ทองพูน  ประกอบกิจ  สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ  กล่าวว่า  คดีนี้ตนจะสั่งการให้ร้อยเวรเจ้าของคดีเร่งดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้ประสานงานกับทางธนาคารเพื่อทำการอายัดเงินที่ถูกดูดเอาไป และจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษl กอช ขับเคลื่อนส่งเสริมวินัยการออมในกลุ่มนักเรียนออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี

กอช.ขับเคลื่อนส่งเสริมวินัยการออมในกลุ่มนักเรียน ออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุด 1,800 บาทต่อปี  มีความคุ้มครองผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และเงินออมสะสมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน
วันที่ 25 ส.ค. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 3 โรงแรมเกษสิริ อ.เมื จ.ศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช.ในกลุ่มนักเรียน ซึ่งคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น โดยมีการบรรยายในหัวข้อ"การส่งเสริมการออมกับ กอช. ในกลุ่มนักเรียนและการสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ กอช." โดย น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช.ตอบข้อซักถาม และทำแบบประเมินหลังการประชุม (Post-Test) บรรยายการวางแผนทางการเงินโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่  ดร.อุดมศักดิ์  เพชรผา  ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้แทนจาก ร.ร.ระดับมัธยมศึกษาในจังหวัด  ร.ร.ละ 6 คน ประกอบด้วย  ผอ.ร.ร. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และตัวแทนนักเรียน(ประธาน/รองประธานสภานักเรียน) นายกสมาคมผู้ปกครองและครูของ ร.ร จำนวน 80 คน มาเข้าร่วมประชุม
นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ส่วนราชการด้านการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และทุกท่านมาพร้อมเพรียงกันในกิจกรรม "กอช. ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประชุมมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนส่งเสริมวินัยการออมกับกอช. ในกลุ่มนักเรียน" นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะร่วมกันส่งเสริมให้คนไทยแรงงานนอกระบบรวมทั้งนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ ได้ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงิน บริหารเงินของตนเองให้งอกเงยเพิ่มขึ้น ซึ่ง กอช. เป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยสร้างวินัยการเงินกับเยาวชนและประชาชนทั่วไปให้ผลตอบแทนที่ดีมาก และเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณให้กับนักเรียน นักศึกษา เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เริ่มต้นออมได้ตั้งแต่วัยเรียนอายุ 15 ปี จนเข้าสู่วัยทำงานถึงอายุ 60 ปี ออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุด 1,800 บาทต่อปี และมีความคุ้มครองผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และเงินออมสะสมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเต็มจำนวน ในปี 2565 ที่ผ่านมา  จ.ศรีสะเกษ ได้มีการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมกับ กอช. ผ่านเสมียนตราอำเภอ และตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน หน่วยรับสมัครสมาชิกและเครือข่าย กอช. ในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนสมาชิก กอช. สะสมตั้งแต่ พ.ศ. 2558-2565 ทั้งสิ้น 85,471 คน และมีเป้าหมายการสร้างตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ทั้งสิ้น 2,069 คน เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาการออมเงินกับ กอช. แก่ประชาชนในหมู่บ้าน ทั้งการรับสมัครสมาชิก ส่งเงินออมสะสม จำนวน 235 คน  
น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า ปัจจุบัน กอช. ได้มีเครือข่ายอำนวยความสะดวกในการให้บริการสมาชิกทั้งการสมัคร ส่งเงินออมต่อเนื่อง และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ กอช.ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ สำนักงานคลังจังหวัด เสมียนตราอำเภอ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ที่ทำไปรษณีย์ไทย เซเว่น-อีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส และ ตู้บุญเติม อีกทั้ง กอช. ได้มีการออมที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี ให้สมาชิกให้ประชาชนเข้าถึงการออมง่ายยิ่งขึ้น ด้วยความสะดวกสบายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน อาทิ แอปพลิเคชัน กอช., ไลน์ กอช., แอป K PLUS, แอป Krungthai NEXT และแอป Mymo GSB นอกจากนี้ กอช. ได้การขับเคลื่อนส่งเสริมการออมในกลุ่มเยาวชน โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ. เพื่อมุ่งส่งเสริมสนับสนุนปลูกฝังให้เยาวชนนักเรียนภายใต้สังกัด สพฐ. ได้มีวินัยทางการเงิน ตระหนักถึงการออมเงินตั้งแต่วัยเรียนในการออมเงินกับ กอช.จำนวน 4 ครั้งต่อปี จะได้รับวุฒิบัตรจาก สพฐ. กับ กอช. เพื่อมอบให้นักเรียนเยาวชน ที่มีการฝึกฝนสร้างวินัยและเห็นความสำคัญของการออมเงิน

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวต่อไปว่า  อีกหนึ่งหน่วยงานที่ร่วมมือส่งเสริมการออมกับ กอช. มุ่งเน้นวินัยทางการเงินให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา นั้นก็คือ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ส่งเสริมให้ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการศึกษา สร้างความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงิน บริหารจัดการเงินของตนเองตั้งแต่วัยเรียน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นิสิตนักศึกษา ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการศึกษา สมัครเป็นสมาชิก กอช. ซึ่งการออมสามารถออมได้เดือนละ 1 ครั้ง และเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสะสมชั่วโมงจิตสาธารณะได้ 1 ชั่วโมงต่อเดือน โดยสมัครสมาชิกหรือส่งเงินออมสะสมได้ที่แอปพลิเคชัน กอช.หรือระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์    (e-Service) กอช. กรอกรหัส โครงการว่า "กยศ."และนำส่งเงินออมสะสมตามจำนวน เมื่อเรียนจบเข้าสู่ระบบการทำงานรับราชการหรือบริษัทเอกชนก็สามารถออมกับ กอช. ต่อเนื่องได้เป็นการบริหารจัดการเงินออมให้งอกเงยเพิ่มขึ้นและสามารถนำเงินออมมาลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีด้วย////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...