จ.ศรีสะเกษ| แค้นในครอบครัวหนุ่มบุกยิงพี่สะใภ้ในบ้านต่อหน้าลูก 2 คน

แค้นในครอบครัวหนุ่มบุกยิงพี่สะใภ้ในบ้านต่อหน้าลูก 2 คน หวังปิดบัญชีแค้นกระสุนเข้าที่ศีรษะอาการสาหัส

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 31 ก.ค. 2565  ร.ต.อ.วิระสิทธิ์  อุปฮาด  ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 8 บ้านโนนอีปัง ต.หนองแก้ว อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.โพนเขวา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดกองอยู่ในบ้าน ส่วนผู้ที่ถูกยิงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ศรีสะเกษ ได้รีบนำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนแล้ว 

จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ก. (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ผู้ที่ถูกยิงชื่อ น.ส.รังษี  จรัญกลาง  อายุ  28 ปี  อยู่บ้านเลขที่ที่เกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.รังษี นอนอยู่บนเปลที่ผูกอยู่ในบ้าน โดยมีลูกชายและลูกสาว 2 คนนั่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ กัน  จากนั้น ได้มีคนร้ายเดินเข้ามาในบ้านและใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่ น.ส.รังษี จำนวนประมาณ 3 นัด   ซึ่ง น.ส.รังษี โดนยิง 2 นัดที่บริเวณศีรษะติดกับใบหู 1 นัด และที่บริเวณต้นขาขวา 1 นัด ส่วนมือปืนรายนี้ชื่อ นายสุรชัย  ปักษา อายุ 24 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ 8 ต.หนองแก้ว มีศักดิ์เป็นน้องสามีของ น.ส.รังษี  มีบ้านอยู่ใกล้กันและได้ย้ายไปอยู่ที่นานานแล้ว โดยทั้ง 2 คนมักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำอยู่เสมอ จนถึงกับมีการใช้อาวุธปืนยิงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าญาติไกล่เกลี่ยยอมความกันได้เพราะเห็นว่าเป็นญาติกัน  หลังจากนั้น น.ส.รังษี ก็มีเรื่องทะเลาะกันกับคนร้ายรายนี้มาอีกหลายครั้ง ทำให้คนร้ายเก็บความแค้นเอาไว้ และได้มาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.รังษี ต่อหน้าลูก 2 คน เพื่อหวังปิดบัญชีแค้นในครั้งนี้ ซึ่ง ร.ต.อ.วิระสิทธิ์ อุปฮาด ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป

ทางด้าน นายเพียร  โคสารคูณ อายุ 54 ปี พ่อสามีของ น.ส.รังษี  กล่าวว่า  ตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีการยิงกันในครั้งนี้เกิดอะไร  แต่ว่าญาติพี่น้องกันไม่น่าที่ทำรุนแรงกันมากขนาดนี้เลย คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า สำหรับอาการของ น.ส.รังษี ที่โดนยิงนั้น แพทย์ รพ.ศรีสะเกษได้ทำการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว และพบว่า อาการสาหัสมาก จึงได้ส่งตัว น.ส.รังษี ต่อไปที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว ////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|นักท่องเที่ยวแห่ขอพรลอดใต้โลงแก้วหลวงปู่สรวง ช่วงเดินทางกลับหลังหยุดยาว

นักท่องเที่ยวแห่ขอพรลอดใต้โลงแก้วหลวงปู่สรวงช่วงเดินทางกลับหลังหยุดยาว ขณะที่หลวงพ่อพุฒศิษย์เอกหลวงปู่สรวงขอให้ชาวพุทธยึดเอาคำสอนขององค์พระพุทธเจ้า ไปปฏิบัติให้เกิดมรรคเกิดผล ให้เกิดความดีงามเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว 

 

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2565   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของช่วงวันหยุดยาวช่วงสัปดาห์สุดท้ายของ เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 - 31 ก.ค. 2565   เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ 10  ปรากฏว่าได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันนำญาติพี่น้องลูกหลานมากราบไหว้เพื่อขอพรจากสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ซึ่งแม้ว่าท่านได้ละสังขารไปนานกว่า 22 ปี แต่ว่าสรีระสังขารไม่ได้เน่าเปื่อยแต่อย่างใด  โดยหลังจากการกราบไหว้ขอพรแล้ว นักท่องเที่ยวได้พากันเดินพนมมือลอดใต้โลงแก้วที่บรรจุสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง 3 รอบ เพื่อขอให้ความศักดิ์สิทธิ์บุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวง ได้ช่วยขจัดปัดเป่าเสนียดจัญไรสิ่งที่ไม่ดีงามให้ออกไปจากตนเองและขอให้มีแต่สิ่งดีงามเข้ามาหาตนเองและครอบครัว  โดยมีแม่ชีของวัดไพรพัฒนาคอยนำพุทธศาสนิกชนสวดมนต์บูชาคุณหลวงปู่สรวง จากนั้น ได้พากันไปทำบุญปิดทองลูกนิมิต ปิดทองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่สรวง เพื่อนำไปบูชาที่บ้านของตนเอง ก่อนที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะพากันเดินทางกลับไปภูมิลำเนาของตนเอง หลังจากเทศกาลหยุดยาววันเฉลิมพระชมมพรรษาผ่านพ้นไปแล้ว   

 

พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวงและเป็นพระผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลหยุดยาววันเฉลิมพระชมมพรรษา  อาตมาภาพขอให้นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่ได้มากราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ขอให้บุญฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวง ช่วยให้ชาวพุทธทุกคนเดินทางกลับไปภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย อันตรายทั้งปวงอย่าได้มี และขอให้ยึดเอาคำสอนขององค์พระพุทธเจ้า ไปปฏิบัติให้เกิดมรรคเกิดผล ให้เกิดความดีงามเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยข้อ 1. ไม่ทำบาป 2.ทำแต่ความดี และข้อ 3. ทำจิตใจของตนเองให้บริสุทธิ์แจ่มใส หากว่าชาวพุทธทำเพียง 3 สิ่งนี้ ซึ่งเป็นหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะทำให้ชีวิตของเราเจริญรุ่งเรืองผาสุก  ทำมาค้าขึ้นตลอดไปขอเจริญพร //////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ศรีสะเกษ| ดร.กัลยาณี นายกท่องเที่ยวหวั่นโรคฝีดาษลิงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าใกล้ลิงที่ผามออีแดง

 ดร.กัลยาณี นายกท่องเที่ยวหวั่นโรคฝีดาษลิงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าใกล้ลิงที่ผามออีแดง  ขอให้ช่วยกันป้องกันการติดเชื้อโดยหมั่นล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย จะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ได้ทั้งโรคโควิด-19 และโรคฝีดาษลิง 

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย                       อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ ได้เดินทางไปดูบรรยากาศการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหารของกัมพูชา พบว่า มีนักท่องเที่ยวทยอยพากันมาชมความสวยงามตามธรรมชาติของผามออีแดง และชมพระอาทิตย์ขึ้น 3 แผ่นดิน ลาว กัมพูชาและไทย โดยพบว่า บริเวณผามออีแดงมีลิงจากเขตเขมรต่ำหรือเขตกัมพูชาไต่ต้นไม้บริเวณผามออีแดงขึ้นมาบริเวณหน้าผาเพื่อรับแสงแดดและรอรับอาหารจากนักท่องเที่ยวหลายตัวด้วยกัน  ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดจากลิงเหล่านั้นได้  เนื่องจากว่า อาจะโดนลิงแย่งอาหารและสิ่งของจากนักท่องเที่ยว รวมทั้งอาจจะโดนลิงกัดได้อีกด้วย

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  กล่าวว่า จากกรณีที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงการตรวจพบ ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (ฝีดาษวานร) รายที่ 2 ของประเทศไทยในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นชายไทยอายุ 47 ปี ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ มีอาการไม่รุนแรงและอยู่ในการดูแลของแพทย์ในห้องแยกเพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เนื่องจากผู้ป่วยให้ข้อมูลว่ามีครอบครัวอยู่รวมกันถึง 10 คนนั้น  ตนมีความห่วงใยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมบริเวณผามออีแดงที่มีลิงอยู่จำนวนมากเพราะว่าโรคฝีดาษวานรมีการแพร่เชื้อมาจากลิง  ซึ่งช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมปีนี้ มีวันหยุดมาก ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ 10-20%  และนิยมไปเที่ยวที่ผามออีแดง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว UNSEEN ที่มีจุดชมวิวสวยงาม เพราะวันไหนที่มีฝนจะทำให้เห็นทะเลหมอกเป็นแผงสวยงามมาก   

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า แต่บริเวณนี้บางครั้งจะมีลิงวิ่งไต่มาตามหน้าผา  อยากจะขอร้องนักท่องเที่ยวว่า หากเจอลิงก็อย่าให้อาหารลิงเด็ดขาด   เพราะลิงที่นี่เริ่มไม่กลัวนักท่องเที่ยว  บางครั้งยังเคยแย่งกระเป๋านักท่องเที่ยวแล้ววิ่งลงหน้าผาไป  จึงขอเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าใกล้ลิง อย่าไปสัมผัส   อีกทั้งมีข่าวโรคฝีดาษลิงกำลังระบาด  ซึ่งโรคนี้พบครั้งแรกในลิง  เราก็อย่าไปสัมผัสจะดีที่สุด  และเรายังสามารถป้องกันการติดเชื้อโดยหมั่นล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย จะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ได้ทั้งโรคโควิด-19 และโรคฝีดาษลิงอีกด้วย////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ| ตำรวจเศร้ามะเร็งกระดูก พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย

ตำรวจเศร้ามะเร็งกระดูกคร่าชีวิตผู้การฯสันติ เหล่าประทาย ญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ไทรงาม  บ้านมะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 65  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า  ตนได้รับแจ้งจาก ด.ต.ทวี ฯ คนขับรถ พล.ต.ต.สันติ    เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษว่า  พล.ต.ต.สันติ ได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 29 ก.ค.65 ที่บ้านพักส่วนตัวบ้านมะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา  โดยท่าน พล.ต.ต.สันติ  ได้มีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูกมานานหลายเดือนแล้ว และได้เข้ารับการรักษาพยาบาลจากแพทย์เฉพาะทางมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้ารักษาอาการเจ็บป่วยที่ รพ.รทส.จ.นครราชสีมา และได้เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 60 ปี ซึ่ง พล.ต.ต.สันติ อีก 2 เดือนจะครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 65 ที่จะถึงนี้  ซึ่งการสูญเสีย พล.ต.ต.สันติ  เหล่าประทาย ได้ทำให้ข้าราชการตำรวจทุกนายสังกัด ภ.จว.ศรีสะเกษมีความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก  เนื่องจากว่านับตั้งแต่พล.ต.ต.สันติ มาดำรงตำแหน่งที่ ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เป็นผู้บังคับบัญชาที่ใช้พระคุณมากกว่าพระเดช ให้ความรักความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนเป็นอย่างดียิ่งมาโดยตลอด ซึ่งจากการประสานงานกับญาติของ พล.ต.ต.สันติ ทราบว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ไทรงาม หมู่ 1 บ้านมะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

ทางด้าน นายวัฒนา  พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ซึ่งติดราชการอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้มอบหมายให้นายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ลงนามในหนังสือศาลากลาง จ.ศรีสะเกษด่วนที่สุด ที่ ศก 0017.3/ ว4186 ลว. 29 ก.ค.65 เรื่อง  พล.ต.ต.สันติ  เหล่าประทาย อดีต ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ถึงแก่อนิจกรรม  โดยแจ้งเวียนไปถึง รอง ผวจ.ศก. หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วน นายอำเภอทุกอำเภอ นายก อปท.ทุกแห่ง แจ้งกำหนดการตั้งศพบำเพ็ญกุศล พล.ต.ต.สันติ ที่วัดโพธิ์ไทรงาม หมู่ 1 บ้านมะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยในวันศุกร์ที่ 29 ก.ค.65 เวลา 17.00 น.รดน้ำศพ  เวลา 19.00 น.สวดพระอภิธรรมศพ วันเสาร์ที่ 30 ก.ค. – วันพุธที่ 3 ส.ค.65 เวลา 19.00 น.สวดพระอภิธรรมศพทุกคืน  วันพฤหัสที่ 4 ส.ค. 65 เวลา 16.00 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ กำหนดร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพในวันเสาร์ที่ 30 ก.ค. 65 เวลา 19.00 น.    ณ วัดโพธิ์ไทรงาม จึงขอเชิญทุกภาคส่วนเข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรมและร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 

 

จ.ศรีสะเกษ| ผอ.รพ.ศรีสะเกษ ห่วงใยผู้ป่วยโรคกระดูก จัดประชุมวิชาการให้ผู้ป่วยโรคกระดูกดูแลตนเองโดยถูกวิธี

ผอ.รพ.ศรีสะเกษ  ห่วงใยผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อจัดประชุมวิชาการเพื่อให้กลุ่มประชาชนมีความรู้เพื่อป้องกันดูแลตนเองได้ถูกต้อง และบุคลากรด้านสาธารณสุข ได้รับการพัฒนาด้านความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ป่วยให้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า รพ.ศรีสะเกษ ร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญในการสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุนและโรคข้อเสื่อม หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค โดยผู้ป่วยที่มีกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนพบว่ามีคุณภาพชีวิตที่ลดลง และมีอายุสั้นกว่าผู้สูงอายุที่อายุเท่ากัน และจากข้อมูลภาวะแทรกซ้อนภายหลังกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุน พบว่าร้อยละ 14.7 ของผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูกพรุนเสียชีวิตภายใน 6 เดือน และพบว่าภายหลังรักษา 6 เดือน ประมาณครึ่งหนึ่งสามารถเดินได้เอง นอกนั้นต้องใช้เครื่องช่วยเดินหรือนอนติดเตียง ส่วนโรคข้อเสื่อม เป็นภาวะที่พบได้บ่อย พบมากในข้อใหญ่ๆ และข้อที่รองรับน้ำหนัก ส่วนมากมักเกิดในข้อเข่า เกิดจากการที่ข้อต่อต้องเคลื่อนไหวและรับน้ำหนักต่อเนื่องสะสมเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวข้อ มีอาการข้ออักเสบ บวม แดง ร้อน เจ็บข้อ และเคลื่อนไหวติดขัด ตามระดับความรุนแรงของโรค แต่ปัจจุบันพบโรคข้อเข่าเสื่อมในคนที่อายุน้อยลง ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยได้ 

นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า ตนมีความห่วงใยประชาชนที่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนและโรคข้อเสื่อมหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคเป็นอย่างมาก ดังนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ รพ.ศรีสะเกษจึงได้ร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ได้จัดการอบรมวิชาการ“โครงการพ้อกันวันกระดูกและข้อโรงพยาบาลศรีสะเกษ ปี 2565” ขึ้นที่ห้องประชุมปีบทอง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ ศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ โดยได้รับเกียรติจาก นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม โดยคณะวิทยากรนำโดย พล.ต.ศ.นพ.ทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาล ศรีสะเกษ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล รวมทั้งภาคประชาชน รวมทั้งสิ้น 200 คน ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มประชาชนมีความรู้เพื่อป้องกันดูแลตนเองได้ถูกต้อง และบุคลากรด้านสาธารณสุข ได้รับการพัฒนาด้านความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ป่วยให้มากที่สุด ส่งเสริมให้เกิดมาตรฐานทางด้านการรักษาพยาบาล และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเกิดโรคตลอดจนวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคแก่ประชาชนทั่วไป อันจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของภารกิจหลักที่จะสร้างองค์กรเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิขั้นสูงที่ได้มาตรฐาน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน สมดังวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลที่ได้ตั้งไว้ 

   

นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมโรงพยาบาลศรีสะเกษที่ได้ร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยได้มีความตั้งใจที่จะพัฒนาการบริการให้ได้มาตรฐาน มีความทันสมัย และเท่าทันเทคโนโลยีที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สัดส่วนของประชากรเด็ก ประชากรวัยทำงาน และผู้สูงอายุ มีการเปลี่ยนแปลง ในปี พ.ศ. 2564 สัดส่วนของประชากรวัยเด็กจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 18.4 วัยทำงานคิดเป็นร้อยละ 64.12 และวัยชราจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18.24 ของประชากรทั้งหมด โดยภายในเวลา 10 ปี สัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.68 เป็นร้อยละ 18.24 และแนวโน้มนี้จะเพิ่มขึ้นตามลำดับในอนาคตจากอายุที่ยืนขึ้น สิ่งที่ตามมาคือโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมซึ่งเป็นภัยเงียบและพบมากในผู้สูงอายุ ทำให้โรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมจะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยในอนาคต เนื่องจากผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากบริการทางสาธารณสุขที่ดีขึ้น และเชื่อว่าในอีก 50 ปีข้างหน้า อุบัติการณ์ของกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของปัจจุบัน ซึ่งวิธีการรักษาในปัจจุบันมีผลเพียงแค่หยุดยั้งการสูญเสียมวลกระดูก รักษาอาการกระดูกหัก และรักษาอาการข้อเสื่อมเท่านั้น หากประชาชนสามารถรู้วิธีในการป้องกันและชะลอภาวะกระดูกพรุนและภาวะข้อเสื่อม รวมทั้งบุคลากรสาธารณสุขมีความรู้ในการดูผู้ป่วยกลุ่มนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้น ตนหวังว่า เมื่อสิ้นสุดการอบรมในครั้งนี้ ผู้ที่เข้ารับการอบรมคงจะได้รับประโยชน์จากการฟังบรรยาย สามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลและเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ป่วยและประชาชนได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งภาคประชาชนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพตนเอง ครอบครัว เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคและปฏิบัติตัวได้เหมาะสมหากเป็นโรคแล้ว สมดังที่ผู้จัดการประชุมได้ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ///////   

 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ| สาลี สวัสดี คนรักบ้านเกิดนำคณะมอบเงิน 500,000 บาท ให้ผู้ว่าฯหนุนมวยสากลเยาวชน ศรีสะเกษสู้ศึกพัทลุงเกมส์

 สาลี สวัสดี คนรักบ้านเกิดนำคณะมอบเงินกว่า 500,000 บาทให้ผู้ว่าหนุนมวยสากลเยาวชน ศรีสะเกษสู้ศึกพัทลุงเกมส์ 

เมื่อวันที่ 29  กรกฎาคม 2565 นายวิวัฒน์  รุ้งแก้ว  ประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า นักมวยสากลสมัครเล่นทีม จ.ศรีสะเกษ  สามารถผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนภาคอีสาน ชาย 7 รุ่นน้ำหนัก หญิง 7 รุ่นน้ำหนัก รวมเป็น 14 รุ่นน้ำหนัก  เพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์”   ซึ่งเรามีผู้ใหญ่ใจดีมาดูแลซึ่งยังไม่เคยปรากฏมาก่อน  ในปีนี้มีผู้ใหญ่ใจดีมาเป็นผู้จัดการทีมทั้งกีฬาแห่งชาติคือท่านศรีมงคล คำเคนและกีฬาเยาวชนแห่งชาติคือท่านสาลี สวัสดี กรรมการผู้จัดการบริษัท เพาเวอร์พูล เทคโนโลยี จำกัด  ได้ให้การสนับสนุนมาเป็น ผจก.ทีมมวยสากลเยาวชน จ.ศรีสะเกษ         ซึ่งทั้ง 2 ท่านและคณะเป็นชาว จ.ศรีสะเกษโดยกำเนิดและได้ไปประกอบธุรกิจที่กรุงเทพจนกระทั่งประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก และมีความสำนึกรักบ้านเกิด จึงได้มาให้ตอบแทนคุณบ้านเกิดโดยให้การสนับสนุนชมรมมวยสากลสมัครเล่น จ.ศรีสะเกษ 

นายวิวัฒน์  รุ้งแก้ว  ประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา  ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ คณะผู้ให้การสนับสนุนชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษได้เข้าพบ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อมอบเงินและเสื้อกีฬาแก่ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อสนับสนุนชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อท่าน ผวจ.ศรีสะเกษ รับมอบแล้วท่านก็มอบให้ตน ในฐานะประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำไปใช้จ่ายในกิจการของชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

นายวิวัฒน์  รุ้งแก้ว เปิดเผยด้วยว่า โดยท่านที่บริจาคเงินและเสื้อกีฬามีดังนี้คือ นายสาลี สวัสดี กรรมการผู้จัดการบริษัทเพาเวอร์ฟูลเทคโนโลยี จำกัด บริจาคเงิน 270,000 บาท(สองแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน)นายศรีมงคล คำเคน ประธานบริหารบริษัทไนน์ตี้ไนน์เอสเตท จำกัด บริจาคเงิน 150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) น.ส.เบญญาภา ยอดรักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทเอสเทคเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน และนายสิทธิชัย ภูทิพย์ ประธานบริหารบริษัทในเครือบริษัท S - ONE GROUP บริจาคเสื้อกีฬา  ตนในฐานะประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ ขอขอบคุณท่าน ผวจ.ศรีสะเกษและทุกท่านที่บริจาคเงินและเสื้อให้กับชมรมฯในครั้งนี้ ///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ปราจีนบุรี| นายอำเภอบ้านสร้าง เป็นประธานในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

นายอำเภอบ้านสร้าง เป็นประธานในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา  

 วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565   เวลา 19.19 น.นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ  นายอำเภอบ้านสร้าง พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองท้องที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ หอประชุมอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี บ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี  เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติประกอบไปด้วย พิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ในช่วงเช้า และพิธีถวายราชสักการะและวางพานพุ่ม ตลอดจนพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในช่วงเย็น

     

 ในการนี้ อำเภอบ้านสร้าง ได้เชิญชวนส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา ในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ นี้ โดยพร้อมเพรียงกัน           

   

 

โดยพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ในภาคเช้า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

     

สำหรับกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในภาคเย็น นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง ในฐานะประธานในพิธี ตลอดจน ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ต่างเข้าร่วมพิธีถวายราชสักการะและวางพานพุ่ม ตลอดจนพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยพร้อมเพรียงเช่นเดียวกัน////

/ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

จ.ศรีสะเกษ| พระครูธรรมธรสมพล นำพุทธศาสนิกชนจัดกิจกรรมวันเฉลิมพระเกียรติ ฯ

พระครูธรรมธรสมพล  นำพุทธศาสนิกชนจัดกิจกรรมวันเฉลิมพระเกียรติ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์นานัปการต่อพสกนิกร

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าประชาสามัคคี  บ้านขุนหาญ ตำบลขุนหาญ  อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ  พระครูธรรมธรสมพล ปญญาพโล เจ้าอาวาสวัดป่าประชาสามัคคี ได้นำคณะพุทธศาสนิกชนชาวบ้านขุนหาญและหมู่บ้านใกล้เคียงประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 70 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2565  มีการจัดกิจกรรมประกอบด้วย  พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหาร แห้ง โดยพระครูธรรมธรสมพล ปญญาพโล เจ้าอาวาสวัดป่าประชาสามัคคี ได้นำคณะสงฆ์ออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนที่พากันมาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรจำนวนมาก โดยมีนายสิทธิรักษ์ อาจภักดี อดีตนายยก อบต.ขุนหาญ เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ 

พระครูธรรมธรสมพล ปญญาพโล เจ้าอาวาสวัดป่าประชาสามัคคี  กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 28 กรกฎาคม  2565 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  อาตมาภาพและประชาชนชาวหมู่บ้านขุนหาญรวมทั้งพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างมีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ทางวัดและชุมชนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์นานัปการต่อพสกนิกรของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ ดังนั้น จึงได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์  ขอทรงพระเจริญมีพระชนมายุยิ่งยืนนานเพื่อเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาราษฏร์ตราบนานเท่านาน///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ| อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ไถ่ชีวิตโคกระบือมอบให้เกษตรกร

อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ไถ่ชีวิตโคกระบือมอบให้เกษตรกรเพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล รัชกาลที่ 10

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีไถ่ชีวิตโคเพื่อมอบให้เกษตรกร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 70 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2565 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 9 ตัว และเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 ตัว รวมทั้งสิ้น 10 ตัว   

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย การประกอบพิธีทางศาสนา พิธีมอบโคให้เกษตรกร การนำเอาหญ้าไปให้โคที่ได้รับการไถ่ชีวิตกิน โดยได้รับความเมตตาจากพระมหาสง่า ปภสฺสโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายศราวุธ  ทรงโฉม  นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดศรีสะเกษ  ประกอบด้วย นายทิวา  รุ้งแก้ว  ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ  นายไสว  โนนสูง  ประธานองค์กรเกษตรกลุ่มศรีพัฒนา  นายจรินทร์ พงษ์พิพิธธรรม ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศรีพัฒนา จำกัด  นายเกษมศานต์ ศรีโพนทอง ผอ.มูลนิธิพัฒนาการศึกษาเพื่อชุมชนและรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ   นายสุชาติ  สกุลจันทาระ ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดศรีสะเกษ   นำเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เข้ารับมอบโคจำนวน 10 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ในครัวเรือนต่อไป

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  สืบเนื่องจากวันที่ 28 กรกฎาคม  2565   เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างมีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง  เครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดศรีสะเกษ  จึงได้จัดทำโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยไถ่ชีวิตโคจำนวน 10 ตัว  และมอบให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเกษตรกรต้องสัญญาว่า จะเลี้ยงโคที่รับไว้เป็นอย่างดี ไม่ฆ่า  ไม่ขาย  โดยเด็ดขาด และนำโคไปเลี้ยงประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ในครอบครัวตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ