วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษ| ตชด.ปกครอง ทหารพราน ตม.จับหนุ่มวัย 25 ปี ขายยาบ้า 12,000 เม็ด

 ตชด.ปกครอง ทหารพราน ตม.จับหนุ่มวัย 25 ปีขายยาบ้า 12,000 เม็ด  ขณะที่นายอำเภอกันทรลักษ์ ไปตรวจสอบสั่งขยายผลทลายเครือข่ายยานรก
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนข้างโรงสีข้าวแห่งหนึ่ง ต.จานใหญ่  อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่  ตชด.ชุด ชปส.ร้อย.ตชด.224 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  อ.กันทรลักษ์ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และเจ้าหน้าที่ ตม.จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า ที่บริเวณถนนดังกล่าวมีการแอบลักลอบจำหน่ายยาบ้า และมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ดังนั้น จึงได้สนธิกำลังร่วมกันจัดชุดเข้าตรวจสอบพื้นที่กระจายตรวจตามเส้นทางที่ต้องสงสัย
จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามเส้นทางได้พบรถต้องสงสัย เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กฒ 2119 ศรีสะเกษ โดยมีนายวีรเทพ  ปัญญาวรรณ์   อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ผ่านมา และมีอาการท่าทางมีพิรุธและมีกระเป๋าสะพายมาด้วยหลายใบ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น เมื่อตรวจสอบภายในย่ามที่นายวีรเทพ สะพายมาด้วยพบว่ามีกระสอบบรรจุยาบ้าจำนวน 2 มัด  เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการแกะออกเพื่อตรวจสอบ พบยาบ้าแบ่งในถุงซิบสีน้ำเงินจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มียาบ้าบรรจุในถุงซิบ จำนวนทั้งสิ้น 12,000 เม็ด
ต่อมา นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เดินทางเข้ามาที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224  เพื่อตรวจติดตามการจับกุมยาบ้าในครั้งนี้ ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายวีรเทพ  ปัญญาวรรณ์   อายุ 25 ปี ผู้ต้องหารายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นเจ้าของยาบ้าทั้งหมดจริง อีกทั้งตนก็มีพฤติกรรมในการเสพยาบ้าด้วย โดยได้นำเอายาบ้ามาขายให้กับเครือข่ายยาบ้าบริเวณนี้ ซึ่งนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามทลายเครือข่ายยาบ้าแก๊งนี้ให้หมดสิ้นไป และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ได้ช่วยกันทำงานเร่งป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหากับ นายวีรเทพ  ปัญญาวรรณ์ ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)  จากนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป///

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| วัดบ้านคูบ จัดกิจกรรมวันครบรอบวันละสังขารหลวงปู่ทอง ปภากโร ครบ 2 ปี

วัดบ้านคูบ จัดกิจกรรมวันครบรอบวันละสังขารหลวงปู่ทอง ปภากโร ครบ 2 ปี ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านคูบ ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง  จ.ศรีสะเกษ   นายสุพจน์  ไชยกุฉิน ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนนายอำเภอน้ำเกลี้ยง ได้เดินทางไปเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในการจัดกิจกรรมวันครบรอบวันละสังขาร หลวงปู่ทอง ปภากโร ครบรอบ 2 ปี โดยได้รับความเมตตาจาก พระญาณวิเศษ  (หลวงปู่สุพรรณ กนโก) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ(ธ.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มี นายบุญเลิศ  ภาคะ นายก อบต.คูบ  นำพุทธศาสนิกชนชาว ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยงและ จ.ศรีสะเกษ ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก  มีกิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมนุ่งผ้าไทยผ้าพื้นเมืองทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พิธีเปลี่ยนจีวรหลวงปู่ทอง ณ เจดีย์ที่ตั้งสังขารหลวงปู่  และพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลท้าวเวสุวรรณบูชาครูรุ่น 1 จากเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย พระญาณวิเศษ (หลวงปู่สุพรรณ กนโก) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ(ธ) วัดซำตาโตง พระครูสุทธิธรรมพิทักษ์ ผศ.ดร. (หลวงปู่วัลลภ ฐิติธัมโม) วัดสว่างวารีรัตนาราม  หลวงปู่เสาร์  ถาวโร  วัดป่าเมธีธรรมราม  พระวรกิจคุณากร  วัดบ้านคูบ พระครูมงคลชัยสิทธิ (หลวงปู่เสียน  โสปาโก) วัดชัยมงคล หลวงพ่อพรชัย  พุทธสาโร สำนักสงฆ์น้ำย้อย  หลวงพ่อเจียม  วัดโนนเรือ  และหลวงปู่วิเชียร  วิมโล  วัดบ้านเสมอใจ  ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช   บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9  เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระวันละสังขารของหลวงปู่ทอง นำเงินทำบุญบูชาวัตถุมงคลมาสร้างศาลาการเปรียญวัดบ้านคูบ และเพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นนุ่งผ้าไทยผ้าพื้นเมืองทำบุญตักบาตรให้เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของ อ.น้ำเกลี้ยงแบบยั่งยืนต่อไป  
นายบุญเลิศ  ภาคะ นายก อบต.คูบ  กล่าวว่า หลวงปู่ทอง  วัดบ้านคูบ พระเกจิชื่อดังแห่งอีสานใต้ เป็นพระที่เคร่งครัดในศีลาจารวัตร อ่อนน้อม ถ่อมตน สันโดษ พูดน้อย สมถะเรียบง่าย  ชาวบ้านในจังหวัดแถบชายแดนอีสานใต้ให้ความเสื่อมใสศรัทธาเป็นศิษย์สืบสายธรรมสำเร็จลุน  พระเกจิอาจารย์แห่งนคร   จำปาศักดิ์ สปป.ลาว  มีนามเดิมว่า นายทอง สิงห์ซอม ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2449 ปีมะเมีย ในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 พื้นเพเป็นชาวบ้านคูบ หมู่ 3 ต.บ้านคูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ บิดา-มารดาชื่อนายดอ และนางสิงห์ สิงห์ชอบ ประกอบอาชีพทำนา ขณะมีอายุ 49 ปี อุปสมบทที่พัทธสีมา วัดบ้านคูบ ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ครองผ้ากาสาวพัสตร์นานหลายปี จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านคูบ ในสมัยนั้นไม่รับ  สมณศักดิ์ ทำนุบำรุงพัฒนาเสนาสนะอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะลาออกในเวลาต่อมา และสึกไปใช้ชีวิตเป็นฆราวาส อายุ 72 ปี เข้าพิธีอุปสมบทครั้งที่ 2 ที่อุโบสถวัดสว่างวารีรัตนาราม มีพระครูสุทธิธรรม หรือหลวงปู่วัลลภ เจ้าคณะอำเภอน้ำเกลี้ยง เป็นพระอุปัชฌาย์ ปวารณาครองผ้าเหลือง มุ่งสู่แดนธรรมตามรอยพระพุทธศาสนาด้วยความมุ่งมั่น หลังจากนั้นจึงเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาด้านชายแดน จ.ศรีสะเกษ ก่อนจะเดินทางข้ามฝั่งประเทศลาวและกัมพูชา เพื่อนั่งปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานนาน 1 ปี จึงลัดเลาะตะเข็บชายแดนมาทางด้าน จ.อุบลราชธานี เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่มาตุภูมิฝั่งไทย นับแต่บวชรอบ 2 เป็นเพียงแค่พระลูกวัด ปัจจุบันมีพระครูวรกิจคุณากร (แป กตคุโณ) ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านคูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษและปฏิบัติศาสนกิจและกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัดมายาวนานหลายปี 
นายบุญเลิศ  ภาคะ นายก อบต.คูบ  กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญสังฆทานพระราชทานไปถวายที่วัดบ้านคูบ ด้วยสังขารที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา หลวงปู่ทองจะรับเฉพาะกิจนิมนต์ในวัด เนื่องจากเดินไม่ค่อยคล่องตัว ส่วนนอกวัดจะรับกิจนิมนต์ในบางครั้ง เพราะต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ ช่วงปัจฉิมวัย มีดำริจัดสร้างเจดีย์บูรพาจารย์ เพื่อไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเครื่องอัฐบริขาร เพื่อให้ชาวชุมชน ต.คูบ มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและอนุชนรุ่นหลังไว้ศึกษา เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน เม.ย.2562 เป็นเจดีย์ลักษณะทรงไทยประยุกต์ไทยอีสาน ฐานกว้างด้านละ 8 เมตร สูง 15 เมตร ตั้งงบสร้างไว้ 3.5 ล้านบาท จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2563 ยังขาดแค่กำแพงแก้วรอบ 4 ทิศ  กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2565 นายณเดชน์ คูกิมิยะ ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมคุณแม่แก้ว มารดา เดินทางมาถวายเครื่องอัฐบริขาร พร้อมทั้งกราบไหว้และดูแลจนเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ 

นายบุญเลิศ  ภาคะ นายก อบต.คูบ  ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 มีการประกอบพิธีสมโภชเจดีย์ มีพระเกจิชื่อดังนั่งอธิษฐานจิตพร้อมกับเสกวัตถุมงคลมอบเป็นที่ระลึกในงานสมโภชและมาทำบุญที่วัด ถัดมาแค่ 1 เดือน หลวงปู่ทองก็มีอาการอาพาธด้วยโรคชรา เมื่อต้นเดือน พ.ย.63  หลวงปู่ทองมีอาการเหนื่อยล้าและแน่นหน้าอก ลูกศิษย์ที่ดูแลใกล้ชิดจึงรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลกันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังกลับมาพักพื้นที่กุฏิวัดได้แค่ 1 สัปดาห์ มีอาการทรงตัว ต่อมาเช้าวันที่ 30 พ.ย. 2563 มีอาการเสมหะติดคอ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น พระลูกวัดที่คอยดูแลอาการช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด โดยได้ปลุกเรียกอยู่นานหลายครั้ง แต่ไม่ยอมตื่น จึงวิ่งออกจากกุฏิมาเรียกลูกศิษย์และพระลูกวัดไปช่วยดู กระทั่งพบว่าหลวงปู่ทองละสังขารอย่างสงบที่กุฏิ เมื่อเวลา 10.14 น.ของวันที่ 30 พ.ย. 2563  สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่พุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศเป็นอย่างยิ่ง  ตนจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญบูชาวัตถุมงคลท้าวเวสุวรรณบูชาครูรุ่น 1 สร้างศาลาการเปรียญวัดบ้านคูบ  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  นายบุญเลิศ  ภาคะ นายก อบต.คูบ และคณะกรรมการวัดบ้านคูบ ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ                                 โทร.089 – 7174279 //////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ|วัดไพรพัฒนา จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

 วัดไพรพัฒนาจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ขอทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน  2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาทม วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์(ธรรมยุต) ได้นำคณะสงฆ์อำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) พร้อมด้วย พสกนิกรอำเภอภูสิงห์ อบต.ไพรพัฒนา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรง โดยมีการร่วมกันนั่งสมาธิตั้งอธิษฐานจิต การถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์  การลงนามถวายพระพร โดยมี พระครูสิริวินัยวัฒน์  เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ (ธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ธรรมยุต) ร่วมนำคณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และมี นายสรพงษ์ ชายแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอภูสิงห์ ได้รับมอบหมายจาก นายอำเภอภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายสำเร็จ   ไพรบึง นายก อบต.ไพรพัฒนา  นายบุญมี  เสนคราม กำนัน ต.ภูสิงห์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาว อ.ภูสิงห์ มาร่วมพิธีจำนวนมาก
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์(ธรรมยุต) กล่าวว่า ด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ บารมีของพระโพธิสัตว์ทุกองค์ รวมถึงพระบารมีของพระมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ และเดชแห่งบุญกุศลจากการเจริญพระปริตรตมงคล และเจริญวิปัสสนากรรมฐานในวันนี้ อาตมาภาพ พระครูโกศลสิกขกิจ พร้อมด้วยคณะสงฆ์อำเภอภูสิงห์ พ่อค้าประชาชนพสกนิกรชาวอำเภอภูสิงห์ ข้าราชการ ผู้บริหาร คณาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง ขอพระราชทานพระราชวโรกาสถวายพระพร ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงหายจากพระอาการประชวร
ขอทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สถิตเสถียรมั่นเป็นมิ่งขวัญประชาชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน
ขอถวายพระพร///// 

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ชมรมครูประถมศึกษาเรียกร้องต่อรัฐสภาไม่ให้นำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. เข้าวาระการประชุมวาระ 3

ชมรมครูประถมศึกษาเรียกร้องต่อประธานรัฐสภาไม่ให้นำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...บรรจุเข้าวาระการประชุมวาระ 3 และเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ที่มีความรู้ประสบการณ์ และเคยทำงานเรื่องการศึกษามาอย่างเชี่ยวชาญขึ้นใหม่ โดยใช้ร่างเดิม และนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 เป็นต้นร่าง
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมดอยตุง ร.ร.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ  ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ดร.สุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษา   จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการประชุมแกนนำคณะกรรมการชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือเกี่ยวกับการคัดค้านเรียกร้องไม่ให้ประธานรัฐสภาไม่ให้นำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...บรรจุเข้าวาระการประชุมวาระ 3  เนื่องจากชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษและข้าราชการครูทั่วประเทศไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ในหลายประเด็นด้วยกัน โดยมี นายเอกอมร ใจจง หัวหน้าสำนักงานและประธานยุทธศาสตร์ชมรมฯ พร้อมด้วย นายศราวุธ วามะกัน เลขาธิการชมรมฯ  นายสัมพันธ์ ไทยสรวง ผอ.ร.ร.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ ผู้นำครูสังกัด สพป.       ศรีสะเกษ เขต 1-4 มาร่วมประชุมหารือในครั้งนี้   จากนั้น ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทุกแขนง
ดร.สุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า จากกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รอง นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแสดงความเป็นห่วงในที่ประชุม (ครม.) เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ....ที่อยู่ในการพิจารณาของรัฐสภาว่า เป็นกฎหมายปฏิรูป รื้อระบบการศึกษาหลายอย่าง และมีปัญหาในหลายมาตรา ที่จะทบทวนเป็นครั้งสุดท้ายในกรรมาธิการ จึงขอให้ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้วิปสภาไปพูดคุยกับวิปวุฒิสภา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปเจรจากันในการที่จะปรับปรุงแก้ไขประเด็นเหล่านี้เสีย ซึ่งชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาลได้กรุณาห่วงใย ติดตาม ตรวจสอบสาระในบทบัญญัติแห่งกฎหมาย อันจะส่งผลประโยชน์ยิ่งต่อประเทศชาติ และให้มีการทบทวน

ดร.สุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า ชมรมครูประถมศึกษา                                       จ.ศรีสะเกษ ขอแถลงจุดยืนความจำเป็นต้องปรับแก้ประเด็นสำคัญในอีกหลายมาตรา อันเนื่องด้วยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่ตอบโจทย์ประเทศ ไม่ส่งผลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และสงบสุข ในสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ....(ฉบับผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญฯ) คือ 1. รัฐไม่จัดการศึกษา จะนำมาซึ่งความแตกแยกทางความคิดของคนในชาติ สู่การล้มเจ้าไม่เอาสถาบัน จะเกิดความไม่สงบทางสังคมและความวุ่นวายทางการเมืองการปกครอง ตามนัยมาตรา 11 (1) (3) และ 48 วรรค 2    2. เด็กและผู้ปกครองไม่ได้รับโอกาสจากครูดีที่มีมาตรฐานและคุณภาพ เพราะคนทั่วไปใครก็เป็นครูได้ การศึกษาล้มเหลว มาตรา ม.11 34, 35 และ 42 

ดร.สุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ  ยังกล่าวด้วยว่า 3. องคาพยพทางสังคมไทยถูกปรับเปลี่ยนไป สถานศึกษาที่เป็นสถาบันคู่ชุมชนโรงเรียนเล็กถูกยุบ ควบรวม ลดจำนวนผู้บริหาร และข้าราชการครู ส่งผลต่อความสงบสุขสามัคคีของคนในชาติ มาตรา 14  (9)    4. ขาดการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ขาดหลักธรรมาภิบาลการปกครองบ้านเมืองที่ดี ความรักชาติ ศาสนา และเคารพในสถาบัน มาตรา 6, 8, 11 และ ม.48 วรรค 2    และ 5. แนวการจัดการศึกษาไม่ส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน มาตรา 8   ดังนั้น ชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ  จึงขอเรียกร้องดังนี้ 1. ขอเรียกร้องต่อประธานรัฐสภาไม่ให้นำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...บรรจุเข้าวาระการประชุมวาระ 3    และ 2. ขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ที่มีความรู้ประสบการณ์ และเคยทำงานเรื่องการศึกษามาอย่างเชี่ยวชาญขึ้นมาใหม่ โดยใช้ร่างเดิมและนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาเป็นต้นร่าง ตนจึงขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายก รมต. และประธานรัฐสภา รวมทั้งผู้มีอำนาจทุกภาคส่วนได้โปรดพิจารณาข้อเรียกร้องของชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษดังกล่าวด้วย//////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษ| ปิดตำนานพระพ่นไฟรักษาโรคสึกแล้ว

ศรีสะเกษ ปิดตำนานพระพ่นไฟรักษาโรคสึกแล้วเจ้าคณะจังหวัดแต่งตั้งพระครูโกศลสิกขกิจ  ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชรแทนเพื่อจัดระเบียบของวัดให้เป็นไปตาม พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นวัดที่เคยมีข่าวโด่งดังว่า พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อสมเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ได้ใช้วิธีการพ่นไฟไล่ผีและรักษาโรคต่าง ๆ เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่าโดนคุณไสย มนตร์ดำ ไปเข้ารับการรักษาจากทางแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว แต่ก็ไม่หายจึงเดินทางมาให้หลวงพ่อเพชรช่วยรักษา โดยวิธีการพ่นไฟ  ซึ่งหลวงพ่อเพชรอ้างว่าเป็นวิชาที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงปู่สรวง ครูบาอาจารย์ พระเกจิอาจารย์ ที่นับถือและศึกษาเล่าเรียนวิชามาเป็นผู้ถ่ายทอดประสาทวิชาให้ เพื่อเอาไว้ใช้ช่วยรักษาคนที่ถูกของไสยศาสตร์มนตร์ดำโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการจะให้ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษานอนหงายบนแคร่ ก่อนจะใช้แป้งมันสิงคโปร์ และแป้งข้าวเหนียวผสมกัน นำเอาไปนวดบนหน้าท้องของผู้ป่วยทั้งหญิงและชาย พร้อมท่องคาถาเสมือนให้แป้งดังกล่าวทำหน้าที่ดูดคุณไสยมนตร์ดำ หรือสิ่งไม่ดีที่อยู่ในร่างกายของผู้ป่วย เสมือนเป็นการใช้ไฟปัดเป่าภูตผีวิญญาณร้ายที่สิงสถิตอยู่ในร่างกายของคน ให้หลุดพ้นออกจากร่างกายของผู้ป่วย ต่อมา มีประชาชนร้องเรียนพฤติกรรมดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม ผิดหลักของพระพุทธศาสนา เพราะพระไม่สมควรประกอบพิธีกรรมที่ถูกเนื้อต้องตัวญาติโยม ซึ่งต่อมา พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) พร้อมด้วย พระครูใบฏีกาพรชัย จันทโก เจ้าคณะตำบลไพรพัฒนาและตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  ได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ โดยคณะสงฆ์ อ.ภูสิงห์ ได้สั่งให้หลวงพ่อเพชร หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว เนื่องจากว่าหลวงปู่สรวงท่านไม่เคยสอนวิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการแบบนี้แต่อย่างใด ซึ่งหลวงพ่อเพชรยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของคณะสงฆ์ โดยการหยุดพ่นไฟรักษาโรคต่าง ๆ แล้ว 
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 65 ที่วัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  และมี  จ.อ.สมควร   สิงห์คำ  นายอำเภอภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีมอบตราตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จากนั้น เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ได้ประกอบพิธีมอบตราตั้งให้ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร และมอบตราตั้งคณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรวัดป่าพลาญเพชร รวมจำนวน 25 คน  โดยมี พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ (ธ.)  พระครูสิริรัตนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์ (ธ.)     เจ้าคณะอำเภอขุนหาญ (ธ.) เจ้าคณะอำเภอเบญจลักษ์ (ธ.)  พร้อมด้วยคณะสงฆ์ธรรมยุต ชาวบ้านโคกแดงและหมู่บ้านใกล้เคียง มาร่วมพิธีครั้งนี้จำนวนมาก
พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธ.) กล่าวว่า ด้วย พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้น จึงทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง อาศัยอำนาจตามความในข้อที่ 27  แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505  แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับที่ 2  (พ.ศ. 2535) จึงแต่งตั้งให้ พระครูโกสลสิกขกิจ ฉายา วายาโม (อาจหาญ)อายุ 64 พรรษา 37  วิทยฐานะ น.ธ. เอก,ป.ตรี วัดไพรพัฒนา  ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันมีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (บ้านโคกแดง)  ต.ไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส  ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ที่ 20/2565 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเข้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร  แต่งตั้ง ณ วันที่ 12 พ.ย. 2565  ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่  2  ต.ค. 2565 เป็นต้นไป

พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา และรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร  ซึ่งเป็นศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นพระที่มีความกตัญญูเป็นเลิศ ได้กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร รูปเดิม ได้ลาสิกขาแล้ว พระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) จึงได้มีบัญชาแต่งตั้งให้อาตมาภาพมารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร ซึ่งอาตมาภาพได้แต่งตั้งคณะกรรมการวัด จำนวน 23 คน มีหน้าที่ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์และช่วยเหลือกิจการของวัด และไวยาวัจกร  จำนวน  2 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือวัดในการดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดตามที่เจ้าอาวาสมอบหมาย ซึ่งคณะกรรมการวัดที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านโคกแดง โดยให้กรรมการและไวยาวัจกรร่วมกันทำการตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ทุกอย่างของวัด ตู้รับบริจาคเงินต่าง ๆ นำมาจัดทำเป็นบัญชีให้เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการวัดป่าพลาญเพชร เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505  และแก้ไขเพิ่มเติมรวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  การที่พระครูวัชรชยาภินันท์ หรือหลวงพ่อเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร   ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ผ่านมานั้น นับว่าเป็นการปิดตำนานพระพ่นไฟรักษาโรคแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย เนื่องจากว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยสอนพระสงฆ์ให้ใช้วิธีการแบบนี้ในพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด////////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษ|แถลงผลการจับกุมยาบ้า 230,923 เม็ด ยาไอซ์ 8.72 กรัม ผู้ต้องหา 427 คน ยึดทรัพย์นักค้ายาบ้าไว้ตรวจสอบ 5 ราย

แถลงผลการจับกุมยาบ้า 230,923  เม็ด ยาไอซ์  8.72 กรัมผู้ต้องหา 427 คน ยึดทรัพย์สินนักค้าไว้ตรวจสอบ  5 ราย รวมมูลค่าประมาณ  2,878,000  บาท
เมื่อเวลา  16.00 น.วันที่ 25 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ  อ.เมือง                                     จ.ศรีสะเกษ  จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ  พร้อมด้วย                              พ.ต.อ.ศุภชัย  ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ                            พ.อ.ภคพล  มีทิพย์ ผบ.ฉก.ทพ.23  และคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าว ผลจากการที่ได้อำนวยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญภายใต้ ยุทธการ"พิฆาตทรชน  คนค้ายาอีสานใต้  ภ. 3" และ "238  พิทักษ์นครลำดวน" ระหว่างวันที่  23 – 24  พ.ย.65  โดยชุดปฏิบัติการ  238  พิทักษ์นครลำดวน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง  เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ ทหาร  เจ้าหน้าที่ ปปส.ร่วมกันจับกุม เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ  1  เครือข่าย  ผู้ต้องหา 4  คน ของกลางยาบ้า รวม  194,100  เม็ด ปืนพกสั้น  3  กระบอก วัตถุระเบิด  1  ลูก  ยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ รถยนต์เก๋ง 3  คัน รวมมูลค่าประมาณ  1,700,000  บาท 
นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่  23  พ.ย. 65  เวลา  02.30 น. เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายเต่า นามสมมุติ ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.121/65   นายบัง นามสมมุติ ตามหมายจับศาล จ.สุรินทร์ ที่ จ.119/65  หมายจับ ในความผิดร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ  ประเภท  1  (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง มีลักษณะกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายสู่ประชาชน  พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า  100  เม็ด  อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ star ขนาด  9  มม. จำนวน  1  กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด  9  มม. จำนวน  30  นัด  อาวุธปืนพกสั้น (ดัดแปลงจากปืน BB gun ใช้กระสุนขนาด .380  acp พร้อมเครื่องกระสุนปีน .38  จำนวน 5 นัด  ระเบิดมือ  1  ลูก  5. รถยนต์เก๋งยี่ห้อ vios สีบรอนซ์ 1  คัน  เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ                              
นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ต่อมาวันที่  24  พ.ย. 65  เวลา 03.00 น. จากการสอบสวนขยายผล ทราบว่า นายเต่า นามสมมุติ เป็นผู้ลำเลียงยาบ้า จาก สปป.ลาว  รายสำคัญ มีหมายจับหลายคดียาเสพติดหลาย สภ. ได้สมัครใจให้ความช่วยเหลือเจ้าพนักงานทำการติดต่อซื้อยาบ้าจากผู้ค้าชาว สปป.ลาว ได้สมัครใจสั่งซื้อยาบ้าจากผู้ค้า ชาว สปป.ลาว โดยได้วางแผนให้นักบิน  (ผู้ลำเลียงยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้า) เจ้าหน้าที่ชุด  238  ได้ตรวจสอบรถต้องสงสัย ติดตาม จนทราบว่า  นักบิน ได้ขับรถเข้ามาบ้านบกขี้ยาง ม.4  ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง คือ นายกิตติศักดิ์ หรือไข่ ผิวนวล อายุ  27  ปี ที่อยู่  89  ม.4  ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  น.ส.สุพรทิพย์ สืบวงศ์ อายุ  25  ปี ที่อยู่  83  ม.9  ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  ของกลางยาบ้า  รวม  194,000  เม็ด  อาวุธปืนพกสั้น (ปืน  bb gun ตัดแปลง ใช้กระสุนขนาด  9  มม จำนวน 5 นัด)  รถยต์เก๋ง  ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว  เหตุเกิดที่ทิศตะวันตกบ้านบกขี้ยาง ม.4  ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า การที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาเสพติดและจับกุมผู้ต้องหาได้นั้น เนื่องจากว่า ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้สามารถจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก  ตนขอฝากถึงประชาชนชาวศรีสะเกษที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดว่า หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้จะต้องถูกยึดทรัพย์ทั้งหมดมาไว้ทำการตรวจสอบ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิดอย่างเด็ดขาด//////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| องคมนตรีตรวจเยี่ยม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ

องคมนตรีตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ 
เมื่อวันที่ 09.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามการยกระดับคุณภาพการศึกษา การผลิตและการพัฒนาครู และการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย   และรับฟังบรรยายสรุปโครงการพัฒนา Soft Skills ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม
 จากนั้น องคมนตรีได้ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของคณะครุศาสตร์ และพบปะกับผู้แทนนักศึกษาจากองค์การนักศึกษาและสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ โดยมีนายสำรวย  เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับ และนำอธิการบดี พร้อมด้วยคณะอาจารย์ ข้าราชการ มาร่วมประชุมและบรรยายผลการดำเนินงานของ มหาวิทยาลัยให้รับทราบ

ศรีสะเกษ|จัดพิธีวางพวงมาลา และถวายราชสดุดีวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า และพิธีพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน

จัดพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า และพิธีพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
เมื่อเวลา  09.00  น.วันที่  25 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง  จ.ศรีสะเกษ  อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ  นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย  รอง  ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา  และถวายราชสดุดี  เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6  เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ  และแสดงออกถึงความจงรักภักดี  โดยมี  นายสุเทพ  ศรบุญทอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1 เป็นผู้กล่าวรายงาน  และมี นายศรีวรรณ  เกียรติสุรนนท์  นายกสโมสรลูกเสือ  จ.ศรีสะเกษ  พร้อมด้วย  นายรังสฤษธิ์  บุญรอง  รอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1  ดร.สมยศ  พรหมจันทร์ ผู้อำนวยการค่ายลูกเสือ  จ.ศรีสะเกษ  (ห้วยคล้า)  ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ กองลูกเสือ เนตรนารี เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
นายสุเทพ  ศรบุญทอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1  กล่าวว่า  ในวันนี้เป็นวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า  ซึ่งตรงกับวันที่  25  พ.ย.ของทุกปี  คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ  ได้กำหนดให้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของ  “คณะลูกเสือแห่งชาติ”  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต  แห่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ  พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย  ตามประเพณีที่ปฏิบัติ  จะมีลูกเสือ  เนตรนารี  ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ  และแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรม  ด้วยการประกอบพิธีถวายบังคม  และถวายราชสดุดี  เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระองค์ท่าน  สำหรับ  จ.ศรีสะเกษ  กองลูกเสือ  เนตรนารี  โรงเรียนต่าง ๆ  ในสังกัดสำนักงานลูกเสือ  จ.ศรีสะเกษ  ได้ร่วมกันประกอบพิธีถวายบังคม  และถวายราชสดุดีในนามคณะลูกเสือ  จ.ศรีสะเกษ  
นายนพ  พงศ์ผลาดินัย  รอง  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ในวันนี้ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ที่ประชาชนชาวไทยถวายพระนามพระองค์ว่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า  ในสมัยที่พระองค์ทรงอยู่ในราชสมบัติ  พระองค์ได้ทำนุบำรุงประเทศ และเหล่าอาณาประชาราษฎร์ให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการศึกษา  สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล  เป็นนักรบที่มีจิตวิญญาณ  เลือดรักชาติอย่างแรงกล้า  ใช้กิจกรรมลูกเสือปลูกฝังให้เยาวชนมีอุดมการณ์รักชาติ  รักแผ่นดิน  ดังคำขวัญที่ทรงพระราชทานไว้ว่า  "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"  สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า  ได้ทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทย  ในวันที่ 1 ก.ค.2454  จนถึงปัจจุบัน  กิจการลูกเสือไทยได้ดำเนินมาถึง  112  ปีแล้ว

ต่อมา ในเวลา  10.30  น.วันเดียวกันนี้  ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย  รอง  ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน ตามพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.2551 ให้แก่บุคลากรทางการลูกเสือของสำนักงานลูกเสือ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 27 ราย โดยมี นายสุเทพ  ศรบุญทอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1 เป็นผู้กล่าวรายงาน

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ
 




วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษ| รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก

รักษาราชการแทนผู้ว่าขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง  
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน  2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก  บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง  เกษตรอินทรีย๊วิถีศรีสะเกษ  โดยมีนางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  ดร.วุฒิเดช  ทองพูล  ประธานเครือข่ายโคกหนองนา จังหวัดศรีสะเกษ  นายวิชัย  ศรีโพธิ์งาม  เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ  นางสาวจารุวรรณ คล่องตา  ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นายกมล  ชัยกันทะ ท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ  นำข้าราชการสำนักงานพัฒนาชถมชนจังหวัดศรีสะเกษ ชาวโคกหนองนาจังหวัดศรีสะเกษ และข้าราชการสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมกิจกรรมขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง  ทำการปลูกผักสวนครัวบริเวณหลังบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะกษ  
ทั้งนี้เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก  ประจำปี 2566  และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหันมาปลูกผักสวนครัวกินเอง เพื่อเป็นการลดรายจ่ายภายในครอบครัวและมีความปลอดภัยแบบเกษตรอินทรีย์วิถึศรีสะเกษด้วย
นายสำรวย  เกษกุล รองผวจ.รักษาราชการแทนผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า โครงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลก  บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง  เกษตรอินทรียห์วิถีศรีสะเกษ  เป็นโครงการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2565  ซึ่งในปีนี้ จ.ศรีสะเกษได้สนับสนุนให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหันมาปลูกผักสวนครัวกินเองเพื่อลดรายจ่ายภายในครอบครัวและมีความปลอดภัย  โดยปลูกไว้หลังบ้าน และริมรั้วแบบเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษ  ในพื้นที่เพียงเล็กน้อย  ให้เพียงพอกิน  เมื่อเหลือกินก็สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้านด้วย  และเป็นสร้างความสามัคคีในหมู่คณะเพื่อนบ้านแบบวิถีศรีสะเกษ
ด้าน ดร.วุฒิเดช  ทองพูล  ประธานเครือข่ายโคกหนองนา จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า  เครือข่ายโคกหนองนา จังหวัดศรีสะเกษมีทั้งสิ้นจำนวน 22 อำเภอ จำนวน 1,726 แปลง โดยเน้นหนักการปลูกพืชผักในรูปแบบโคกหนองนา แบบเกษตรอินทรีย์ตามหลักของศาสตร์พระราชาของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อด้วยรัชกาลที่ 10  คือส่งเสริมให้พี่น้องชาวศรีสะเกษ  ปลูกทุกอย่างที่กินและกินทุกอย่างที่ปลูก  เพื่อให้ชาวศรีสะเกษมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง  เพื่อความมั่งคั่งยั่งยทนเป็นเกษตรอินทรีย์วิถีศรีสะเกษสู่ครัวโลกต่อไป/

ภาพ  /  ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
  

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...