วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ห่วงใยครอบครัวตำรวจเราไม่ทิ้งกัน มอบเงินช่วยเหลือลูกตำรวจ ที่เป็นเด็กพิเศษ 3 ครอบครัว

 พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ห่วงใยครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน มอบเงินช่วยเหลือลูกตำรวจที่เป็นเด็กพิเศษ 3 ครอบครัว
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.สุชญา ศรีสำอางค์ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ   และแม่บ้านตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือครอบครัวตำรวจ ตามโครงการ "ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน" ซึ่งแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดย พล.ต.ต.ลาภ ได้สบทบทุนบริจาคเงิน จำนวน 10,000 บาท และผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่ง มอบให้กับนางสาว จินต์จุฑา  โฮมหุ้มแก้ว (เด็กพิเศษ) บุตร ด.ต.สนอง  โฮมหุ้มแก้ว ผบ.หมู่(ป.)สภ.กันทรารมย์    และบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่งมอบให้กับ นางสาว นันท์นภัส บัวลา (เด็กพิเศษ) บุตร ด.ต.มานิต บัวลา ผบ.หมู่(ป.)สภ.กันทรารมย์  และสบทบทุนบริจาคเงิน จำนวน 10,000 บาท และผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่ง มอบให้กับ นายณัฐชนนท์  จันทพันธ์(เด็กพิเศษ) บุตร ร.ต.ต.วิสูตร จันทพันธ์ รอง สว.(ป.)สภ.กันทรารมย์ โดยมี พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรารมย์ทุกนายให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
พล.ต.ต.ลาภ  ศรีสำอางค์ ผบก.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยข้าราชการตำรวจทุกนายในสังกัดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ภ.จว.ศรีสะเกษทุกนาย ได้ทุ่มเทกำลังกาย ทุ่มเทความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคน ซึ่งการที่แม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมานับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์และเป็นการสร้างเสริมขวัญกำลังใจให้ครอบครัวข้าราชการตำรวจเป็นอย่างดียิ่ง เพื่อที่จะไ้ด้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl ใกล้วันหวยออกนักเสี่ยงโชค แห่ขอเลขเด็ดจากศาลเจ้าแม่ ฮันนี่ คึกคักมาก

ใกล้วันหวยออกนักเสี่ยงโชค แห่ขอเลขเด็ดจากศาลเจ้าแม่ฮันนี่  คึกคักมาก
วันที่ 30 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลเจ้าแม่ฮันนี่  ตั้งอยู่ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 226 (ถนนศรีสะเกษ-อุบลราชธานี) กิโลเมตรที่ 6-7 ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ  อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ  ได้มีประชาชนจำนวนมาก ทั้งจากภายในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และต่างจังหวัด ซื้อดอกไม้ พวงมาลัย และน้ำแดง มาถวาย พร้อมทั้งจุดธูปตัวเลข เพื่อขอรางวัลเลขเด็ด จากเจ้าแม่ฮันนี่ 
จากการสอบถาม นางสาวหน่อย แม่ค้าขายพวงมาลัย ที่ศาลเจ้าแม่ฮันนี่ แห่งนี้ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะประชาชน ที่ศรัทธาในตัวเจ้าแม่ฮันนี่ และมาแสวงหาโชคลาภ เดินทางมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้ถึงวันที่หวยออก โดยเลขเด็ด ของงวดนี้ ที่เจ้าแม่ฮันนี่ให้ ประกอบด้วย เลข 14 30 35 แต่บางส่วน อาศัยโชคลาภ จากการจุดธูปตัวเลข หรือล้วงไหตัวเลข เพื่อนำไปเสี่ยงดวง
นางปัญณชนม์  ข่ายมณี ชาวบ้าน บ้านกลาง ตำบลหัวช้าง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ หนึ่งในผู้เดินทางมากราบไหว้เจ้าแม่ฮันนี่ เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อน เดินทางด้วยการขับมอเตอร์ไซด์ จากบ้านมาระยะทาง ประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงแม้สภาพอากาศในวันนี้ จะมีฝนตกปรอยๆ แต่ก็ไม่ทำให้พวกตนหวาดหวั่นแต่อย่างใด เพราะพวกตนมีความตั้งใจเกินร้อย ที่จะมาที่แห่งนี้ เพื่อมากราบไหว้เจ้าแม่ฮันนี่ และหวังว่าท่านจะให้โชค โดยตนและเพื่อน ได้จุดธูปตัวเลข คนละ 1 ดอก โดยของตนได้เลข 810 และเพื่อนของตน ได้เลข 306 ซึ่งตนก็จะนำเลขดังกล่าวไปเสี่ยงโชค และหวังว่า เจ้าแม่ฮันนี่ จะให้โชคกับพวกตน

สำหรับประวัติของ ศาลแม่ฮันนี่ ศรีอีสาน หรือชื่อจริง สุพิณ เหมวิจิตร ชื่อเล่นว่า พิณ เป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง เจ้าของงานเพลง น้ำตาหล่นบนที่นอน, วอนพี่มีรักเดียว, สาวกาฬสินธุ์, ขอแล้วไม่แต่ง, สาวนาผวารัก เป็นต้น เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถปิกอัพยางแตกพลิกคว่ำ ขณะเดินทางกลับจากการแสดงที่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้นักร้องสาวเสียชีวิตคาที่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2535 เวลา 04.30 น. ในพื้นที่ ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งศาลในปัจจุบันนี้ ซึ่งหลังจาก มีประชาชนได้มาขอรางวัล จากเจ้าแม่ฮันนี่ และถูกหวยติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้พอถึงช่วงใกล้วันหวยออก จะมีประชาชนเดินทางมาแสวงโชค เป็นจำนวนมาก///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl เซียนหวยแต่ซองหาเลขเด็ด ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง วัดไพรพัฒนา

เซียนหวยแห่ส่องหาเลขเด็ดศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองวัดไพรพัฒนา พากันขูดต้นตะเคียนทองและจุดธูปหาเลขเด็ด ชาวบ้านเชื่อถูกรางวัลที่ 1 แล้วหลายรายหลายงวดติดต่อกัน แต่ว่าผู้โชคดีต่างพากันเก็บตัวเงียบไม่ยอมเปิดเผยตัวออกมา เกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย เผยเลขเด็ดงวดนี้ 991, 247, 571 และ 85
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ภายในบริเวณวัดไพรพัฒนา    ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีประชาชนจำนวนมากพากันนำเอาดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ท่อนตะเคียนทองขนาดใหญ่จำนวน 2 ท่อน ที่วางคู่กันอยู่ และมีการนำเอาพวงมาลัย ชุดไทย จำนวนมากมาถวายเจ้าแม่  และมีรูปจำลองของเจ้าแม่ตะเคียนทองสวมชุดไทยมาตั้งอยู่ เพื่อให้ประชาชนที่แสวงหาโชคลาภพากันมากราบไหว้ขอโชคลาภและขอเลขเด็ด โดยท่อนตะเคียนท่อนแรกมีความยาวประมาณ 8 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร และท่อนที่ 2 ยาวประมาณ 12 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร  ประชาชนที่จุดธูปเทียนกราบไหว้แล้ว ได้พากันนำเอาแป้งขาวมาทาลงบนไม้ตะเคียนทองแล้วลูบหรือขูดหาเลขเด็ด  เพื่อหาเลขเด็ดที่เชื่อว่าจะปรากฏขึ้นเลขเด็ดขึ้นมาให้เห็น ทำให้ต้นตะเคียนทองขาวโพลนไปด้วยแป้ง  ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งได้พากันจุดธูปแล้วนำมาปักไว้ที่ลูกมะพร้าวและบางคนก็นำเอาธูปมาจุดปักไว้ที่พื้นดินเพื่อให้ธูปไหม้แล้วจะปรากฏเป็นตัวเลขต่าง ๆ ขึ้นมา  โดยจะพากันนั่งเฝ้าคอยส่องดูเลขเด็ด และเมื่อปรากฏเลขเด็ดขึ้นมาแล้วก็จะนำเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพื่อนำเอาเลขเด็ดไปซื้อล็อตเตอรี่หวังว่าจะได้รับโชคดีงวดประจำวันที่ 17 เม.ย. 66 นี้
ภาค
นายทอง  ศรีแก้ว อายุ  82 ปี ชาวบ้าน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ที่นำญาติพี่น้องมาส่องหาเลขเด็ด และกำลังเฝ้ามองตัวเลขในธูป กล่าวว่า  ตนได้มากราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียนทองเพื่อขอโชคแล้ว จากนั้นได้นำเอาธูปมาจุดหลายดอก ทำให้ได้เลขเด็ดออกมาหลายตัวด้วยกัน เช่น  991,  247,  571  ซึ่งตนจะได้นำเอาเลขเด็ดที่ได้มาไปซื้อ ล็อตเตอรี่ต่อไป  การที่ตนกับญาติพี่น้องมาขอเลขเด็ดกับศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง  เนื่องจากเชื่อมั่นในความศักดิสิทธิ์ โดยเจ้าแม่เคยให้เลขเด็ดทำให้มีผู้โชคดีนำเอาไปซื้อล็อตเตอรี่แล้วถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลต่างๆ มาแล้วมากมายหลายงวดติดต่อกัน แต่ว่าผู้โชคดีต่างพากันเก็บตัวเงียบไม่ยอมเปิดเผยตัวออกมา เนื่องจากเกรงว่าหากมีคนรู้มากว่าตนเองถูกรางวัลที่ 1 อาจจะได้รับอันตรายนั่นเอง

นายเพชร  คุณมี  อายุ 51 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 41 ต.เสื่องข้าว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนได้มาจุดธูปเทียนกราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียนทองเพื่อขอเลขเด็ดแล้ว  จากนั้น ได้ไปจุดธูปเพื่อหาเลขเด็ด  ปรากฏว่ามีเลขเด็ดออกมาเพียง 2 ตัวเท่านั้น  คือ 85 ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าเป็นเลขเด็ดงวดนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าปกติแล้วเลขเด็ดจากธูปจะมี 3 ตัว  แต่ว่าธูปดอกที่ตนจุดนี้มีตัวเลขเพียง 2 ตัวคือ 85 จึงมั่นใจว่าเป็นเลขเด็ดงวดนี้/////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl นายก อบต. ตะดอบ นำชาวบ้านกูย กว่า 400 คน รำฉลองประเพณีบุญบั้งไฟ

 นายก อบต.ตะดอบ นำชาวกูยกว่า 400 คนรำฉลองประเพณีบุญบั้งไฟ  อย่างสวยงามตระการตา มีการสาธิตการตีเหล็กทำเป็นเสียมมีดอาชีพหลักดั้งเดิมของชาวกูยให้ชนรุ่นหลังได้ชมเพื่อเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมโบราณไม่ให้สูญหายไปอีกด้วย
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดตะดอบ ต.ตะดอบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ดร.มานะพันธ์   อังคสกุลเกียรติ  รองนายก อบจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตะดอบ ประจำปี 2566 ซึ่ง นายสุริยันต์ แก้วคำ  นายก อบต.ตะดอบ ร่วมกับรอง นายก อบต. ส.อบต.ทุกหมู่บ้าน กำนัน ผญบ.และชาวบ้านในเขต ต.ตะดอบ ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น โดยมีการจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ประกอบด้วยขบวนแห่บั้งไฟที่ตกแต่งอย่างสวยงาม  ขบวนแห่ผาแดงนางไอ่ ขบวนเงาะป่ากับนางรจนา  ชูชกและกัณหาชาลี มีขบวนสาธิตการตีเหล็กอาชีพดั้งเดิมของชาวบ้านตะดอบเพื่อทำเป็นเสียมและมีดให้ประชาชนคนรุ่นหลังได้รับทราบถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรมโบราณดั้งเดิมของชาวบ้าน        ตะดอบเพื่อเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมโบราณไม่ให้สูญหายไปอีกด้วย  และขบวนแห่นางรำ ซึ่งเป็นชนเชื้อชาติเผ่ากูย หรือเผ่าส่วย เป็นชนเผ่า 1 ใน 4 ของชนเผ่าดั้งเดิมของ จ.ศรีสะเกษกว่า 400 คน ที่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองอย่างสวยงาม พากันรำฉลองประเพณีบุญบั้งไฟของ ต.ตะดอบอย่างยิ่งใหญ่สวยงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง โดยมี นายศุภกฤต ยืนยาว กำนัน ต.ตะดอบและประธานสภาวัฒนธรรม ต.ตะดอบ  เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นางวิชุดา  ชัยชาญ  ผอ.ร.ร.ตะดอบวิทยา พร้อมด้วย ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนชาวบ้าน ต.ตะดอบ ร่วมพิธีจำนวนมากและให้การต้อนรับ
นายศุภกฤต ยืนยาว กำนัน ต.ตะดอบและประธานสภาวัฒนธรรม ต.ตะดอบ  กล่าวว่า  สภาวัฒนธรรม ต.ตะดอบร่วมกับ อบต.ตะดอบ ได้ดำเนินการจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตะดอบ ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อให้ประชาชนในตำบลตะดอบ มีส่วนร่วมในการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟและจัดให้มีขบวนบั้งไฟสวยงาม ขบวนฟ้อนรำของนางรำทุกหมู่บ้าน และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนในตำบลตะดอบและตำบลใกล้เคียงให้รู้รักสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวนา มีความสนุกสนาน รื่นเริง และการแสดงถึงประเพณีและวัฒนธรรมของชาวตำบลตะดอบ สร้างความรักความสามัคคีก่อนถึงฤดูกาลทำนาและเพื่อเป็นการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยสืบต่อไป ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในตำบลตะดอบ กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.- 1 พ.ค.2566 โดยวันที่ 30 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2556 ณ ฐานจุดบั้งไฟชั่วคราว บ้านไผ่ล้อม และที่หมู่ 8 ต.ตะดอบ              อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

ดร.มานะพันธ์  อังคสกุลเกียรติ  รองนายก อบจ.ศรีสะเกษ   กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงานในวันนี้ เพื่อบูชาพญาแถนและเป็นการขอฝนให้ตกตามฤดูกาลตามความเชื่อของชาวอีสาน สร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับชาวนาก่อนลงมือทำนาตามความเชื่อของชาวอีสาน ส่งเสริม อนุรักษ์ และสืบสานประเพณีอันดีงาม การถ่ายทอด การละเล่นพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของชาวอีสานให้คงอยู่สืบไป และประชาชนในตำบลสร้างความสมัครสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างในหมู่บ้าน พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตตำบลตะดอบและพื้นที่ใกล้เคียง การจัดงานในวันนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ทางสภาวัฒนธรรมตำบลตะดอบร่วมกับ อบต.ตะดอบ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในทุกๆด้านอีกด้วย///

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl เศรษฐา เพื่อไทย ประกาศหากเป็นนายกรัฐมนตรี จะกำจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก

 เศรษฐาเพื่อไทยประกาศหากเป็นนายก รมต.จะกำจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก ขณะที่ ณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ เผย พล.อ.ประยุทธ์จะแก้ไขปัญหาไฟฟ้าแพงแต่แค่ทำเอกสารขออนุมัติ กกต.เพื่อขอใช้งบกลางก็ยังทำไม่ถูกต้องให้ออกไปได้แล้ว
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ          นายเศรษฐา  ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพานทองแท้  ชินวัตร นายจาตุรงค์  ฉายแสง  กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้นำคณะเดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย  ได้แก่  นายสุรชาติ  ชาญประดิษฐ์ เขต 2  นพ.ภูมินทร์   ลีธีระประเสริฐ  เขต 4  นายอมรเทพ  สมหมาย เขต 5  นายวีระพล  จิตสัมฤทธิ์ เขต 6 น.ส.วิลดา  อินฉัตร เขต 7 และนางสุนีย์  อินฉัตร แม่ของ น.ส.วิลดา  อินฉัตร  มาให้การต้อนรับ  มีมวลชนคนเสื้อแดงมาร่วมรับฟังการปราศรัยประมาณ 20,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมาก
นายเศรษฐา  ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทย  ซึ่งประเทศไทยสามารถจับกุมยาเสพติดได้มากที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  แต่ว่าปัญหายาเสพติดก็ยังไม่หมดสิ้นไป  เนื่องจากว่า ไม่สามารถที่จะยึดทรัพย์พ่อค้ายาได้หมด  วันนี้ที่ตนอยากมาพูดก็คือเรื่องยาเสพติด ลูกหลานพี่น้องถูกมอมเมาด้วยยาเสพติด ยาเสพติดเม็ดหนึ่งราคาถูกกว่าน้ำอัดลมอีกเป็นไปได้ยังไง ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาจำนวนผู้เสพยาปริมาณยาเสพติดที่ทะลักเข้ามาสู่พี่น้องประชาชนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการจับยาเสพติดสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเสียงใต้ แต่จับแล้วก็ไม่หมด จับเท่าไรก็ไม่หมดพี่น้องลูกหลานเราถูกมอมเมาด้วยยาเสพติดจำนวนมาก ผู้เสพต้องไม่เป็นผู้ผลิต ผู้เสพต้องถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นผู้ป่วย หายป่วยแล้วต้องดูแลรักษาต้องช่วยเสริมเรื่องอาชีพเพื่อให้เป็นบุคลากรที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้

นายเศรษฐา  ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย  กล่าวต่อไปว่า  เจอปัญหายาเสพติดยังไม่พอมีพรรคการเมืองบางพรรค เสนอเอากัญชามาสูบอีก มันจะเป็นยังไงสังคมไม่ไหวแล้วเรายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ลูกหลานเราเมากัญชาทั้งวันแทนที่จะดูแลพ่อแม่ เรื่องนี้อย่าให้ใครมาหลอกได้ว่าค้ากัญชาแล้วได้เงินมารายได้ดี ตนขอบอกว่าไม่ดีเลยที่เมืองนอกเค้าทำมาก่อน เค้าปล่อยกัญชาเสรีทุกคนก็มาทำกัญชา ทำให้กัญชาเต็มบ้านเต็มเมืองราคาถูกกว่าแฮมเบอร์เกอร์ เหตุเรื่องรวยจากกัญชาไม่มีแน่นอนอย่าให้ใครมามอมเมาเรื่องนี้อย่ายอมรับอย่าเห็นด้วย อย่าเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนกัญชาเสรี ต้องให้หมดไป ต้องให้ออกไปจากระบบทั้งหมด  ถ้าตนได้เป็นนายกรัฐมนตรีกระทรวงทบวงกรมทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องมาขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีจะต้องทำการยึดทรัพย์ให้เด็ดขาดโดยเร็วที่สุด

นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลอยู่มา 8 ปีไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองจนมาถึงไฟฟ้าแพง อาทิตย์ก่อนประชุม ครม.เนื่องจากยุบสภาแล้วถ้าจะใช้งบประมาณต้องขออนุญาต กกต. ก็มีมติ ครม.จะใช้งบกลางมาช่วยประชาชนเรื่องราคาค่าไฟ ทำเสร็จเรียบร้อยเสนอขออนุมัติ กกต.แต่คนมันทำงานไม่เป็นยื่นเรื่องไป กกต. ล่าสุดเป็นข่าววันนี้ กกต.ตีกลับลงมาว่า ไม่อนุญาต แล้วจะอยู่ทำไม ชาวบ้านจ่ายค่าไฟกันจนเลือดขึ้นหน้า ประกาศว่าจะแก้ปัญหาแต่ไม่มีปัญญาทำโครงการให้ถูกต้องไม่มีปัญญาทำให้ผ่านการตรวจสอบการคัดกรองโดย กกต.จะอยู่ต่อหาสวรรค์วิมานอะไรออกไปได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากนั้น คณะของนายเศรษฐา  ทวีสิน ได้เดินทางไปปราศรัยต่อไปที่สนามฟุตบอลศรีสะเกษ เอฟซี อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อหาเสียงช่วย นายธเนศ  เครือรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย และไปปราศรัยที่ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ                             นายประวิทย์  จารุรัชกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 พรรคเพื่อไทย  ซึ่งแต่ละแห่งที่ไปปราศรัยมีประชาชนชาวศรีสะเกษมารับฟังการปราศรัยจำนวนมาก ///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

 

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษl พระครูปริยัวีราภรณ์ เห็นควรให้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมโกศลสิกขกิจวิทยา วัดไพรพัฒนา

พระครูปริยัติวีราภรณ์เห็นควรให้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมโกศลสิกขกิจวิทยาวัดไพรพัฒนา เพื่อส่งเสริมการศึกษาของพระเณรตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาทม วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูปริยัติวีราภรณ์  เลขานุการประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พระราชวัชราภรณ์ ประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พร้อมด้วย  พระครูปริยัติกิจธำรง ประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา  เขต 11 พระมหาสันติภาพ  โชติปัญโญ ผู้ช่วยเลขานุการประธานการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พระมหามนูญ จิตตนายโก รองประธานการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา  เขต 11 และคณะกรรมการ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมในการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมโกศลสิกขกิจวิทยาวัดไพรพัฒนา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้เสนอขอจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้น  ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เป็นสถานศึกษาที่ศึกษาเล่าเรียนสำหรับพระภิกษุและสามเณรในพื้นที่ อ.ภูสิงห์ และที่อาศัยอยู่ตามวัดในแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ได้ศึกษาเล่าเรียนด้านสามัญศึกษา  เพื่อเป็นการลดภาระการเดินทางไกลของพระภิกษุสงฆ์และสามเณรได้ศึกษาเล่าเรียนในสำนักเรียนต่าง ๆ และเพื่อยกระดับการศึกษาและลดปัญหาเยาวชนติดยาเสพติด รวมทั้งเพื่อยกระดับการศึกษาของเยาวชนในท้องถิ่นคือผู้เข้ามาบวชแล้วได้รับการศึกษาระดับสามัญศึกษา เพื่อเป็นผู้ใหญ่และพลเมืองดีเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป โดยได้รับความเมตตาจาก พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ธ.) นำคณะพระภิกษุและสามเณรธรรมยุติ ซึ่งเป็นนักเรียนพระปริยัติธรรมมาถวายการต้อนรับ 
และมี  นายสรศิริ  จันดีบุตร  ปลัดอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายความมั่นคง นายสำเร็จ  ไพรบึง นายก อบต.ไพรพัฒนา นายบุญมี  เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา นายบุญชู  บุดดาห์  อดีตวัฒนธรรมอำเภอภูสิงห์ ข้าราชการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย จากนั้น คณะเลขานุการประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมของอาคารเรียนและห้องเรียนต่าง ๆ รวมทั้งสื่อการเรียนการสอน พบว่า อาคารเรียนและห้องเรียนรวมทั้งอาคารประกอบต่าง ๆ มีความพร้อมทุกด้านอย่างเต็มที่ พระครูปริยัติวีราภรณ์  เลขานุการประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กล่าวว่า ถ้าพูดถึงด้านกายภาพ พบว่ามีความพร้อมในทุกด้าน อาตมาภาพและคณะกรรมการได้รับมอบหมายจาก พระเดชพระคุณพระราชวัชราภรณ์มีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ในด้านความพร้อมของชุมชน ในด้านความสนับสนุนจากส่วนราชการต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางอำเภอ ท้องที่ท้องถิ่นและพี่น้องประชาชน ชื่นชมในความตั้งใจของทุกท่านทุกภาคส่วนทั้งบ้านวัดโรงเรียน ซึ่งสามารถเปิดเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมได้ ซึ่งการจะเปิดได้หรือไม่นั้น อยู่ที่มติของคณะกรรมการที่จะมีการประชุมในวันที่ 3 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ แต่อาตมาเห็นว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมโกศลสิกขกิจวิทยาวัดไพรพัฒนามีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเปิดทำการเรียนการสอนได้

พระครูปริยัติกิจธำรง ประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา  เขต 11 กล่าวว่า ก็เป็นที่น่าภูมิใจในจิตวิญญาณของหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ท่านได้อุทิศตนเพื่องานของพระพุทธศาสนาตั้งแต่ได้ตั้ง วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาก็ถือว่ามีจิตอันเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ที่เห็นความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาที่นี่ก็เห็นถึงความพร้อมความตั้งใจจริงในการที่จะนำทรัพยากรที่เกิดจากความศรัทธาของชุมชนกับชาวบ้าน มาพัฒนาญาติธรรมโดยพระภิกษุสงฆ์ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นที่น่าชื่นใจที่พระเถระรูปหนึ่งได้เห็นความสำคัญของส่วนนี้และชุมชนชาวบ้านทุกภาคส่วนก็อนุโมทนาด้วยอย่างเต็มที่//

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษl ชวน หลีกภัย เผยยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีโอกาสได้ ส.ส สักกี่คนลุยหาเสียงเต็มที่

ชวน หลีกภัย เผยยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีโอกาสได้ ส.ส.สักกี่คน ลุยหาเสียงเต็มที่กำชับผู้สมัคร ส.ส.ไม่ทุจริตไม่โกงไม่ซื้อเสียง และให้ความรู้ประชาชนให้มาก เผยทุเรียนภูเขาไฟและทุเรียนต่าง ๆ สร้างรายเข้าประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวงเวียนแม่ศรีสระผม ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายชวน  หลีกภัย  ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และคณะ  ได้เดินทางมากราบไหว้แม่ศรีสระผม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ  โดยมีบรรดาผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ของ จ.ศรีสะเกษทั้ง 9 เขต นำโดย นายธีรวัฒน์  คำศรี  ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 3 เบอร์ 1, ดร.อภิชาติ  ศิริบุญญกาล เขต 9 เบอร์ 4, ดร.ปิ่น  นันทะเสน  เขต 1 เบอร์  3,  นายปิยะนันท์  มั่นยืนยาว เขต 4 เบอร์ 7, และนายร้อยพงษ์           ศรีคราม เขต 7 พร้อมด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนมากพากันมาต้อนรับและร่วมรับฟังการปราศรัย จากนั้น นายชวน และกลุ่มผู้สมัคร ส.ส. ได้ขึ้นไปบนรถปิคอัพและตระเวนไปตามถนนทุกสายในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ ยกมือไหว้และโบกมือทักทายพบปะหาเสียงกับพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ ซึ่งชาวศรีสะเกษพากันมาขอจับมือและขอถ่ายรูปกับนายชวนอย่างคึกคักมาก จากนั้น นายชวน และคณะได้เดินทางไปหาเสียงจังหวัดอื่นต่อไป
 
นายชวน  หลีกภัย  ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ตนต้องการที่จะเดินทางไปพบปะกับพี่น้องประชาชนทั้ง 77 จังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานครก็ไปรณรงค์ชื่อเบอร์ของพรรคเป็นหลักคือเบอร์ 26  แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านไปแต่ละจังหวัดก็ได้ไปให้กำลังใจและให้การสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เราด้วย โดยรวมแล้วก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีโอกาสได้ ส.ส.สักกี่คน แต่หวังว่าระบบบัญชีรายชื่อน่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาได้มาก เพราะว่าหลังจากที่ไปแต่ละจังหวัดก็ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ว่าผู้สมัครนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของแต่ละคนแต่ละที่ด้วย อันนี้ต้องยอมรับความเป็นจริงก็ให้กำลังใจเขาและขอให้ขยันและใช้วิธีการหาเสียงวิธีแบบประชาธิปัตย์คือ ไม่ทุจริต ไม่โกง ไม่ซื้อเสียงและให้ความรู้ประชาชนมากๆ เราเลือกผู้แทนเข้าไปเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าเราเลือกคนซื้อเสียง นักการเมืองก็ต้องกอบโกย ก็จะเกิดปัญหาของบ้านเมือง ทุกวันนี้ก็คือปัญหานักการเมืองลงทุนแล้วไปเอาคืนซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ตนอยากให้น้อง ส.ส.ทุกคนเวลาปราศรัยให้พูดความจริงคนจะได้ตื่นตัวในเรื่องนี้

นายชวน  หลีกภัย  ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวต่อไปว่า นมีความยินดีที่พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายเอาไว้แล้วพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษได้ประโยชน์ทุกเรื่อง แม้กระทั่งรัฐบาลทุกวันนี้ก็ยังทำนโยบายส่งสินค้าไปต่างประเทศในรอบ 2 – 3 ปีที่ผ่านมาโรคโควิด-19 ได้ทำให้การท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้ใหญ่ของเราหายไปหมดเลย แต่โชคดีว่าคุณจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเก่งที่สามารถทำให้การส่งออกชดเชยความเสียหายไปได้มาก อย่างที่เราทราบว่าทุเรียนภูเขาไฟของเราที่ศรีสะเกษนี้ก็ได้ประโยชน์ไปด้วยเพราะว่าทุเรียนภูเขาไฟและทุเรียนต่างๆ ส่งออกได้เป็นเงินกว่า 100,000,000,000 บาท แพงได้มากกว่าข้าว กว่ามันสำปะหลังและยางพาราซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ  แต่ว่าสภาพอย่างนี้เศรษฐกิจอย่างนี้ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะว่าประเทศเพื่อนบ้านของเราเค้าก็แข่งกัน ตอนนี้เวียดนามก็ผลิตทุเรียนแข่งกับเรา มาเลเซียก็ปลูกทุเรียนพันธุ์ของเขาเองแข่งกับเราเช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกประเทศเค้าก็รู้หมดว่าใครเป็นยังไง เราจึงต้องรักษาคุณภาพผลผลิตทุเรียนของเราเอาไว้ ตนย้ำว่าต้องรักษาวินัย รักษาคุณภาพของสิ่งที่เราคิดขึ้นมาให้ดีเพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขคนเลิกซื้อทุเรียนเช่นทุเรียนอ่อนก็มีปัญหา แต่ว่าน่าดีใจที่เดี๋ยวนี้เกษตรกรของเราเป็นระบบดีขึ้น ขอให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และสิ่งที่น่าจะภูมิใจสำหรับพี่น้องศรีสะเกษที่ทำนาก็คือนโยบายประกันรายได้  ตนว่าเกษตรกรทำได้จริงและเงินไม่รั่วไหล แต่ว่าไม่ค่อยเป็นข่าวเพียงเพราะว่าไม่รั่วไหล หากมีการโกงก็จะเป็นข่าวขึ้นมาทันที เงินทุกบาทที่ชาวนาได้ ฝ่ายการเมืองไม่สามารถที่จะไปหักไปถอนเอาไว้ได้เลยไปถึงชาวนาจริงๆร้อยทั้งร้อย//

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl ดร.ณัฐวิชญ์ ศิริรัชฏานันท์ ชื่นชมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา

ดร.ณัฐวิชญ์ ศิริรัชฏานันท์ ชื่นชมวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา บริหารจัดการดีทุกด้านขอเปิดสอนสาขาวิชาเพิ่มและขอย้ายที่ตั้งใหม่ให้กว้างขวางกว่าเดิมไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาทม วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ดร.ณัฐวิชญ์  ศิริรัชฏานันท์  ประธานคณะกรรมการตรวจพิจารณาความพร้อมของวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะกรรมการพิจารณาความพร้อมทุกด้าน ได้มาประชุมเพื่อตรวจความพร้อมของวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงที่ได้เสนอเรื่องขอเปิดสอนเพิ่มอีก 3 สาขาวิชา และขอย้ายที่ตั้งของวิทยาลัยไปยังสถานที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้นใหม่เอี่ยมมีห้องเรียนและห้องที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เพื่อให้สถานที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน โดยมี พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนาและเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง พร้อมด้วย นายปรเมษฐ์  ศรีบูรณ์  ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีและ นายสมยศ  พันธ์มา รอง ผอ.วิทยาลัย คณะครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ให้คณะกรรมการได้รับทราบ จากนั้น พระครูโกศลสิกขกิจ ได้นำคณะของ ดร.ณัฐวิชญ์  ศิริรัชฏานันท์  เดินทางไปตรวจสอบอาคารสถานที่ต่าง ๆ ทั้งอาคารเรียน อาคารประกอบของวิทยาลัย ซึ่งมีการจัดเตรียมอาคารสถานที่ทุกด้านไว้อย่างเรียบร้อย มีการจัดระบบต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี โดยมีคณะครูแต่ละสาขาคอยอธิบายให้คณะกรรมการทราบอย่างละเอียด
 ดร.ณัฐวิชญ์  ศิริรัชฏานันท์  ประธานคณะกรรมการตรวจพิจารณาความพร้อมของวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการมาตรวจความพร้อมสถานศึกษาที่ขอเปิดสาขาใหม่และขอย้ายที่ตั้งของวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ทั้งนี้เรื่องของสิ่งที่เราพบก็คือพัฒนาการในเรื่องของการบริหารจัดการทางด้านอาคารสถานที่ถือว่ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาใหม่ที่จะเปิดสอน ซึ่งจะมีการย้ายจากแหล่งที่ตั้งเดิม เรื่องของอาคารสถานที่ก็เป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดไว้ เรื่องของหลักสูตรก็มีการปรับนิดหน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแผนการเรียนให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น  ส่วนทางด้านบุคลากรเราก็จะพบว่าวิทยาลัยแห่งนี้มีการบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากรของบุคลากรร่วมกันเช่น สาขาคอมพิวเตอร์ การบัญชี  ซึ่งเรื่องของการเปิดสาขาใหม่จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สาขาด้วยกันทั้งอิเล็กทรอนิกส์ การโรงแรมและคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างไร วิทยาลัยเทคโนโยลีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา สามารถที่จะเปิดการเรียนการสอนในครั้งนี้ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนนักเรียนที่จะมาสมัครเรียนในภาคเรียนนี้ จำนวนเท่าไหร่และบุคลากรที่คิดว่าสามารถที่จะบูรณาการการจัดการเรียนการสอนร่วมกันน่าจะเพียงพอ และที่สำคัญทราบมาว่ามีคุณครูมาสมัครสอนที่นี่ไว้รอแล้ว ซึ่งตัวนักเรียนเองยังมาไม่ครบเวลานี้ โดยภาพรวมแล้ววิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานศึกษาที่มีการบริหารจัดการ ทางด้านอาคารสถานที่ ทางด้านบุคลากรเรื่องของหลักสูตรได้เป็นอย่างดี ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้//

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566

ศรีสะเกษlโผล่อีกรายเหยื่อ แอม ไซยาไนด์ ที่ขุนหาญ ลักษณะการตายเหมือนกันหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

 โผล่อีกรายเหยื่อ แอม ไซยาไนด์ ที่ขุนหาญ ลักษณะการตายเหมือนกันหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 บ้านค้อปอ ตำบลขุนหาญ อำเภอขุนหาญจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายเกิด แก้วบุปผา อายุ 66 ปีและนางสุพิศ แก้วบุปผา อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นคุณพ่อและคุณแม่ของนางสาวนิตยา แก้วบุปผา อายุ 36 ปี ที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 ที่จังหวัดนครปฐม โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนางสาวสุธาวรรณ ดอนจันมาตย์ อายุ 17 ปี ลูกสาวของนางสาวนิตยา กำลังพูดคุยกันอยู่กับนางสาวณัฐธยาน์ โพธิ์กระสัง อายุ 47 ปี เป็นน้าสาวของนางสาวนิติยา โดยได้นำเอารูปภาพของนางสาวกิตติยาพร้อมทั้งนำเอาใบมรณบัตรของนางสาวนิตยา มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวได้ดูและตรวจสอบด้วยโดยใบมรณบัตรแจ้งว่า นางสาวนิตยา เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 66/ 3 หมู่ 13 ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 เวลา 12.00 น. สาเหตุการตายเนื่องจากระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว 
นางสาวณัฐธยาน์ โพธิ์กระสัง อายุ 47 ปี เป็นน้าสาวของนางสาวนิตยา กล่าวว่า ตนเป็นน้าสาวของนางสาวนิตยาจากการที่ตนได้ตรวจสอบสภาพศพของนางนิตยาแล้วพบว่า ตามร่างกาย เป็นสีม่วงคล้ำคล้ายกับสีองุ่นลักษณะการตายผิดธรรมชาติไม่เหมือนกับคนที่เสียชีวิตปกติทั่วไป ทำให้ตนและญาติพี่น้องทุกคนพากันติดใจสงสัยสาเหตุการตายของนางสาวนิตยาเป็นอย่างมาก และตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรื้อฟื้นคดีการเสียชีวิตของนางสาวนิตยาขึ้นมา เพื่อความเป็นธรรมให้กับนางสาวนิตยาด้วย โดยก่อนที่นางสาวนิตยาจะเสียชีวิตประมาณ 1 อาทิตย์ ได้นำนางสุพิศ แก้วบุปผา อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นแม่ พร้อมด้วย นางสาวสุธาวรรณ ดอนจันทร์มาตย์ หรือแตงโม ขณะนั้น อายุ 15 ปี และสุนัขชื่อกาแฟ มาส่งที่บ้านแห่งนี้ โดยแจ้งให้ตนทราบว่า ขณะนี้เวลาของตนหมดแล้วและเกรงว่า แม่และลูกสาวรวมทั้งสุนัขที่นางสาวนิตยา จะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากว่า นางสาวนิตยา เป็นเท้าแชร์หลายเจ้า และต้องหมุนเงินไปใช้หนี้ลูกแชร์ที่ติดหนี้ค้างจ่ายหลายราย แต่ว่าหมุนเงินไม่ทันเกรงว่า จะได้รับอันตราย

นางสาวณัฐธยาน์  น้าสาวของนางสาวนิตยา กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวนั้นนางสาวนิตยาได้ขอยืมมาจากน้าอรซึ่งเป็นน้องสาวของแม่ เพื่อมาใช้งานเนื่องจากช่วงนั้นไม่มีรถใช้งานจึงได้ไปขอยืมรถน้องสาวของแม่มาใช้และรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวได้หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ ก่อนที่นางสาวนิตยาจะเสียชีวิตจึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้แล้วและไม่ทราบว่ารถหายไปที่ใด เพราะว่านำเอารถไปจอดไว้ที่ไซด์งาน เนื่องจากนางสาวนิตยา เป็นโฟร์แมนคุมงานจะต้องเดินทางไปกลุ่มงานการก่อสร้างหลายแห่งทำให้รถหายไป

นางสุพิศ แก้วบุบผา อายุ 69 ปีแม่ของนางสาวนิติยา กล่าวว่า นางสาวนิตยา เป็นเสาหลักของบ้านหาเลี้ยงครอบครัวโดยจะส่งเงินมาให้พ่อกับแม่เดือนละประมาณ 3000 กว่าบาทเป็นประจำทุกเดือนเมื่อขาดนางสาวนิตยาแล้วทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมากเพราะพ่อแม่แก่แล้ว ไม่มีรายได้จากทางอื่นมาใช้จ่ายในครอบครัว ตนอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อคดีนี้ขึ้นมา เพื่อให้ความเป็นธรรมให้กับนางสาวนิตยาลูกสาวที่ตนรักมากด้วย

นางสาวสุธาวรรณ ดอนจันมาตย์ อายุ 17 ปีซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของนางสาวนิตยา กล่าวว่า ตนเสียใจมากที่คุณแม่เสียชีวิตอย่างกระทันหันในครั้งนี้ โดยก่อนที่แม่จะเสียชีวิตแม่ได้โทรศัพท์มาบอกว่าเดี๋ยวแม่จะโอนเงินมาให้เพื่อให้ไปโรงเรียน จากนั้นตนก็มาได้ทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิตกระทันหันในห้องน้ำที่บ้านพักที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งเมื่อนำศพของแม่มาทำบุญที่บ้าน ตนเห็นหน้าแม่แล้วพบว่าแม่เสียชีวิตผิดธรรมชาติเนื่องจากใบหน้าของแม่มีสีม่วงตามใบหน้า ซึ่งลักษณะการตายไม่เหมือนกับคนตายทั่วไป ตนจึงเชื่อว่าแม่จะโดนฆาตกรรม ตนอยากฝากไปถึงคนที่ทำร้ายแม่ของตนว่าขอให้ชดใช้กรรมของเขาไปที่ได้ทำกับแม่ของตนแบบนี้

นายเกิด แก้วบุบผา อายุ  66  ปีพ่อของนางสาวนิตยา กล่าวว่า ตนเสียใจมากที่ลูกสาวที่ตนรักมากต้องมาเสียชีวิตอย่างกระทันหันและทำให้ขาดเสาหลักในการดูแลเลี้ยงดูครอบครัว ตนเชื่อว่าลูกสาวของตนตายผิดธรรมชาติ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำการรื้อคดีนี้ขึ้นมา ทั้งนี้เนื่องจากสังเกตว่า การเสียชีวิตของลูกสาวตนคล้ายกับคนอื่นๆที่ถูกนางแอม ทำการวางยาฆาตกรรมเสียชีวิตก็คือระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว ซึ่งคล้ายกันกับลูกสาวของตน เพราะว่าลูกสาวของตนสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไม่เคยมีโรคประจำตัวหรือโรคร้ายใดๆทั้งสิ้น//

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...