ศรีสะเกษ| สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ขั้นต่ำกว่าสายสะพายและเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 -2564

สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563-2564

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2565 ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 นายสุเทพ ศรบุญทอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 - 2564 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี นายชาณุวัติ  ศรเพชร รอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งมี  น.ส.รุ่งอรุณ  เมธาภัทรกุล  พร้อมด้วย  น.ส.ธรรศญา หล่าอุดม  รอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต  1 นางปุณิกา  ธรรมนูญ  รอง  ผอ.สพป.ลำพูน เขต  2 ช่วยปฏิบัติราชการ สพป.ศรีสะเกษ เขต  1  ผู้อำนวยการกลุ่ม ผู้บริหารสถานศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

นายสุเทพ  ศรบุญทอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1 กล่าวว่า ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 – 2564  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2564 โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในสถานที่ที่เหมาะสม นั้น 

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวต่อไปว่า  สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงได้กำหนดจัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2563 - 2564 โดยมีข้าราชการในสังกัดได้รับพระราชทาน ดังนี้ ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก จำนวน 72 ราย ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย จำนวน 17 ราย ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก จำนวน 2 ราย ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จำนวน 15 ราย ชั้นเบญจมาภรณ์ช้างเผือก จำนวน 1 ราย เหรียญจักรพรรดิมาลา จำนวน 160 ราย รวมทั้งสิ้น จำนวน 267 ราย

ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

 

ศรีสะเกษ| ม.เฉลิมกาญจนา ทอดกฐินตกค้าง 47 วัด เงินร่วม 100 ต้น ถวายพระสงฆ์และวัด 3,000,000 บาท พร้อมพระบูชานาคปรก

 ม.เฉลิมกาญจนาทอดกฐินตกค้าง  47 วัดต้นเงินร่วม 100 ต้น ถวายพระสงฆ์และวัด 3,000,000 บาท  พร้อมทั้งถวายพระพุทธรูปนาคปรกแด่เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวรารามสร้างจากหินใต้แม่น้ำโขงอายุกว่า 1,000 ปี

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน อดีต รมว.ศึกษาธิการและที่ปรึกษากรรมการสภามหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา  ได้เดินทางไปเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทอดกฐินตกค้าง จำนวน  47 วัด ซึ่ง ดร.สุชีราภรณ์       ธุวานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา และดร.พอพันธุ์ สนเจริญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะอาจารย์ นักศึกษา ได้ร่วมกันจัดพิธีทอดกฐินตกค้างในปีนี้ขึ้น โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูศรีมงคลปริยัติกิจ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าอาวาสวัดบ้านเพียนาม รักษาการเจ้าอาวาสวัดเจียง ศรีมงคลวราราม นำคณะสงฆ์ จำนวน  47 วัด พระสงฆ์จำนวนประมาณ 300 รูป ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษที่ไม่มีผู้ใดจองกฐินมารับถวายต้นเงินกฐิน โดยมีการนำเอาผ้าไตรกฐินที่ได้รับมาจาก พระพรหมวชิรคุณ หรือหลวงปู่ ดร.ไพบูลย์ สุมังคโล เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิตสุดเขตสยาม ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มาตั้งในกองกฐินเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นมีการประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่พระภิกษุสงฆ์  

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากนั้น ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน อดีต รมว.ศึกษาธิการและที่ปรึกษากรรมการสภามหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา พร้อมด้วย ดร.สุชีราภรณ์ ธุวานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา และดร.พอพันธุ์ สนเจริญ กรรมการสภามหาวิทยาลัย ได้นำคณะประกอบพิธีทอดกฐิน และประกอบพิธีถวายพระพุทธรูปนาคปรกซึ่งสร้างจากหินใต้แม่น้ำโขงอายุกว่า 1,000 ปี ถวายแด่  พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ รักษาการเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต่อมา ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน      ดร.สุชีราภรณ์  ธุวานนท์ และดร.พอพันธ์  สนเจริญ ได้นำคณะถวายผ้าไตรกฐิน จำนวน 47 ผืน พร้อมด้วยต้นเงินกฐิน จำนวน 94 ต้น ถวายแด่เจ้าอาวาสวัดทั้ง 47 วัด เพื่อจะได้นำเอาเงินไปใช้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองถึง 5,000 ปีต่อไป

ดร.สุชีราภรณ์ ธุวานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา  กล่าวว่า  ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาคณะอาจารย์ และนักศึกษา รวมทั้งผู้ปกครองนักศึกษาทุกคน ได้ร่วมใจกันทำบุญทอดกฐินในครั้งนี้ขึ้น  โดยเป็นกฐินตกค้างเนื่องจากว่า เป็นวัดที่ไม่มีผู้ใดมาจองทอดกฐินในปีนี้ จำนวน 47 วัด โดยได้ทำต้นเงินกฐินอย่างสวยงามทอดถวาย 47 วัด ๆ ละ 30,000  บาท พร้อมทั้งปัจจัยถวายพระสงฆ์ทุกรูป จำนวน 300 รูป เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,000,000 บาท ซึ่งในการทอดกฐินปีนี้ ได้รับความเมตตาจาก                                         พระพรหมวชิรคุณ หรือหลวงปู่ ดร.ไพบูลย์ สุมังคโล เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิตสุดเขตสยาม ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ท่านมีปฏิปทาเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านในเขต จ.พะเยาและจังหวัดใกล้เคียง ท่านเป็นพระกัมมัฏฐานมีความเคร่งครัดต่อการฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ได้เมตตามอบผ้าไตรกฐินจำนวน 3 ผืนมาตั้งในกองกฐินด้วย ถือว่าเป็นสิริมงคลอันสูงยิ่ง  ตนจึงขอเชิญประชาชนชาวศรีสะเกษทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญในการทอดกฐินครั้งนี้ร่วมกันด้วย ////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ|หลวงพ่อพุฒ นำถุงยังชีพไปช่วยเหลือชาวบ้านโนนทราย ที่ถูกน้ำท่วมนานกว่า 1 เดือน

 หลวงพ่อพุฒนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือชาวบ้านโนนทรายถูกน้้ำท่วมนานกว่า1 เดือนแล้ว ไร่นาบ้านเรือนจมใต้น้ำเสียหายจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอ ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เปิดเผยว่า อาตมาภาพพร้อมด้วย นายสมยศ  พันธ์  รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา นายบุญมี  เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา คณะครูวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวง และคณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้เดินทางไปที่บริเวณจุดอพยพ ต.ธาตุ ตั้งอยู่ตรงข้าม อบต.ธาตุ ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์  ซึ่งเป็นที่พักพิงชั่วคราวของชาวบ้านโนนทราย หมู่ 6 ต.ดอนแรต                   อ.รัตนบุรี ที่พากันอพยพหนีภัยน้ำท่วมนำครอบครัวและสัตว์เลี้ยงวัวควายมาพักอาศัยอยู่ จำนวน  46 ครัวเรือน  โดยได้นำเอาถุงยังชีพ จำนวน 50 ถุง ประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พร้อมด้วยปฏิทินหลวงปู่สรวง ไปมอบให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์แห่งนี้  เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยมี  นายสมหวัง สันวัง นายก อบต.ธาตุ พร้อมด้วย นางกิตติยา ธัญกิตติชัย กำนัน ต.ธาตุ ผู้นำชุมชน และชาวบ้านโนนทรายมาร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอ  ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เปิดเผยต่อไปว่า  มูลนิธิหลวงปู่สรวง จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งคือเพื่อให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ดังนั้น อาตมาภาพพร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวง จึงได้นำเอาถุงยังชีพไปมอบให้แก่ชาวบ้านโนนทราย หมู่ 6 ที่ประสบภัยน้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาจมอยู่ใต้น้ำนานกว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติครั้งนี้/

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| ผอ.โครงการชลประทาน เผย 2 เขื่อนใหญ่ อัตราการลดลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผอ.โครงการชลประทานเผย 2 เขื่อนใหญ่อัตราการลดลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งคาดว่าระดับน้ำท่วมจะลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ว ๆ  นี้  

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ  นายจำรัส  สวนจันทร์  ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ  และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง  ได้เดินทางมาตรวจสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนราศีไศล ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ของ จ.ศรีสะเกษ จากนั้น ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำที่เขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  และบริเวณลุ่มน้ำต่างๆในจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานี  ได้แก่  M5  M182  M7 (ในลุ่มน้ำมูล)  M9  M176  M42(ลุ่มน้ำห้วยสำราญ  ลุ่มน้ำห้วยขะยูง  และลุ่มน้ำห้วยทับทัน)

นายจำรัส  สวนจันทร์  ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ  และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง กล่าวว่า จากการที่ตนได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนาดังกล่าว พบว่าเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่งซึ่งมีจำนวนช่องบานจำนวน 7 และ 14 ช่องบานตามลำดับ มีการยกบานระบายทุกช่องบาน การระบายน้ำปกติ  ระดับน้ำในลุ่มน้ำมูลมีอัตราการลดลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่วนในลุ่มน้ำต่างๆ  ในจังหวัดศรีสะเกษ  ทุกสถานีตรวจวัด(M) มีระดับลดลงในอัตราที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน  แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่  ซึ่งคาดว่าระดับน้ำท่วมจะลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติในเร็วๆ  นี้////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| สาธารณสุขจังหวัด จัดยิ่งใหญ่งานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติปี 2565

สาธารณสุขจังหวัดจัดยิ่งใหญ่งานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ปี 2565เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารโดม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ  ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดงานนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมดังนี้  พิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พิธีสดุดีเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย พิธีมอบโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติแก่บุคลากรการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทยดีเด่น พิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ระดับจังหวัด ปีพุทธศักราช 2565  มีการออกร้านนิทรรศการเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยจำนวนมาก โดยมี นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงานและนำคณะ หน.ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากทั้ง 22 อำเภอมาเข้าร่วมพิธีและให้การต้อนรับ

นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ปวงชนชาวไทยนานัปการ พระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งคือการรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยมาเผยแพร่ในวงกว้าง   ทำให้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเป็นรากฐานของชาติไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558  เห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย"แด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และกำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี เป็น"วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย"ในปี พ.ศ.2565  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดจัดงาน"วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ" ในวันที่ 28 ต.ค.2565 ขึ้น ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก อบจ.ศรีสะเกษ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ คณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพสาขาการแพทย์แผนไทยและ

การแพทย์ผสมผสานจังหวัดศรีสะเกษ เครือข่ายแพทย์แผนไทยจังหวัดศรีสะเกษ เครือข่าย

หมอพื้นบ้านจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ และส่วนราชการระดับจังหวัด  โดยคาดหวังว่าการแพทย์แผนไทยจะได้รับการยอมรับจากประชาชน และเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง ในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนต่อไป

 

นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม แก่ปวงชนชาวไทยนานัปการ พระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งประการหนึ่ง คือการรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย มาเผยแพร่ในวงกว้างและมีความเจริญรุ่งเรืองเกิดคุณูปการแก่ประชาชน เห็นควรได้รับยกย่องเป็น"พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย"และในวันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งที่ชาวแพทย์แผนไทย จะได้ร่วมสดุดีในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อการแพทย์แผนไทยและปวงชนชาวไทย และร่วมขยายผลการพัฒนาการดำเนินงานแพทย์แผนไทยให้มีความเจริญรุ่งเรื่อง สืบทอดปณิธานของพระองค์ต่อไป ตนขอแสดงความยินดีกับบุคคลที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ บุคคลต้นแบบดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ตลอดจนพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติ ด้านการแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ระดับจังหวัด ขอให้ธำรงไว้ซึ่งคุณงามความดีให้คงไว้ตลอดไป//

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ|ครูสาวใหญ่พ่ายชีวิต ใช้เตาอั้งโล่รมควันฆ่าตัวตายในรถปิคอัพ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ครูสาวใหญ่พ่ายชีวิตใช้เตาอั้งโล่รมควันฆ่าตัวตายในรถปิคอัพ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

เมื่อเวลา 19.15 น.วันที่ 27 ต.ค.65 ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า เกิดเหตุผู้เสียชีวิตภายในรถปิคอัพที่บริเวณลานจอดรถสวนสาธารณะเกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐกิติ์  เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.สุรพงศ์ วรพิมพ์รัตน์ รอง ผกก.ป สภ.เมืองศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา แบบแค็บ หมายเลขทะเบียน บล 9075 ศรีสะเกษ ภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับพบร่างของหญิงคนหนึ่งสวมชุดแซกสีม่วง มีผ้าห่มคลุมอยู่บริเวณหน้าอก ส่วนบริเวณที่นั่งด้านข้างคนขับพบเตาอั้งโล่มีรอยเถ้าถ่านถูกเผาไหม้ ใต้เตาถ่านมีการนำเอาก้อนอิฐบล็อกรองพื้นเตาเอาไว้ บนเบาะที่นั่งข้างคนขับพบกระเป๋าถือสีชมพูวางอยู่ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเปิดประตูรถได้ เนื่องจากประตูล็อคทั้ง 2 ด้าน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าผู้หญิงที่อยู่ในรถเสียชีวิตแล้ว 

ต่อมา ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตติดตามสัญญาณ GPS มายังที่เกิดเหตุ และได้ใช้ของแข็งทุบช่องกระจกแค็บด้านหลังคนขับ ทำให้สามารถเปิดล็อคประตูออกมาได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานจึงได้นำร่างของหญิงที่เสียชีวิตออกมาจากรถ เพื่อให้แพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ ทำการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งแพทย์ รพ.ศรีสะเกษ แจ้งว่า หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 – 6 ชม.ภายในรถไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตจากการสูดควันเถ้าถ่านเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตาย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หญิงผู้เสียชีวิตชื่อ นางจิราวดี วัฒนอมรเกียรติ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 9 ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ อาชีพรับราชการครู อยู่ที่ ร.ร.ประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งจากการสอบถามญาติ แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับรถออกมาจากบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ ญาติพี่น้องเห็นว่าหายไปนานผิดปกติ จึงได้ตามสัญญาณ GPS ที่ติดไว้กับรถ และได้มาพบว่านางจิราวดี รมควันฆ่าตัวตายภายในรถปิคอัพแล้ว ซึ่ง ร.ต.อ.เจมรัก โสสอน จะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป/

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| น้ำท่วมกันทรรมย์ ยังวิกฤตรักษาการนายอำเภอขอบถุงยังชีพนั่งเรือผ่านสายน้ำเชี่ยวช่วยเหลือชาวบ้าน

น้ำท่วมกันทรารมย์ยังวิกฤติรักษาการนายอำเภอหอบถุงยังชีพนั่งเรือฝ่าสายน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมล้อมรอบหมู่บ้านกลายเป็นเกาะ

เมื่อวันที่  27  ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองโอง  หมู่ที่ 5  ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์  จ.ศรีสะเกษ นายบุญชอบ พวงจำปา ปลัดอาวุโส รักษาการแทน นายอำเภอกันทรารมย์ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง สมาชิก อส. ได้ขนย้ายสิ่งของถุงยังชีพ /น้ำดื่ม จำนวน 130 ชุด/แพ็ค  และยารักษาโรค ที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม  โดยการนำเอาสิ่งของบรรทุกบนเรือท้องแบนและเรือหางยาว  แล่นเรือฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเพื่อเดินทางเข้าไปที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้านกลายเป็นเกาะมานานกว่า 1 เดือนเศษแล้ว   ภายในบริเวณหมู่บ้านมีบ้านเรือนของชาวบ้านจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องพากันขนข้าวของที่มีค่าขึ้นไปอาศัยอยู่ชั้นบนของบ้าน เมื่อนายบุญชอบและคณะเข้ามาถึงบริเวณหมู่บ้านแล้ว ชาวบ้านหนองโองได้นำเอารถเข็น 2 ล้อ มารับถุงยังชีพและสิ่งของต่าง ๆ เพื่อนำเอาไปเป็นอาหารประทังชีวิต และต้องเข็นรถเข็น 2 ล้อฝ่าสายน้ำเพื่อนำสิ่งของเข้าไปบ้านของตนเองอย่างทะลักทุเลมาก

นายบุญชอบ พวงจำปา ปลัดอาวุโส รักษาการแทน นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า น้ำท่วมในเขต  อ.กันทรารมย์ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ  แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ว่ายังมีหลายหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้านกลายเป็นเกาะ  ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก ในวันนี้ตนพร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ของ อ.กันทรารมย์ ได้นำเอาสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับบริจาคมาจากประชาชนผู้ใจบุญจากทั่วประเทศ  ที่ได้นำเอามาบริจาค เพื่อจะได้นำเอาไปให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม  ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ  แต่ว่าไร่นาของชาวบ้านถูกน้ำท่วมต้นข้าวเน่าตายหมด ตนจึงขอเชิญชวนไปยังประชาชนชาวไทยทั่วประเทศโดยกรุณาบริจาคสิ่งของเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้าน อ.กันทรารมย์ที่ถูกน้ำท่วมด้วย โดยติดต่อบริจาคได้ที่ ที่ว่าการ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะเดียวกันที่หมู่บ้านศิริทรัพย์ทวีโชค อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งอยู่ติดกับลำห้วยสำราญ ได้ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 3 สัปดาห์   ขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว  ชาวบ้านได้พากันมาเข้ามาดูแลและทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเอง  บรรดาเจ้าของบ้านทุกคนแทบน้ำตาไหลที่พบเห็นบ้านเรือนของตนหลังน้ำท่วมลดลง ซึ่งบ้านทุกหลังพบว่า ข้าวของภายในบ้านจำนวนพวกโต๊ะ ตู้เตียง เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมเสียหายหมด  นายฉัฐมงคล  อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เข้าไปช่วยดูแลชาวบ้านทั้งการขนย้ายสิ่งของและทำความสะอาดบ้านเรือนชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังเน่าเหม็น โดยทยอยเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านทุกหลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วมจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป//

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ| ดร.กัลยาณี คว้ารางวัลผู้แต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองสวยงาม

 ดร.กัลยาณีคว้ารางวัลผู้แต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองสวยงาม 

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เกาะห้วยน้ำคำ ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ 

นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นประธานในกิจกรรม "ศรีสะเกษพร้อมใจ นุ่งผ้าไทยใส่บาตร ทำความดี วิถีพอเพียง" ตามโครงการรณรงค์แต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในทุกวันอังคารของสัปดาห์ โดยมีนายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุรศิษฐ์ อินทกรอุดม ปลัดจังหวัด  ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว  หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้แทนนายอำเภอกันทรลักษ์ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนเป็นจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

 นายสำรวย  เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า   การจัดกิจกรรมนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมือง รักษาศิลปวัฒนธรรม จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งใช้วัสดุจากธรรมชาติ ท้องถิ่น ในกิจกรรมได้มีการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารและ OTOP จังหวัดศรีสะเกษ จากกลุ่มผู้ประกอบการประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิตผ้าแส่ว ผ้าทอมือ ผ้าพื้นเมือง อาหารพื้นถิ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น และผลิตภัณฑ์กาแฟโรบัสต้าศรีสะเกษ ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดย ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้จ่ายและการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ เสริมสร้างความเข้มแข็ง และเจริญเติบโตของเศรษฐกิจฐานราก  และร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 9 รูป โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูธรรมธร วรวุฒิ จิตฺตญาโณ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอขุนหาญ - โนนคูณ (ธ) วัดหลวงสุมังคลาราม พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ใน โอกาสนี้  นายสำรวย เกษกุล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบใบประกาศ แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกการแต่งกายด้วยผ้าไทย และผ้าพื้นเมืองสวยงาม การใช้วัสดุทำจากธรรมชาติที่สวยงาม ร่วมทั้งประเภททีม ประจำวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 ดังนี้

   1. ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ผู้ได้รับการคัดเลือกแต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองสวยงาม

    2. นางสมคิด โพธิ์ยาว ผู้ได้รับการคัดเลือกผู้ใช้วัสดุทำจากธรรมชาติที่สวยงาม

    3.สำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ทีมที่ได้รับการคัดเลือกการแต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองสวยงามประเภททีม และในอังคารนี้ มี บรรเลงดนตรีไทยประกอบโดยวงดนตรีไทย การจัดกิจกรรม ตักบาตรทุกวันอังคารนี้ เป็นการกระตุ้นการสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้า OTOP ประเภทต่างๆรวมทั้งผ้าพื้นเมือง “เบญจศรี”อันเป็นอัตลักษณ์ที่มีกรรมวิธีทางธรรมชาติ มียอดจำหน่ายในงาน 103,250 บาท นอกจากจะเป็นการร่วมทำบุญแล้วยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และการสงเคราะห์สิ่งของ  พระคุณเจ้าจะแบ่งมอบให้จังหวัดนำไปสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสตามหมู่บ้านทั้งจังหวัดด้วย

หากท่านใดที่จะร่วมตักบาตรก็สามารถที่จะไปร่วมกิจกรรมนี้ได้//

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

     

ปราจีนบุรี|นายอำเภอบ้านสร้างร่วมกับกระทรวงแรงงาน ออกบริการประชาชนซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทางการเกษตรและยานพาหนะ

ทำได้ ทำก่อน ไม่ต้องรอน้ำแห้ง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมกับอำเภอบ้านสร้าง เดินหน้าให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือทางการเกษตร และยานพาหนะ ให้พี่น้องประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย

 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 เวลา 11.00 น.อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี

"เร่งช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ แบบเชิงรุก หลังน้ำเริ่มลด"ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง ได้เดินทางไปยัง อบต.บางเตย เพื่อร่วมกับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่ให้บริการตรวจเช็ค และซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องมือทางการเกษตร, อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมถึงบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ภายหลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย โดยนำร่องในพื้นที่ตำบลบางเตย ในระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. 2565

 

ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือ แต่ยังช่วยสร้างอาชีพ" นอกจากนี้ ทางสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ยังได้ดำเนินการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ตำบลบางเตย ในการเสริมสร้างทักษะการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ โดยมุ่งเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพวิถีใหม่ ให้แรงงานในพื้นที่ เพื่อสร้างอาชีพ และรายได้ 

 

สร้างแรงใจ และทักษะทางอาชีพ ให้ประชาชนได้สู้ภัยน้ำท่วม” นายอำเภอบ้านสร้างได้กล่าวขอบคุณสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือ และให้บริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะทางอาชีพให้พี่น้องประชาชน ภายหลังจากที่สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้นายอำเภอบ้านสร้างยังได้กล่าวว่าในการทำงานให้บริการประชาชน สิ่งใดที่สามารถทำได้ ช่วยเหลือได้ ต้องรีบทำไม่ต้องรอให้น้ำแห้ง เพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้รับการบรรเทา และหมดไปให้เร็วที่สุด////

//ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี