วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษlพระครูโกศลสิกขกิจ นำคณะสงฆ์ นายอำเภอ 2 ชาติ สวดมนต์ข้ามปี

พระครูโกศลสิกขกิจ นำคณะสงฆ์นายอำเภอ 2 ชาติสวดมนต์ข้ามปีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ภา เพื่อขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว มีชาวกัมพูชาและชาวไทยมาร่วมพิธีจำนวนมาก
เมื่อเวลา  20.00 น.วันที่ 31 ธ.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาทม วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา   เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปี “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม”  โดยมี จ.อ.สมควร   สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประเทศไทย และ นาง ณ กะมล รองนายอำเภออัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ร่วมกันเป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมี พระพาน สีนาท เจ้าคณะอำเภออัลลองเวง นำคณะสงฆ์กัมพูชา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด จำนวน 10  รูปและชาวกัมพูชา จำนวน 50 คน มาร่วมกับชาวไทยในพิธีครั้งนี้ โดยมีการบวชเนกขัมมบารมี การประกอบพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้เบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา  การประกอบพิธีเทวาภิเษกพุทธาภิเษกรูปเหมือนและวัตถุมงคลหลวงปู่สรวง ซึ่งมีรูปหล่อหลวงปู่สรวงหลายรุ่น ประธานสงฆ์ให้ศีล พระมหานาค 4  รูป สวดพุทธาภิเษก  พระสงฆ์ 4  รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต สวดนพเคราะห์เสริมดวงเสริมบารมีเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยผู้มาเข้าร่วมพิธีทุกคนได้ร่วมกันสวดมนต์กันอย่างพร้อมเพรียง 
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จนกระทั่งถึงเวลา 00.01 น.ของวันที่ 1 ม.ค.2566  พระครูโกศลสิกขกิจ  ได้นำพุทธศาสนิกชนทุกคนที่มาเข้าร่วมพิธีทำการจุดเทียน แล้วเดินนำคณะไปที่บริเวณหน้ามณฑปหลวงปู่สรวง ประกอบพิธีสวดมนต์บูชาคุณหลวงปู่สรวง พร้อมทั้งอธิษฐานขอพรจากหลวงปู่สรวง เพื่อขอให้บุญฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวงได้โปรดดลบันดาลให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน และขอให้ผู้มาร่วมพิธีและศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวงทุกคนจงมีแต่ความโชคดีมีชัยในปีใหม่ 2566  นี้ 
หลังจากนั้น หลวงพ่อพุฒ วายาโม ได้นำพุทธศาสนิกชนทุกคนที่มาเข้าร่วมพิธีเข้าไปภายในบริเวณศาลาทม   โดยมีคณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์  หลวงพ่อพุฒได้ตักน้ำพระพุทธมนต์ที่ผ่านการปลุกเสกของเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้ไปรดน้ำมนต์ให้กับผู้มาเข้าร่วมพิธีทุกคน เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งพิธีสวดมนต์ข้ามปี“ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม”ในครั้งนี้ ปรากฏว่ามีประชาชนทุกวัยพากันนำครอบครัวมาเข้าวัดสวดมนต์ข้ามปีเพื่อเคาท์ดาวน์รับปีใหม่ วิถีไทย วิถีธรรม กันอย่างคึกคัก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น  ทั้งนี้เพื่อต้องการชำระจิตใจของตนเองให้สงบ มีพลังใจที่จะต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ทั้งการงานและการเรียน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมี นายสำเร็จ  ไพรบึง นายก อบต.ไพรพัฒนา พร้อมด้วย ผู้แทน ผบ.ฉก.3 ผู้แทน ผกก.สภ.ภูสิงห์ ประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวไทยจากทั่วประเทศจำนวนมากมาร่วมพิธีในครั้งนี้ 

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า พิธีสวดมนต์ข้ามปี “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม”  ของวัดไพรพัฒนา เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากว่าเป็นการสวดมนต์ภายในบริเวณวัดไพรพัฒนา ซึ่งเป็นที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทยทั่วประเทศและชาวกัมพูชา มีพระสงฆ์กัมพูชาและพระสงฆ์ไทย มาร่วมพิธีสวดมนต์ เพื่อขอให้บุญฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวงได้โปรดดลบันดาลให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน  และเพื่อขอให้ผู้ที่มาร่วมพิธีทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ การงานเจริญก้าวหน้า ค้าขายร่ำรวย และจะมีสิ่งที่ดีงามเข้ามาสู่ตนเองและครอบครัวตลอดไป///

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl หลวงพ่อพุฒ เชิญร่วมทำพิธีบุญตักบาตร 2 สัญชาติไทยกัมพูชาช่องสะงำ

หลวงพ่อพุุฒเชิญร่วมพิธีทำบุญตักบาตร 2 ชาติไทย กัมพูชาที่ช่องสะงำ  เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยใช้มิติทางพระพุทธศาสนา
เมื่อวันที่ 31ธ.ค. 2565   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.)  และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า  วัดไพรพัฒนาร่วมกับ จ.ศรีสะเกษ และ อ.ภูสิงห์ ได้กำหนดจัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร 2 แผ่นดินขึ้น ในวันที่ 3 ม.ค. 2566  ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ  ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ. ศรีสะเกษ โดยจะมีคณะสงฆ์จาก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประเทศไทย จำนวน 35 รูป พระสงฆ์จาก อ.อันลองเวง  จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาจำนวน 35  รูป รวมเป็น 70 รูป ฝ่ายทางฆราวาสทางฝั่งไทยก็มี แม่ทัพภาคที่ 2 ของประเทศไทย ผวจ. ศรีสะเกษและนายอำเภอภูสิงห์ ส่วนทางฝั่งกัมพูชาก็มีแม่ทัพภูมิภาคทหารที่ 4  ผวจ.อุดรมีชัย และนายอำเภออันลองเวง ของกัมพูชา  ที่จะมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตร 2 แผ่นดิน เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างบ้านพี่เมืองน้องไทย – กัมพูชา โดยใช้มิติทางพระพุทธศาสนานำทาง
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.)  และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวต่อไปว่า  อาตมาภาพจึงขอบอกกล่าวไปยังพี่น้องญาติโยมชาวจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง ขอเจริญพรเชิญร่วมพิธีร่วมทำบุญตักบาตร 2 แผ่นดินไทย – กัมพูชาเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้  ในวันที่ 3 ม.ค. 2566  ตั้งแต่เวลา 09:00 น. เป็นต้นไป ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์                                           จ.ศรีสะเกษ //

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ


วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษlผู้ว่าฯขอให้ประชาชนสร้างด่านตรวจครอบครัวเป็นกำลังหลักในการลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2566

 ผู้ว่าฯขอให้ประชาชนสร้างด่านตรวจครอบครัวเป็นกำลังหลักในการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง  จังหวัดศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายพีระพงศ์  หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทาง สัญจร ผ่านทางรถไฟ ซึ่งในวันนี้ ยังคงมีประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอาศัย และทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ใช้การเดินทางผ่านทางรถไฟ ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบสิ่งของอาหารว่าง ให้กับประชาชนที่เดินทางมารอใช้บริการรถไฟ พร้อมอวยพรให้เดินทางอย่างปลอดภัย ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ คณะ ได้ลงพื้นที่จุดตรวจตู้ยามบุญชัย ตำบลโพนเขวา อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ  และจุดตรวจหน้าห้างเทสโก้โลตัส ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง  จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน 
นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตั้งข้อสังเกตคือ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จะมีประชาชนเดินทางสัญจรเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคืนวันนี้ ( 29 ธ.ค. 2565 )และในวันพรุ่งนี้ ( 30 ธ.ค. 2565 ) ซึ่งหน้าที่ของจังหวัดส่วนหนึ่ง คือ การอำนวยความปลอดภัย ในการสัญจร และการป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เป็นอย่างมาก โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2566 ขึ้น มีการประชุมเตรียมความพร้อม พร้อมทั้งทำความเข้าใจในมาตรการต่างๆ และในช่วง 7 วัน อันตราย จะมีความเข้มข้นในการปฏิบัติ โดยจะมีจุดตรวจหลัก กระจายคลอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด และจุดบริการ และการตั้งด่านชุมชน เพื่อรองรับเรื่องความปลอดภัยทางถนน  เพราะฉะนั้น แม้จะมีประชาชนเดินทางสัญจรในช่วงนี้ เป็นจำนวนมาก แต่ตามมาตรการที่เราได้วางไว้  ตนคาดว่าจะสามารถลดจำนวนอุบัติเหตุ และจำนวนผู้เสียชีวิตในพื้นที่ได้ และให้น้อยลงกว่าทุกปี 
นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า  จากการลงบูรณาการ ลงพื้นที่ออกตรวจเยี่ยมตามจุดตรวจหลัก อย่างเข้มข้น ในวันนี้ จะเห็นได้ว่าหลายๆหน่วย ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ  ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ตลอดจนกลุ่ม อปพร. และจิตอาสา ซึ่งทุกหน่วยที่มาปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนฝากถึงพี่น้องประชาชน ในส่วนที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องของด่านครอบครัว ต้องดูแลกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการมึนเมา การขับขี่ยานพาหนะ ต้องเป็นไปตามกฎหมายจราจร การสวมหมวกนิรภัย การขับขี่รถด้วยความเร็ว ต้องช่วยกันดูแลตักเตือนลูกหลาน ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เพื่อให้ปีใหม่ในปีนี้ มีแต่ความสุขสำหรับประชาชนทุกคน////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษl วิทยา วิรารัตน์ รับมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติผู้อุทิศตน

วิทยา วิรารัตน์ รับมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติผู้อุทิศตนขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมท้องถิ่น  จากกระทรวงวัฒนธรรม
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศาลากลางชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้แก่นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ก่อนการประชุมคณะกรมการจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 12/2565 โดยมี นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นางวาสิตา น้อยพรหม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวศรีสะเกษ และกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีรับมอบครั้งนี้
นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ดำเนินการจัดทำเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด โดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนาม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้อุทิศตน และให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมท้องถิ่น และของชาติด้วยดีเสมอมา
                                                
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ปราจีนบุรีl อภัยภูเบศร เปิดบ้านต้อนรับ ปลัด ศธ คนใหม่

อภัยภูเบศรเปิดบ้านต้อนรับ “ปลัดสธ.คนใหม่” ขานรับนโยบาย Health for wealth สุขภาพเพื่อความมั่นคง หนุนวิจัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลก มอบ สสจ.ปราจีนบุรี หารือสภาหอการค้าจังหวัด เตรียมพร้อมรับ นักท่องเที่ยวจีน ที่จะทะลักเข้าไทยต้นปีหน้า 
  
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและเขตสุขภาพที่ 6  เดินทางมายังโรงพยาบาลเจ้าพระเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อร่วมพิธีเปิด “หอพระอาคารธรรมรักษ์ และหอจิตตารมณ์” โดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้การต้อนรับ ซึ่งหอผู้ป่วยจิตตารมณ์ เป็นหอผู้ป่วยที่ใช้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ Heritage of Well-being & Holistic Thai Wellness และกิจกรรมการตรวจ รักษา โดยหัตถการทางการแพทย์แผนไทย และ คลินิกหัตถเวชศาสตร์ ที่มุ่งเน้นการให้บริการรักษาเฉพาะโรคอย่างตรงจุด โดย หัตถการที่หลากหลาย เช่น การเผายา พอกยา กักน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบริการส่งเสริมสุขภาพ Health & Wellness Tourism และการอบรม เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากสมุนไพร ภาคประชาชน เพื่อการพึ่งตนเอง พร้อมกันนี้ ยังได้นำเสนอเมนู อาหารเป็นยาจาก โคกหนองนา “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศ” เน้นการใช้โมเดลความยั่งยืนทางธรรมชาติ เพื่อความมั่นคงทางยา อาหาร และ สุขภาพ
จากนั้น พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ได้นำเสนอนโยบาย “การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อความมั่นคงทางสุขภาพ” เพื่อให้สอดรับกับนโยบาย “Health for Wealth” ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 โดยระบุว่า  โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้พัฒนางานด้านการแพทย์แผนไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมยกระดับงานด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โดยการบูรณาการร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อให้ผู้รับบริการได้ประโยชน์สูงสุด  โดยโรงพยาบาลเองนั้นนอกเหนือจากจะมีศูนย์ความเป็นด้านการแพทย์แผนไทยแล้ว  เรายังมีศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันอีก 4 ศูนย์คือ  ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์หลอดเลือดสมอง ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน และศูนย์ผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนให้งานบริการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรของโรงพยาบาลได้เติบโตบนฐานทางวิชาการ  ในส่วนของงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เราได้นำนโยบายของกระทรวงมาปฏิบัติในทั้ง 3 ประเด็น กล่าวคือ 
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือเวลเนส ผ่านกิจกรรมและบริการของ อภัยภูเบศร เดย์ สปา และ ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้ฯ การยกระดับด้านการผลิตยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่สากล โดย โรงงานผลิตยาสมุนไพร และ มูลนิธิ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่มีการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์กับเกษตรกรในประเทศ มีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกต่างประเทศ และ การพัฒนาด้านการอบรมความรู้เพื่อสร้างอาชีพกับคนในชุมชน และ การพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยสมุนไพร/บริการ
พญ.โศรยา กล่าวว่า การให้บริการของการแพทย์แผนไทย จะมุ่งเน้นการดูแลแบบองค์รวม โดยใช้หลักของ 3 สมดุลสุขภาพ คือ เจ้าเรือน โครงสร้าง และ ระบบขับถ่าย โดยงานการแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้การดูแลในเชิงป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และ ส่งเสริมสุขภาพ อย่างครอบคลุม เป็นองค์รวม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการใช้สมุนไพร นอกจากนี้ยังให้บริการส่งเสริมสุขภาพ ที่มีการพัฒนาเพื่อรองรับกับสถานการณ์สุขภาพปัจจุบัน รวมถึง เทรนด์สุขภาพ คือ การดูแลหลังติดเชื้อโควิด ด้วยการใช้หัตถการทางการแพทย์แผนไทย   โปรแกรมดีปสลีป ปรับสมดุลการนอนให้มีคุณภาพด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการยืนยันประสิทธิภาพของการใช้องค์ความรู้และยาสมุนไพร โปรแกรมการดูแลมารดาหลังคลอด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพมารดาให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมดูแลบุตร และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับสถาบันต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันทางโรงพยาบาลก็ได้เริ่มถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้นำไปใช้สร้างอัตลักษณ์ของไทยเวลเนส ในขณะเดียวกันที่เน้นคือการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้การบริการ ผลักดันให้เกิดการยอมรับในตลาดโลก  ซึ่งปกติก็บริการเวลเนสของประเทศไทยก็ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวติดหนึ่งใน 5 ของโลกอยู่แล้ว แต่การมีวิจัยจะทำให้เกิดการใช้บริการมากขึ้น ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรายหัวของนักท่องเที่ยวก็จะมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันการทำเวลเนสนั้นไม่ใช่เพื่อหารายได้อย่างเดียว แต่ต้องทำให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพ ไม่เจ็บป่วย การเผยแพร่ความรู้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในระดับครอบครัวและชุมชนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการควบคู่กันไป

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโรงพยาบาลต้นแบบ ในการอนุรักษ์สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้คงอยู่ และพัฒนาจนได้รับการยอมรับในระดับสากล มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นอกจากนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ดูงาน และท่องเที่ยวของจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ที่จะทะลักเข้ามาในประเทศไทยในเดือนมกราคา จึงอยากให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นแกนหลัก ซึ่งตนได้หารือทางผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีแล้ว และขอให้ทาง นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี หารือกับสภาหอการค้าจังหวัดว่าจะมีการเตรียมการรับมืออย่างไร 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะ ได้ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ซึ่งมีการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ” ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ได้เตรียมแผนรองรับอุบัติเหตุหมู่ โดยได้ประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล ให้เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง
//ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

นครสวรรค์l อบต.ดอนคา อ.ท่าตะโก เปิดจุดบริการประชาชน 7 วันอันตราย ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566

องค์การบริหารส่วนตำบลดอนคา  อ. ท่าตะโก เปิดจุดบริการประชาชน  7   วันอันตราย 29  ธ.ค - 4  ม.ค. 2566  ช่วงส่งท้ายปีเก่า  2565   ต้อนรับปีใหม่  2566 
 
วันที่ 29 ธันวาคม 2565 นายสมศักดิ์  ประภาชัยมงคล   นายก. อบต.ดอนคา  อ.ท่าตะโก  จ.นครสวรรค์  พร้อมปลัด อบต.รอง นายก.อบต. ส.อบต.ดอนคา พ.ต.ท.อิสรา  ชื่นกลิ่น  รอง  ผกก.ป. สภ.ท่าตะโก
 นายสมเกียรต์  ประภาชัยมงคล  กำนัน ต.ดอนคา  นางศิริเพ็ญ  ประภาชัยมงคล
พร้อมผู้ใหญ่บ้าน  ผู้ช่วยผุ้ใหญ่ย้าน  นายสันติ  โพธิ์อ่อง ผอ.รพ.สต.บ้านเชาล้อ   นายเกรียงศักดิ์  ชะฎา  ผอ.รพ.สต.บ้านตุ๊กแก  ร.ต.อ.ธนวัฒน์  เพ็ชรสัมฤทธิ์  หน.สายตรวจ  ต.ดอนคา  ร.ต.ท.เจริญ  อินทร์แป้น สายตรวจตำบลดอนคา พร้อม  อสม.ต.ดอนคา   ส.อบต.จูมโพธิ์อ่อง   หน.ตำรวจอาสา ผู้สื่อข่าวนคร อปพร.ตำรวจอาสา   การตั้งจุดบริการประขาชน เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการป้องกันเหตุ เพื่อความปลอดภัยทางการจราจรและลดอุบัติเหตุทางถนน  เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
การตั้งจุดตรวจจุดสกัด จุดบริการประชาชน ครั้งนี้ตั้งริมถนนสายท่าตะโก   -  ไพศาลีหน้า ที่ทำการ  อบต.ดอนคา
    ภาพ/ข่าว ร.ต.อ.นิกร ยะรินทร์ รายงาน

ศรีสะเกษl ผอ.ร.ร. เบญจลักษ์ทิพยาพัฒนา สร้างน้ำตกในบริเวณ ร.ร.เพื่อให้เด็กๆน่าดูน่าอยู่น่าเรียน

ผอ.ร.ร.เบญจลักษ์พิทยาพัฒนา ร.ร.ไม่หยุดยั้งล่าสุดสร้างน้ำตกในบริเวณ ร.ร. เพื่อให้ ร.ร.น่าดูน่าอยู่น่าเรียน ขณะที่ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานหนุนเต็มที่เตรียมร่วมกับศิษย์เก่าและชาวเบญจลักษ์หาเงินรายได้สร้างโดมขนาดใหญ่ให้กับ ร.ร.ใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนและใช้เป็นสถานที่ประชุมราชการของ อ.เบญจลักษ์
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายธีรวัฒน์ คำศรี อดีต รอง ผอ.สพป.เชี่ยวชาญและประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนและการจัดอาคารสถานที่ของ ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา  ซึ่งปรากฏว่า ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา ได้มีการพัฒนาการจัดการศึกษาดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม   มีการจัดอาคารสถานที่สะอาดเรียบร้อยสวยงามมาก  มีการสร้างน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ภายในบริเวณ ร.ร.ทำให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนของคณะครู น.ร.  โดยมี นายธีวราช อ่อนหวาน ผอ.ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา พร้อมด้วย นายบรรจง สีคำ นายนราธิป บุญรมย์ น.ส.มณีจันทร์ ธาตุทอง รอง ผอ.ร.ร. คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน  มาให้การต้อนรับ
นายธีวราช อ่อนหวาน ผอ.ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา  กล่าวว่า  ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2522 สังกัด สพม. ศรีสะเกษ ยโสธรโดยมี ท่าน ดร. รัตติกร ทองเนตร เป็น ผอ.สพม.  โดย ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา มีน.ร.จำนวน 1,200 คน รับ น.ร.ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษา ปีการศึกษา 2559  ได้รับการประกันคุณภาพภายนอก (พ.ศ. 2563-2567)จากสำนักงานมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ระดับการศึกษาขั้นฟื้นฐาน   ร.ร.ผ่านการประเมินรางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  การบริหารจัดการคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เพื่อการประกันคุณภาพสถานศึกษาต้นแบบ ได้รับการรับรองจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ศรีสะเกษ ยโสธรให้ ร.ร.เป็นศูนย์การศึกษาพิเศษ ร.ร.เรียนรวม จ.ศรีสะเกษ

นายธีวราช อ่อนหวาน ผอ.ร.ร.เบญจลักษ์พิทยา  กล่าวต่อไปว่า ร.ร.เบญจลักษ์พิทยาได้รับความร่วมมือด้วยดีจากศิษย์เก่า ผู้ปกครอง น.ร.และประชาชนชาว อ.เบญจลักษณ์ ในการพัฒนาภูมิทัศน์ของ ร.ร. โดยพวกเราได้พากันทำเอง เป็นน้ำตกภายในบริเวณ ร.ร.เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทำให้ ร.ร.ของเราน่าดูน่าอยู่น่าเรียนชุมชนและคุณครูมีความสุขทำให้บรรยากาศของ ร.ร.ร่มรื่นเด็ก ๆนักเรียนก็ไม่หนีไปไหน เพราะว่าเด็กๆชอบบรรยากาศของ ร.ร.เป็นแหล่งเรียนรู้และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะมีกิจกรรมระดมทรัพยากรในปลายปีนี้ด้วย ซึ่งศิษย์เก่าจะเป็นผู้ร่วมทำ เราไม่ได้จัดกิจกรรมระดมทรัพยากรมานานแล้ว ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง เพื่อทำให้ ร.ร.เป็น ร.ร.ที่มีความสุขมีคุณภาพเพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นคนดีคนเก่งมีความสุขและมีคุณค่าในสังคม  และในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566 ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค. 2565      ร.ร.จะได้ร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียน จะจัดงาน ทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา เพื่อสร้างโดมเอนกประสงค์ สำหรับการจัดการเรียนการสอน กิจกรรมกีฬา บริการชุมชน 

นายธีรวัฒน์ คำศรี อดีตรอง ผอ.สพป.เชี่ยวชาญและประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.          เบญจลักษ์พิทยา กล่าวว่า ช่วงที่ตนมารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่าน ผอ.ร.ร.ได้เรียนเชิญคัดคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งมีบุคคลหลากหลายอาชีพตั้งแต่ผู้นำชุมชนแทบจะครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ และมีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่มีโควิด 19  ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคณะกรรมการทุกท่าน มีการเอาใจใส่เป็นอย่างดีก็มีการประชุมผ่านออนไลน์ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ช่วงที่มีการพัฒนา ร.ร.เราก็ได้รับทราบตลอดมีการสื่อสารกัน ทาง ร.ร.มีทีมงานที่ดีในการประสานงานระหว่างชุมชนผ่านคณะกรรมการสถานศึกษาและ ร.ร.ล่าสุดก็มีผลงานออกมามากมายตามที่ท่าน ผอ.ร.ร.นำเสนอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ที่เห็นอยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมและล่าสุดจริงๆ ในวันที่ 30 ธ.ค.65 ที่จะถึงนี้ ศิษย์เก่าและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครูทุกคนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมให้เกิดขึ้นอีกก็คือ หาเงินรายได้ในการสร้างโดมเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนและใช้เป็นศูนย์การประชุมราชการของ อ.เบญจลักษ์ ที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดมแห่งนี้ก็จะสามารถรองรับการประชุมต่างๆซึ่งไม่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อน เป็นงานล่าสุดที่จะจัดขึ้นมาในวันที่ 30 ธ.ค. 65 โดยคาดว่าโดมแห่งนี้จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 3 ล้านบาทเศษ//

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษl ตร.ศรีสะเกษ จับกุมยาบ้าได้ 64,000 เม็ด ยึดรถยนต์มูลค่า 1 ล้านบาท

 รอง ผบช.ภาค 3 เผยสถิติจับกุมยาเสพติดสูงสุดในประเทศไทย ขณะที่ล่าสุด ตร.ศรีสะเกษจับกุมยาบ้าได้ 64,000 เม็ด ยึดรถยนตร์มูลค่า 1 ล้านบาท  ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเบาะแสยาเสพติดให้แจ้งตำรวจใกล้บ้าน
วันที่ 29 ธ.ค.2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย  รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยภายหลังจากที่ได้ร่วมกับ  พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  และพ.ต.อ.สาโรช  ขวัญบุญจันทร์  รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  แถลงผลการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติด ตามยุทธการพิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ ภ.3 และ238 พิทักษ์นครลำดวน โดยเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.65 ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 1 เครือข่าย คือนายซรีฟ หรือรีฟ ศรีจำปา อายุ 21 ปี ที่อยู่ 118 ม.1 ต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้ของกลางเป็นยาบ้า 64,000 เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,200,000 บาท  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้วว่า  ในการป้องกันการลักลอบนำเอายาเสพติดเข้ามาในเขตประเทศไทยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นั้น  ผบช.ภาค 3 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 3 ร่วมกับชุดการข่าวของ ภ.จว.อุบลราชธานี ภจว.อำนาจเจริญ วางกำลังอยู่ตามแนวลำน้ำโขงในการติดตามเส้นทางสำคัญแล้ว  รวมทั้งมีแผนการตั้งด่านตรวจเข้มยาเสพติด ขยายความเข้มในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะว่าเส้นทางหลักและเส้นทางรองในพื้นที่ก็มีอยู่ 205 จุด  
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย  รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับการวางเครือข่ายเป็นรูปใยแมงมุม และเหลื่อมเวลา ซึ่งจะสอดรับกับแผนของ ภ.จว.ในการที่จะสกัดกั้นเส้นทางรอง และจะมีชุดด้านการข่าวทางฝั่ง จ.นครราชสีมาที่จะสกัดกั้นทางด้าน อ.วังน้ำเขียวรวมทั้งทางด้าน อ.สีดาและทางด้าน อ.พุทไธสง รวมทั้งขาออกไม่ว่าจะไปทางด้าน อ.เทพสถิตและ อ.กลางดง  โดยมีการใช้เทคนิคในการเฝ้าติดตามกลุ่มบุคคลหรือกลุ่มยานพาหนะเป้าหมายที่เข้ามาในพื้นที่อันนี้ก็คือเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะ ในส่วนของการป้องกันก็มีการดำเนินการค้นหาผู้ขายผู้เสพเพื่อนำส่งศูนย์คัดกรองและบำบัด ซึ่งตอนนี้ก็สามารถที่จะทำให้คนในชุมชนและหมู่บ้านเข้าใจถึงสถานการณ์และจุดประสงค์ของรัฐบาลและตำรวจในการที่จะแยกคนกลุ่มนี้ออกจากการเป็นผู้กระทำผิด ให้กลายมาเป็นผู้ป่วย และจะได้นำเอาไปรักษาพยาบาล ตอนนี้ก็มีผลงานการค้นหาทั่วประเทศสูงมาก ซึ่ง ตร.ภาค 3 ก็ได้เยอะมากเป็นอันดับ 2 ในการค้นหาคนป่วยซึ่งเป็นการทำควบคู่กันไปในระยะยาว 
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย  รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยด้วยว่า ตร.ภาค 3 เราเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆแล้ว ก็มีการจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดสูงที่สุดในประเทศ  เพราะว่าเราดำเนินการทุกพื้นที่ทุกตารางนิ้ว  โดยเฉพาะการสกัดกั้นตามแนวชายแดนเราก็ซีลหมด เพราะฉะนั้นการที่จะนำเอายาเสพติดขึ้นมาตามลำน้ำโขง ในฝั่งภาค 3 ก็ทำได้ยากซึ่งถ้ามีการรั่วเข้ามาตนก็ต้องดูแล้วว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหนเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ การข่าวของเราสนใจแค่ไหนทำไมถึงปล่อยให้เข้ามาได้ แม้กระทั่งการลำเลียงมาจากภาคส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นจากตอนในย้อนกลับขึ้นมาหรือว่าจากทางภาคเหนือเข้ามาทางภาคอีสาน ถ้ามีข่าวเกี่ยวกับการจับกุมรายใหญ่ได้ เราก็จะส่งทีมลงไปดูว่าเส้นทางและกลุ่มแก๊งเป็นอย่างไร และโยงใยเข้ามาในเขตภาค 3 ยังไง พวกบุคคล ยานพาหนะเป้าหมายถ้าเข้ามาในภาค 3 เราจะรู้เลยเพราะฉะนั้นต้องไปทำที่อื่น ตนขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนและสถานประกอบการทุกแห่ง ให้แจ้งเบาะแสข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งผู้เสพ ผู้ค้า  โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599  สายด่วน 191 Application Police | Lert U และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ สายด่วน 1567  ได้ตลอด 24 ชม. และสถานีตำรวจใกล้บ้าน เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น  เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดและปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป//////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ



 

ศรีสะเกษl ความคืบหน้าชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุม ขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัด ปรากฏว่า เจ้าอาวาสหายไปจากวัดแล้ว

 คืบหน้าชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุมขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัด ปรากฏว่า เจ้าอาวาสหายไปจากวัดแล้ว ขณะที่ประธานชุมชนเผยมีคณะผู้ปกครองสงฆ์พิมพ์หนังสือไปให้เจ้าอาวาสวัดลงนามลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังไม่ทราบผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พระครูสันติธรรมานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ซึ่งเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษได้แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้าน 3 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนผดุงธรรม ชุมชนวัดหลวง ชุมชนวัดเลียบ ได้มีการร้องเรียนว่า เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งเขต อ.เมืองศรีสะเกษ มีพฤติกรรมในด้านการใช้เงินที่ได้เงินมาจากการทอดกฐินไม่โปร่งใส ไม่ยอมมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์ ไม่ทำวัตรเย็น ไม่ออกไปบิณฑบาต การใช้คำพูดวาจาหยาบคายด่าว่าพระเณรและชาวบ้าน ไม่บริหารดูแลวัด ปล่อยให้วัดสกปรกรกรุงรัง ซึ่งได้มีการเชิญ นายสกล  อุดมสุข ประธานชุมชนวัดหลวง นายบุญชัย  ศรีบุญเรือง ประธานชุมชน นายสุรพันธ์  สมหมายโชติภัทร์ ประธานชุมชนวัดเลียบ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านและเจ้าอาวาสวัดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องตามที่มีการร้องเรียนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลา 17.55 น. วันที่ 28 ธ.ค. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นวัดที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า  กุฏิเจ้าอาวาสวัดปิดประตูเงียบ  ไม่พบว่า เจ้าอาวาสวัดอยู่ในกุฏิแต่อย่างใด  สอบถามจากพระเณรภายในวัดก็ไม่ทราบว่า เจ้าอาวาสไปไหน  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ นางอมรา  ม่วงพิพัฒน์ อายุ  72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1617/2 ถ.ศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่ตนและชาวบ้านใกล้วัดแห่งนี้ได้พากันชุมนุมขอให้เจ้าอาวาสวัดลาออกจากตำแหน่งแล้ว ก็ไม่ทราบว่า เจ้าอาวาสวัดไปอยู่ที่ใด  ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง หากไม่จริงตนและชาวบ้านคงจะไม่กล้าที่จะรวมตัวกันทำเรื่องนี้ขึ้นมา  หากว่าเจ้าอาวาสวัดไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งหรือว่าไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น พวกตนกับชาวบ้านทั้งหมดก็จะไม่เข้าไปทำบุญที่วัดและไม่ร่วมพัฒนาวัดอีกต่อไป  และจะทำเรื่องร้องทุกข์ไปยังคณะสงฆ์ผู้ปกครองที่อยู่เหนือขึ้นไปอีก เพราะว่า พวกตนสุดที่จะทนกับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว

ทางด้าน นายสกล  อุดมสุข ประธานชุมชนวัดหลวง  ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับวัดแห่งนี้ และเป็นผู้ร่วมลงชื่อกับอีก 2 ประธานชุมชน เพื่อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัดลาออกจากตำแหน่ง กล่าวว่า  จากการตรวจบัญชีเงินฝากของวัดทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่า เงินของวัดไม่เหลืออยู่เลย รวมทั้งเงินกฐินที่ได้รับมาจำนวนประมาณ 570,000 บาท ก็หายไปหมด  ซึ่งตนได้รับทราบจากคณะผู้ปกครองสงฆ์ว่า ได้มีการพิมพ์หนังสือนำเอาไปให้เจ้าอาวาสวัดลงนามเพื่อขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่ตนยังไม่ทราบว่า มีการลงนามหรือยัง แต่ว่าพวกตน จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว หากยังดึงดันไม่ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด  พวกตนจะดำเนินการร้องทุกข์ต่อไปจนถึงที่สุด เพื่อให้เจ้าอาวาสลาออกจากตำแหน่ง หรือว่าย้ายเจ้าอาวาสไปอยู่ที่วัดอื่นต่อไป///

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษI ชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุม ขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัด แฉใช้เงินทอดกฐินร่วม 6 แสนแสนบาท ไม่โปร่งใส

ชาวบ้าน 3 ชุมชนชุมนุมขอให้ย้ายเจ้าอาวาสวัดแฉใช้เงินทอดกฐินร่วม 6 แสนบาทไม่โปร่งใส   ขณะที่เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วขอให้เจ้าอาวาสวัดตัดสินใจเองว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อไร
วันที่ 28 ธ.ค. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  พระครูสันติธรรมานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ซึ่งเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษได้แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อมาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้าน 3 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนผดุงธรรม ชุมชนวัดหลวง ชุมชนวัดเลียบ ได้มีการร้องเรียนว่า เจ้าอาวาสวัดมีพฤติกรรมในด้านการใช้เงินที่ได้เงินมาจากการทอดกฐินไม่โปร่งใส ไม่ยอมมาร่วมปฏิบัติศาสกิจของสงฆ์ ไม่ทำวัตรเย็น ไม่ออกไปบิณฑบาต การใช้คำพูดวาจาหยาบคายด่าว่าพระเณรและชาวบ้าน ไม่บริหารดูแลวัด ปล่อยให้วัดสกปรกรกรุงรัง ซึ่งได้มีการเชิญ นายสกล  อุดมสุข ประธานชุมชนวัดหลวง นายบุญชัย  ศรีบุญเรือง ประธานชุมชน นายสุรพันธ์  สมหมายโชติภัทร์ ประธานชุมชนวัดเลียบ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านและเจ้าอาวาสวัดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องตามที่มีการร้องเรียนนั้นมีความเป็นมาอย่างไร 
นางอมรา  ม่วงพิพัฒน์ อายุ  72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1617/2 ถ.ศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนและชาวบ้านพากันมาปฏิบัติธรรมและร่วมกันดูแลพัฒนาวัดแห่งนี้มานานแล้ว ซึ่งปกติแล้วจะมีชาวบ้านพากันมาทำบุญจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันพระ แต่ว่านับตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดรูปนี้มาเป็นเจ้าอาวาสวัด  ทำให้วัดแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไป  เนื่องจากว่า ไม่ยอมปฏิบัติกิจของสงฆ์ ไม่ยอมทำวัตร อ้างว่า ทำวัตรมานานแล้ว ไม่ทำการดูแลวัดปล่อยให้วัดสกปรกรุงรัง เมื่อพระเณรต้องการจะตัดหญ้าไปขอเงินค่าน้ำมันจากเจ้าอาวาสวัดก็โดนด่าว่า ต่าง ๆ นานา ด่าถึงบุพการีของพระเณร มีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นประจำ ทำให้พระเณรและชาวบ้านไม่กล้าที่จะเข้ามาวัด   พระเณรต้องพากันเรี่ยไรเงินมาซื้อน้ำมันเพื่อเติมเครื่องตัดหญ้า ทำการตัดหญ้าภายในวัดเพราะไม่สามารถที่จะทนต่อความรกรุงรังรอบบริเวณวัดได้ 
นางอมรา  กล่าวต่อไปว่า ล่าสุด เมื่อเร็ว ๆ นี้  ผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้านได้ร่วมกันจัดทอดกฐินเพื่อหาเงินมาทำการซ่อมแซมบูรณะเมรุเผาศพของวัดที่ใช้งานมานานแล้ว ได้เงินทอดกฐินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 570,000 บาท ซึ่งเจ้าอาวาสวัดได้เก็บเงินเอาไว้ โดยที่ไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดไม่ได้เข้ามาช่วยดูแลเงินด้วย   เพราะว่า เจ้าอาวาสวัดจะเก็บเงินกฐินเอาไว้เอง และไม่ได้มีการทำการบูรณะเมรุเผาศพของวัดแต่อย่างใด เงินจำนวนนี้ก็ไม่ทราบว่า หายไปที่ใด เงินเหลือเท่าไร เมื่อตัวแทนชาวบ้านไปสอบถามก็มักจะโดนด่าว่า และจะชี้แจงการใช้จ่ายเงินที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้ชาวบ้านทราบ ทำให้ไวยาวัจกรและกรรมการวัดรวมทั้งชาวบ้านพากันเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมความไม่โปร่งใสของการบริหารเงินของวัด พวกตนจึงขอเรียกร้องขอให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษให้ย้ายเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ไปอยู่ที่อื่น หรือให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่มาบริหารวัดแทน จะทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า การที่ชาวบ้านไม่ยอมมาเข้าวัดนี้เป็นเพราะชาวบ้านหรือว่าเป็นเพราะพระกันแน่ที่ทำให้ชาวบ้านไม่พากันมาเข้าวัดแห่งนี้

เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ กล่าวว่า อาตมาภาพมีสุขภาพไม่แข็งแรง ชราภาพ เดินเหินไม่ค่อยสะดวก  ซึ่งการที่จะทำการพัฒนาซ่อมแซมเมรุเผาศพนั้น ได้วางแผนเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ  เมื่อถึงเวลาอันสมควรอาตมาภาพพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ไม่ยึดติดกับตำแหน่งแต่อย่างใด  เนื่องจากว่า ลูกหลานอยู่ที่บ้านดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ต้องการให้กลับไปอยู่ที่บ้านดวนใหญ่ เพื่อจะได้ช่วยดูแลเพราะเห็นว่า ชราภาพมากแล้ว 

พระครูสันติธรรมานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า  คณะสงฆ์ที่มาตรวจสอบได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย เพื่อให้เรื่องราวต่าง ๆ จบลงด้วยดี  โดยได้ขอให้เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้พิจารณาเองว่า จะลาออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเมื่อไรหรือไม่อย่างไร  เพื่อที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ จะได้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่มาทำหน้าที่แทนเพื่อให้วัดแห่งนี้ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองศรีสะเกษได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะได้ให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญพัฒนาวัดต่อไป////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...