วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ| ดร.กัลยาณี ประธานกรรมการสงเคราะห์ศรีสะเกษ ปลื้มปิติที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ดร.กัลยาณี ประธานกรรมการสงเคราะห์ศรีสะเกษ ปลื้มปิติที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ 
วันที่ 30 มิถุนายน  2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ชั้น 3  สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษได้มอบหมายให้ นายนพ  พงษ์ผลาดิสัย   รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2565 โดยได้อัญเชิญวางบนพานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจำนวน 1 ราย ให้แก่ นางกัลยาณี ธรรมจารีย์    โดยมี นายชูเกียรติ  ทาวุฒิ  รักษาราชการแทนตำแหน่ง ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงานและเบิกตัวผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มีนางอรทัย  บุตรศรี นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ  และเจ้าหน้าที่ข้าราชการ สถานพินิจฯ  เข้าร่วมพิธี 
   ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2564 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ทุกชั้นตรา ไปยังผู้ที่ได้รับพระราชทาน โดยไม่ต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทาน โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ  จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

    นายชูเกียรติ  ทาวุฒิ  รักษาราชการแทนตำแหน่ง ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในวันนี้ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ โดยมีประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้มีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ ช่วยเหลือกิจการสถานพินิจฯ เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชน ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้น 7 เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ ได้แก่ นางกัลยาณี ธรรมจารีย์  เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติและเป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นับเป็นความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 นายนพ   พงษ์พลาดิศัย    รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดี และขอแสดงความชื่นชมกับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในวันนี้    การที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ กรณีผลงาน  เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำความดี ความชอบ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติศาสนาและประชาชน  ซึ่งจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ  มีความซื่อสัตย์สุจริตบำเพ็ญตนเป็นพลเมืองดี  น่าภาคภูมิใจที่เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการปฎิบัติหน้าที่ของกรรมการสถานพินิจให้สำเร็จลุล่วงและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายตลอดมา  ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและทุ่มเท  เสียสละ  ในการดูแลเด็กและเยาวชนซึ่งกระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  ทั้งยังช่วยเหลือภารกิจของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการคืนคนดีสู่สังคม    ขอบคุณที่ได้ดูแล  ช่วยเหลือ  เสียสละเวลา  ทุ่มเทแรงกายแรงใจ  เพื่อเด็กและเยาวชน  เป็นสังคมแห่งการให้โอกาสเป็นสังคมแห่งการเอื้อเฟื้อ และเป็นกำลังในการขับเคลื่อนภารกิจในการคืนคนดีสู่สังคม///

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ|ทุเรียนภูเขาไฟราดำสุดฮอตของโปรดนักบริโภคทุเรียน

ทุเรียนภูเขาไฟราดำสุดฮอตของโปรดนักบริโภคทุเรียน เนื่องจากมั่นใจว่าเป็นทุเรียนอินทรีย์อย่างแท้จริงทำให้ราคาพุ่งสูงมากกว่าทุเรียนทั่วไป นักท่องเที่ยวแห่ซื้อคึกคัก
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนรัชตาทุเรียนภูเขาไฟ ตั้งอยู่เลขที่ 103 บ้านซำขี้เหล็ก ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นสวนของนางรัชตา  ศรีวงค์ อายุ 50 ปี  ปรากฏว่าได้มีนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนพากันมามาเยี่ยมชมสวนทุเรียนภูเขาไฟกันอย่างต่อเนื่อง  โดยนักท่องเที่ยวได้พากันไปชมต้นทุเรียนที่กำลังให้ผลผลิตจำนวนมาก  นักท่องเที่ยวต่างพากันถ่ายภาพกับลูกทุเรียนกันอย่างสนุกสนาน จากนั้น ได้พากันมาหาเลือกซื้อทุเรียนภูเขาไฟที่เจ้าของสวนทุเรียนได้ตัดมากองรวมกันไว้สำหรับขายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป เพื่อจะได้ซื้อไปกินและฝากญาติพี่น้องกันอย่างคึกคักมาก  โดยนางรัชตา เจ้าของสวนทุเรียนได้ผ่าลูกทุเรียนภูเขาไฟให้นักท่องเที่ยวได้ชิมรสชาติความอร่อยก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อทุเรียนภูเขาไฟ  ซึ่งปรากฏว่า นักท่องเที่ยวได้พากันมองหาลูกทุเรียนภูเขาไฟที่มีราดำอยู่บนลูกทุเรียน  แต่ปรากฏว่า ทุเรียนภูเขาไฟราดำ มีจำนวนน้อยมาก ทำให้นักท่องเที่ยวพากันผิดหวังที่ไม่ได้ทุเรียนภูเขาไฟราดำไปกินกับครอบครัวของตนเอง
นางรัชตา  ศรีวงค์ อายุ 50 ปี  เจ้าของสวนทุเรียนรัชตา  กล่าวว่า ทุเรียนภูเขาไฟราดำเป็นที่นิยมของลูกค้าทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าแม้แต่สัตว์จำพวกเชื้อรายังชอบเลย เพราะว่าเนื้อทุเรียนจะหวานละมุนเนื่องจากว่าเชื้อรามันจะดูดเอาความหวานของทุเรียนออกมา ผู้บริโภคทุเรียนที่ชอบประเภททุเรียนอินทรีย์จะชอบทุเรียนราดำเป็นอย่างมาก จะพากันเล็งหาทุเรียนที่มีราดำ  ตนยืนยันว่าทุเรียนราดำเป็นทุเรียนที่ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด ทุเรียนราดำจะขายราคาแพงกว่าปกติมากกว่าราคาท้องตลาด เพราะถือว่าเป็นทุเรียนอินทรีย์ ปกติทุเรียนภูเขาไฟทั่วไปจะขายเพียงกิโลกรัมละ 150 บาท  แต่ว่าทุเรียนภูเขาไฟราดำจะขายกิโลกรัมละ 180 บาท จะเป็นมูลค่าเพิ่มเพราะเป็นทุเรียนภูเขาไฟอินทรีย์ ยืนยันโดยลูกค้าโดยเจ้าของสวนเป็นคนแนะนำให้ว่า นี่คือทุเรียนภูเขาไฟราดำ เป็นทุเรียนอินทรีย์อย่างแท้จริง///////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ นำจิตอาสาสร้างบ้านให้กับชาวบ้านที่ยากจน

 นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณนำจิตอาสาสร้างให้กับชาวบ้านที่ยากจน เพื่อให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ  นายสุวรรณ   เนตรเนติกุล นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ/ผู้อำนวยการจิตอาสาอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า  ตนพร้อมด้วยคณะจิตอาสาประกอบด้วย นางขวัญตา คิดดี  ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง  จ่าเอกโอภาส ทองขาว  ปลัดอำเภอ นางศิริวรรณบุษบา  ผู้แทนพัฒนาการอำเภอ นายสมานชัย ใยดวง กำนันตำบลโดด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง สมาชิก อส.กองร้อย อส.อ. โพธิ์ศรีสุวรรณที่ 23 ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2, 3, 5, 6, 8, 11, 13, 14, 15, 17 และ 23 ตำบลโดดแพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ตำบลโดด นายสุบรรณ ปัญญาสูง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโดด เขต 2 และประชาชนชาวบ้านกาดำ  ได้ร่วมกันสร้างบ้านให้กับครัวเรือนยากจนรายนายไสว บัวพันธ์  บ้านกาดำ หมู่ที่ 12 ตำบลโดด ซึ่งได้รับงบประมาณในการสร้างบ้านจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 50,000.- บาท โดยได้รับการสนับสนุน อาหารกลางวันและเครื่องดื่ม สำหรับผู้ร่วมกิจกรรม จากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโดด เลขานุการสภาเทศบาลตำบลโดด
นายสุวรรณ   เนตรเนติกุล นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ/ผู้อำนวยการจิตอาสาอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ เปิดเผยต่อไปว่า  อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ มีครัวเรือนยากจนตามฐานข้อมูล TPMAP และครัวเรือนยากจนที่สำรวจเพิ่มเติมที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงและมิติด้านรายได้ รวมทั้งสิ้น 37 ครัวเรือนแยกเป็นมิติด้านที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง จำนวน 30 ครัวเรือน มิติด้านรายได้จำนวน 3 ครัวเรือน ครัวเรือนที่มีปัญหาทั้งมิติด้านที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงและมิติด้านรายได้จำนวน 4 ครัวเรือน โดยได้รับงบประมาณในการสร้าง/ซ่อมแซมบ้าน ดังนี้ 1. งบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จำนวน 18 หลัง ๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 360,000 บาท  2. งบประมาณในการสร้างบ้านจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษจำนวน 1 หลังเป็นเงิน 50,000 บาท 3. ศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (ศจพ.อ. โพธิ์ศรีสุวรรณ) ได้จัดตั้งกองทุนสร้างซ่อมแซมบ้านให้กับครัวเรือนยากจนโดยมีเงินในบัญชีกองทุนจำนวน 70,000 บาท 

นายสุวรรณ   เนตรเนติกุล  นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณเปิดเผยด้วยว่า  4. เงินจากการทอดผ้าป่าและระดมทุนเพื่อเป็นกองทุน สจพ.ตำบลเพื่อสร้าง/ซ่อมแซม/ปรับปรุงบ้าน  ให้กับครัวเรือนยากจน ดังนี้     4.1 กองทุน ศจพ.ตำบลโดด จำนวน 151, 444 บาท   4.2 กองทุน ศจพ.ตำบลอีเซ จำนวน 103, 069 บาท  4.3 กองทุน ศจพ.ตำบลผือใหญ่จำนวน 66,125  บาท    4.4 กองทุน ศจพ.ตำบลเสียว จำนวน 53, 347 บาท     4.5 กองทุน ศจพ.ตำบลหนองม้า จำนวน25,000 บาท รวมงบประมาณในการสร้าง/ซ่อมแซม/ปรับปรุงบ้านให้กับครัวเรือนยากจน  จำนวน 878,985 บาท  มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 30 คน ซึ่งผลการปฏิบัติ  ครัวเรือนยากจน  บ้านกาดำ หมู่ที่ 12 ตำบลโดด มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น//////// 

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ



 

จ.ศรีสะเกษ|ผ้าไหมสินค้า OTOP สร้างรายได้แล้ว 12 ล้านบาท

 ผ้าไหมสินค้าโอท็อปสร้างรายได้แล้ว 12 ล้านบาทที่ลานออดหลอดซอดศรีสะเกษ ยกเครื่องทอผ้ามาทอผ้าโชว์เพื่อให้ประชาชนได้ชมวิธีการทอผ้าพื้นเมืองด้วย
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์โอท็อปศรีสะเกษ ตรงข้าศาลหลักเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายผ้าไหม ผ้าลายตะขอ ผ้าพื้นเมืองและสินค้าโอท็อป  และในบริเวณเดียวกันนี้เป็นลานออดหลอดซอดศรีสะเกษ เปิดจำหน่ายสินค้าจำพวกผ้าไหมผ้าพื้นเมืองและผลิตผลทางการเกษตรจำนวนมาก  น.ส.ชนมณัฐ  รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย น.ส.วริศรา  โสภาค  พัฒนาการ จ.ศรีสะเกษ และคณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมสินค้าโอท็อป ต่าง ๆ รวมทั้งสินค้าจำพวกหอม กระเทียม เครื่องจักสาน ที่มีการวางจำหน่ายจำนวนมากในราคาย่อมเยา เนื่องจากว่า ศูนย์โอท็อปแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ศรีสะเกษที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้เป็นตลาดจำหน่ายสินค้าโอท็อบให้กับกลุ่มแม่บ้านทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ  
จากนั้น  น.ส.ชนมณัฐ  รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ไปเยี่ยมชมลานออดหลอดซอดศรีสะเกษ  ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ปรากฏว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า นำเอาสินค้าโอท็อปทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าไหม ผ้าลายตะขอ ผ้าเบญจศรี ผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ มาออกร้านจำหน่ายจำนวนมาก มีการยกเครื่องทอผ้ามาทอผ้าโชว์เพื่อให้ประชาชนได้ชมวิธีการทอผ้าพื้นเมืองด้วย ลานออดหลอดซอดศรีสะเกษแห่งนี้ จะเปิดขายสินค้าทุกสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 20.00 น.ทุกวัน  ซึ่งจากการที่ได้เปิดตลาดแห่งนี้เพื่อจำหน่ายผ้าไหมและสินค้าโอท็อปต่าง ๆ มาแล้ว จำนวน 10 ครั้ง ปรากฏว่าสามารถจำหน่ายสินค้าได้เงินแล้วทั้งสิ้น 12  ล้านบาทเศษ สร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านที่นำเอาสินค้ามาวางจำหน่ายได้เป็นอย่างดีมาก

น.ส.ชนมณัฐ  รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ศูนย์โอท็อปศรีสะเกษเป็นแหล่งจำหน่ายผ้าไหม ผ้าพื้นเมือง ผ้าลายตะขอ มีเสื้อผ้าพื้นเมืองที่มีการแส่วอย่างสวยงามมาวางจำหน่ายจำนวนมาก  รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปทางการเกษตร เช่น กระเทียมโทนดองน้ำผึ้ง กาแฟโรบัสต้า หอม กระเทียม ข้าวหอมมะลิ กระเป๋าที่ทำจากเศษผ้าไหม เศษผ้าทอต่าง ๆ อย่างสวยงาม รวมทั้งสินค้าจักสานมากมาย  จึงขอเชิญผู้ที่สนใจมาเลือกชมซื้อผ้าไหม ผ้าทอพื้นเมือง ผ้าเบญจศรี สินค้าโอท็อปต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์โอท็อปศรีสะเกษ ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.061-158-7963 ////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.นครสวรรค์| ชาวบ้านตะคร้อ อ.ไพศาลี เดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมาหลายปี เคยขอความช่วยเหลือไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องแต่เรื่องเงียบหาย วอนท่านผู้ว่าฯ ลงมาช่วยเหลือที

ชาวบ้านตะคร้อ อ.ไพศาลี น้ำท่วมขัง มาหลายปี รอการช่วยเหลือจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ 
วันที่ 29 มิถุนายน 2565 เดือดร้อนมาหลายปีแล้ว!  น.ส.จิรวดี นุประดิษฐ์ อายุ40ปี  และ บุตรชาย นายสุธรรม คำชาย  อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217  หมู่ 13  ตำบลตะคร้อ  อำเภอไพศาลี  จังหวัดนครสวรรค์  ร้องเรียนสื่อมวลชน ว่าถึงฤดูฝนทีไรน้ำท่วมบ้านทุกปี จนไม่สามารถนอนในบ้านได้ 
  
ซึ่งบ้านของ น.ส จิรวดี บ้านปูนชั้นเดียวฝนตกแต่ละครั้งน้ำท่วมบ้านจนไม่มีที่นอน
ส่วนบ้านของลูกชาย นายสุธรรม คำชาย บ้านปูน 2 ชั้น ติดกัน ฝนตกหนักน้ำท่วมสูงถึงบันไดขั้นที่ 3  จนต้องนำสุนัขขึ้นไปนอนอยู่ชั้น 2  เท่านั้นยังไม่พอ หลังบ้านของ น.ส จิร
วดี  ยังมีบ้านของนายลวก  ดิสา  ถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากมีเกษตรกรนำสิ่งของมาปิดกั้นไม่ให้น้ำเข้านาบริเวณนั้น  ทำให้บ้านทั้ง 3 หลัง ต้องถูกน้ำท่วมขังจมอยู่ใต้บาดาล อย่างช้าระบายน้ำไวสุดก็  7 วัน ช้าสุด 15 วัน 
  น.ส.จิรวดี เล่าว่า เคยไปร้องเรียนผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแล้ว แต่เรื่องเงียบหายทั้งผู้รับผิดชอบก็รู้อยู่แล้วว่าจะระบายน้ำออกทางไหนแต่ไม่มีใครมาสนใจ 
  
 ฝากท่านผู้ว่าฯชยันต์  ศิริมาศ  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ช่วยสั่งการ นายอำเภอไพศาลี ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้ที ผู้เดือดร้อนรอการช่วยเหลืออยู่

จ.ศรีสะเกษ| ผู้ว่าฯปู เปิดพิพิธภัณฑ์ชาวกูยปรางค์กู่แห่งแรกของโลก

 ผู้ว่าฯปู เปิดพิพิธภัณฑ์ชาวกูยปรางค์กู่แห่งแรกของโลก เพื่อเป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงสิ่งต่างๆที่ทางด้านประวัติตาสตร์ศิลปะ วัฒนธรรมและความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับชาวเผ่ากูย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและให้ความเพลิดเพลินแก่ประชาชน 
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน  2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พิพิธภัณฑ์ชาวกูยศูนย์วัฒนธรรมเกาะกลางน้ำสระกู่ ต.กู่  อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ  นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี   ผวจ.อ่างทอง หรือผู้ว่าปู อดีต ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยนางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง  และนายนพ  พงศ์ผลาดิสัย  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดป้ายพิพิธภัณฑ์ชาวกูย อำเภอปรางค์กู่  ซึ่ง อ.ปรางค์กู่ ร่วมกับ อบต.กู่ ส่วนราชการทุกส่วน และประชาชาว อ.ปรางค์กู่ ซึ่งส่วนมากเป็นชนเผ่ากูยหรือเผ่าส่วย 1 ใน 4 ของชนเผ่าพื้นเมืองของ จ.ศรีสะเกษ ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและให้ความเพลิดเพลินแก่ประชาชน มีจุดประสงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำเสนอเรื่องราววิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ชาวกูย ให้เชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับปราสาทปรางค์กู่ ส่งเสริมประชาชนมีรายได้เสริมอย่างทั่วถึง  เป็นที่สงวนรักษาวัตถุทางวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนชาวกูย เก็บรวบรวมวัตถุสิ่งของในท้องถิ่น เครื่องมือเครื่องใช้ ศิลปหัตถกรรมอันเป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม  มีการประกอบพิธีทางศาสนา การแสดงรำอย่างสวยงามของชาวกูยกว่า 300 คน โดยมี นายวิทยา ไชยเดชกำจร นายอำเภอปรางค์กู่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และมี นายพสิษฐ์  เจนพิทักษ์คุณ นายก อบต.ตำบลกู่ เป็นผู้กล่าวรายงาน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดศรีสะเกษและอำเภอปรางค์กู่  ข้าราชการและประชาชนชาวตำบลกู่ พากันแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองชาวเผ่ากูย มาร่วมในพิธีและให้การต้อนรับจำนวนมาก
นายวิทยา ไชยเดชกำจร นายอำเภอปรางค์กู่ กล่าวว่า สืบเนื่องจากแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 กับวิสัยทัศน์ของประเทศไทย ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายรัฐบาลและแผนบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ได้อนุมัติให้อำเภอปรางค์กูดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน กิจกรรม ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ คสล. 2 ชั้น และอาคารรองรับนักท่องเที่ยว อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ งบประมาณ 5,180,000 บาท ณ ศูนย์วัฒนธรรมปรางค์กู่ เกาะกลางน้ำ(สระกู่) บ้านกู่  ต.กู่ อ.ปรางค์ภู่  จ.ศรีสะเกษ  และอ.ปรางค์กู่ ได้แจ้งขึ้นทะเบียนสิ่งปลูกสร้างของรัฐ และขอรับโอนทรัพย์สินที่เกิดจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกลุ่มจังหวัดฯ  ให้ อบต.กู่ สามารถตั้งงบประมาณบำรุงรักษาทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดความคุ้มค่าในทรัพย์สินทางราชการ  ทั้งนี้ อบต.กู่   ได้ยื่นความประสงค์ขอใช้ทรัพย์สินต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ศรีสะเกษ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้พิจารณาอนุญาตให้อบต.กู่ ใช้อาคารราชพัสดุหลังลำดับที่ ศก.1955 ได้ตามประสงค์
นายพสิษฐ์  เจนพิทักษ์คุณ นายก อบต.กู่ กล่าวว่า เมื่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ศรีสะเกษ ได้อนุญาตให้อบต.กู่ใช้อาคารพิพิธภัณฑ์ชาวกูย อาคารราชพัสดุหลังลำดับที่2 ก.1955 ได้ตามประสงค์ แต่ด้วยภารกิจในการบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่ของ อบต.กู่  มีงบประมาณไม่เพียงพอในการ  ดังนั้น                                               นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี  ผวจ.อ่างทอง (อดีต ผวจ.ศรีสะเกษ) และนางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหลำากาชาดจังหวัดอ่างทองพร้อมคณะกัลยาณมิตรในบุญ  ตลอดจนพระครูวินิฐศีลขันธ์ เจ้าคณะอำเภอแม่วงก์ จึงได้ให้การอนุเคราะห์ดำเนินการระดมงบประมาณจากการทอดกฐินและผ้าป่าวัดแม่วงก์ ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ โดยงบประมาณส่วนหนึ่งนำมาปรับปรุงตกแต่งพิพิธภัณฑ์ชาวกูย จำนวน 2,000,000 บาท โดยพิพิธภัณฑ์ชาวกูยแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงสิ่งต่างๆที่ทางด้านประวัติตาสตร์ศิลปะ วัฒนธรรมและความรู้อื่นๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและให้ความเพลิดเพลินแก่ประชาชน มีจุดประสงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำเสนอเรื่องราววิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ชาวกูย ให้เชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับปราสาทปรางค์กู่ ส่งเสริมประชาชนมีรายได้เสริมอย่างทั่วถึง  เป็นที่สงวนรักษาวัตถุทางวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนชาวกูย เก็บรวบรวมวัตถุสิ่งของในท้องถิ่น เครื่องมือเครื่องใช้ ศิลปหัตถกรรมอันเป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม การนำเสนอและจัดแสดงภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของชุมชนวัฒนธรรมชาติพันธุ์ชาวกูย สะสมอนุรักษ์สมบัติทางศิลปวัฒนธรรมของชาติและชุมชนให้คงอยู่สืบไป  ให้เป็นประโยชน์ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี และเป็นแหล่งการเรียนรู้และการจัดแสดงนิทรรศการชาวกูยมีเอกลักษณ์ของตนเองที่สำคัญแหล่งหนึ่งในจ.ศรีสะเกษ  และเป็นการพัฒนาชุมชนของชาวกูยแบบยั่งยืนต่อไป

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี   ผวจ.อ่างทอง หรือผู้ว่าปู อดีต ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนรู้สึกประทับใจเพราะว่าเป็นชุมชนชาวกูยที่หวงแหนมรดกวัฒนธรรมเอาไว้ เพราะว่าที่ผ่านมาไม่มีที่เก็บรักษาขณะนี้ก็มีอย่างเป็นทางการแล้ว  สามารถที่จะทำให้เป็นเอกลักษณ์เก็บไว้เป็นของตนเองอย่างถาวรยั่งยืนในสังคมได้ตนได้ร่วมกับกัลยาณมิตรทำผ้าป่าสามัคคีมาสมทบในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ชาวกูยแห่งนี้ด้วย เพราะว่ารับปากกับทางชาวบ้านที่นี่เอาไว้จึงต้องทำตามสัญญา ก็ได้รับความร่วมมือที่ดีและในโอกาสที่กลับมาเยี่ยมชาวศรีสะเกษ ตนขอฝากถึงชาวศรีสะเกษว่าก็อยากให้ชาวศรีสะเกษทุกคนรักษาและหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมนี้ไว้เพราะว่าไม่มีใครที่จะรักเราเท่ากับตัวเราเอง///////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ปราจีนบุรี| นายอำเภอบ้านสร้าง พาทีมอำเภอลุยกิจกรรมฝึกอาชีพรถรายจ่ายสร้างรายได้

นายอำเภอบ้านสร้าง พาทีมอำเภอลุยกิจกรรมฝึกอาชีพ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ตามโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ โครงการอำเภอนำร่องฯ
วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 05.00 น.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายกนายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง นำทีมอำเภอร่วมกิจกรรมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ เพื่อลดรายจ่าย สร้างรายได้ให้ประชาชน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. 
    
 โดยกิจกรรมดังกล่าว ประกอบไปด้วย 5 ฐานการเรียนรู้ ได่แก่ ฐานการทำอาหารสัตว์สูตรประหยัด, ฐานฝึกการทำสเปรย์สมุนไพรไล่ยุง, ฐานสมุนไพรแช่เท้า (สปาเท้า), ฐานสบู่เหลวสมุนไพร และฐานหลุมขยะเปียก รักษ์โลก
    
 นายอำเภอบ้านสร้าง เล็งเห็นว่ากิจกรรมทั้ง 5 ฐานเหล่านี้ เป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์อย่างมาก ในการที่จะช่วยให้ประชาชนมีความรู้สำหรับการนำไปช่วยลดค่าครองชีพ และสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นฐานอาหารสัตว์สูตรประหยัด ที่ใช้ส่วนประกอบหลักจากผักตบชวา ซึ่งนอกจากจะเป็นการนำผักตบชวามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังเป็นการลดรายจ่ายในการซื้ออาหารสัตว์ของพี่น้องเกษตรกรด้วย นอกจากนี้ ในฐานสบู่เหลวสมุนไพร ทางทีมอำเภอ โดยเฉพาะตัวแทนภาคประชาชน, ตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนกลุ่มพัฒนาสตรีอำเภอ ซึ่งมีองค์ความรู้ในการจัดทำผลิตภัณฑ์ในพื้นฐาน ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมวิทยากร เพื่อต่อยอดความรู้ และนำไปถ่ายทอดให้พี่น้องประชาชนในอำเภอบ้านสร้างได้นำไปปรับใช้ เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน หรือกระทั่งสร้างรายได้เป็นอาชีพต่อไป
     อีกหนึ่งฐานการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และนโยบายปราจีนบุรีเมืองสะอาด ของผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ตลอดจนสอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ของอำเภอบ้านสร้าง ก็คือ ฐานหลุมขยะเปียก รักษ์โลก เพราะเป็นการบริหารจัดการขยะในระดับครัวเรือน ที่ต้นทุนไม่สูง และขยะเหล่านี้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการช่วยปรับปรุงบำรุงรักษาคุณภาพของดินให้อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การปลูกพืชผักสวนครัวอีกด้วย/////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ| ผู้ว่าฯ ห่วงใยประชาชนเตือนให้ระวังการใช้กัญชาอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ

ผู้ว่าฯห่วงใยประชาชนเตือนให้ระวังการใช้กัญชาอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายจิตใจ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังดูแลบุตรหลาน  ขณะที่ นพ.สสจ.เผยยังไม่มีรายงานผู้ที่มีผลกระทบจากการใช้กัญชาแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวถึงกรณีที่มีการปลดล็อคเรื่องกัญชาแล้วว่า ในช่วงนี้กฎหมายก็ยังไม่ตายตัวยังไม่ได้ออกมาครบ แต่อย่างไรก็ตามตนคิดว่าอะไรที่ยังไม่จำเป็นต่อชีวิต คือถ้าใช้ในทางการแพทย์ทั้งยาทั้งสรรพคุณต่างๆก็จะส่งผลดีต่อการดูแลสุขภาพทางแพทย์ก็มีความจำเป็น เพราะบางสิ่งบางอย่างถ้าเราใช้โดยไม่มีความจำเป็นและไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ เช่นเรื่องของอายุ สถานที่ เรื่องของอะไรต่างๆนี้ตนคิดว่าในส่วนนี้ก็คงจะต้องเฝ้าระวังกัน ช่วยกันดูแลลูกหลานซึ่งเขาอาจจะยังไม่มีความเข้าใจหรือรู้ซึ้งถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อร่างกายหรือทางจิตใจอะไรต่างๆก็คงจะต้องช่วยกันดูแลในด้านนี้ด้วย
ทางด้าน นพ.ทนง  วีระแสงพงษ์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้สั่งการให้ อสม.รณรงค์เรื่องการใช้กัญชาให้ถูกวิธีแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการแจ้งให้ทราบเท่านั้นให้เฝ้าระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้กัญชา และในส่วนของหน่วยบริการที่เป็นโรงพยาบาลทุกแห่งก็ขอให้รายงานกรณีที่มีผู้ที่มีผลข้างเคียงจากการใช้กัญชาเข้ามาซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานเข้ามาแต่อย่างใด/////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ปราจีนบุรี|นายอำเภอบ้านสร้างนำ ทีมอำเภอ ภาคีเครือข่าย 7 ภาคี เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการอำเภอนำร่อง บำบัดทุกข์บำรุงสุข

นายอำเภอบ้านสร้าง นำทีมอำเภอ ภาคีเครือข่าย 7 ภาคี เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการอำเภอนำร่อง "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แบบบูรณาการฯ
 วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2565 เวลา 9.00 น.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน จังหวัดนครนายก สืบเนื่องจาก อำเภอบ้านสร้างได้รับคัดเลือกให้เป็นอำเภอนำร่องระดับจังหวัด ของจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้โครงการอำเภอนำร่อง "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แบบบูรณาการ และสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง กระทรวงมหาดไทย
     ในการนี้ นายเสฏฐวุฒิ เลอวุฒิ  นายอำเภอบ้านสร้าง จึงได้นำทีมภาคีเครือข่าย 7 ภาคีในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง ประกอบไปด้วย ผู้นำภาคประชาชน ผู้นำภาคศาสนา, ตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ผู้นำภาคเอกชน, ผู้นำภาควิชาการ และ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ และกิจกรรมการจัด Workshop การจัดทำแผนขับเคลื่อนงานฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2565 - 2 กรกฎาคม 2565 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก 
     ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ และบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ "ผู้นำนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง" (Change Agents for Strategic Transformation :CAST) ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีของทีมอำเภอบ้านสร้างในการที่จะนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการบรรยาย ตลอดจนกิจกรรม และการอบรม ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอำเภอบ้านสร้างต่อไป/////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

จ.ปราจีนบุรี| ดร.กนกวรรณ รมช.ศธ ผสานพลังอำเภอบ้านสร้าง พัฒนาคุณภาพชีวิตขจัดความยากจน

ดร.กนกวรรณ รมช.ศธ เป็นประธานส่งมอบบานประตู และ Kick - Off ซ่อมประตู "กระทรวงศึกษาธิการ ผสานพลังอำเภอบ้านสร้าง พัฒนาคุณภาพชีวิต ขจัดความยากจน ตามระบบ Thai QM และ TPMAP” 
 วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.30 น. อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรีสืบเนื่องจากดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความประสงค์ที่จะร่วมสนับสนุนการดำเนินการขจัดความยากจนฯ ของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย โดยใช้อำเภอบ้านสร้างเป็นต้นแบบในการ Kick - Off ด้วยการมอบบานประตู PVC ให้กับบ้านผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส ตามข้อมูล TPMAP และระบบ Thai QM จำนวนทั้งสิ้น 149 บาน  ที่ได้รับบริจาคมาจากบริษัทในเครือบางกอกพีวีซี 
   
 ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ และอำเภอบ้านสร้างจึงได้ขยายผลการให้ความช่วยเหลือ และการแก้ไขปัญหาไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น พร้อมกำหนดจัดพิธีส่งมอบบานประตู และ Kick - Off ซ่อมประตู ตามกิจกรรม “กระทรวงศึกษาธิการ กศน. สอศ. ผสานพลังอำเภอบ้านสร้าง พัฒนาคุณภาพชีวิต ขจัดความยากจน ตามระบบ Thai QM และ TPMAP” ขึ้น ณ หอประชุม โรงเรียนชิตใจชื่น ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง 
     โอกาสนี้ ยังได้มีการกำหนดจัดกิจกรรมลงพื้นที่เพื่อดำเนินการ Kick – Off ซ่อมบานประตู โดยดร.กนกวรรณ       วิลาวัลย์ รมช.ศธ พร้อมด้วยนายวรพันธุ์     สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดจำนวน 4 จุด ได้แก่
     1) จุดที่ 1 ซ่อมประตูสถานศึกษา โรงเรียนชิตใจชื่น ต.บ้านสร้าง 
     2) จุดที่ 2 ซ่อมประตูบ้าน ให้บุคคลตามข้อมูลปักหมุดผู้พิการ กศน. อ.บ้านสร้าง ม.6 ต.บางกระเบา
     3) จุดที่ 3 ซ่อมประตูครัวเรือนยากจน (ผู้ประสบปัญหา ตามระบบ ThaiQM และ TPMAP) ม.8 ต.บางแตน               
     4) วัดบางแตน ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง ในการนี้ ทาง กศน.อ.บ้านสร้าง ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ เพื่อลดรายจ่ายสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนที่ไม่ได้รับการศึกษาในระบบ ได้เข้ารับการศึกษาตามหลักสูตรของ กศน. เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้พร้อมต่อการพัฒนาประเทศ

 สำหรับการดำเนินการตามกิจกรรมดังกล่าว ในระยะต่อไป อำเภอบ้านสร้าง จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการซ่อมบานประตูให้กับแต่ละครัวเรือนในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ และติดตามผลการดำเนินงานการซ่อมประตูอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การซ่อมบานประตูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สัมฤทธิ์ผล สอดคล้องกับเป้าหมาย และเจตนารมรณ์ในการมอบบานประตูของ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต และขจัดความยากจนให้ประชาชนในอำเภอบ้านสร้างต่อไป///
//ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ| พ่อแม่แหลม อดีตแชมป์โลก วอนลูกชายหยุดชกมวยหลังแพ้น็อคหมดรูป

 พ่อแม่แหลมอดีตแชมป์โลกวอนลูกชายหยุดชกมวยหลังแพ้น็อคหมดรูป เผยอายุมากแล้วสู้คนหนุ่มกว่าไม่ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับศรีสะเกษ  นครหลวงโปรโมชั่น ลูกชายอดีตแชมป์โลก 
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2565   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5  บ้านม่วง ต.แต้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นที่บ้านของนายเจียมศักดิ์ วังเอก อายุ 60 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 และนางหนูรัตน์ วังเอก อายุ 57  ปี พ่อและแม่ของไอ้แหลม  “ศรีสะเกษ  นครหลวงโปรโมชั่น” อดีตแชมป์โลก ขวัญใจชาวไทย รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลก หรือ WBC ซึ่งกำลังขึ้นชกชิงแชมป์โลกกับ เจสซี แบม   โรดริเกซ เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกซูเปอร์ฟลายเวต ชาวอเมริกัน ปรากฏว่าได้มี นายสราวุธ  ทรงโฉม  นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วย นายธนกฤช  จิริวิภากร ส.อบจ.เขตอุทุมพรพิสัย ได้ร่วมกับ พ่อแม่ของเจ้าแหลม ตำรวจ ญาติพี่น้องและชาวบ้านม่วง ได้พากันมาเชียร์ ไอ้แหลม ศรีสะเกษ  นครหลวงโปรโมชั่นกันอย่างคึกคักมาก  โดยเฉพาะช่วงที่ไอ้แหลมระดมชกคู่ต่อสู้ชาวบ้านทุกคนจะพากันส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน เพื่อหวังให้ไอ้แหลมลูกหลานบ้านม่วง สามารถคว่ำแชมป์โลก  เพื่อเอาเข็มขัดแชมป์โลกกลับมาประเทศไทยให้ได้  แต่ว่าพอการชกไปถึงยก 8 ความหวังของพ่อแม่และญาติพี่น้องของไอ้แหลมรวมทั้งชาวบ้านม่วงทุกคนก็ต้องสูญสลายไป  เมื่อไอ้แหลมโดน  แชมป์โลก เจสซี แบม   โรดริเกซ ระดมชกอย่างหนักทำให้กรรมการบนเวทีเห็นว่า หากปล่อยให้ไอ้แหลมโดนต่อไปอาจจะเป็นอันตรายได้ จึงได้สั่งยุติการชก ทำให้เข็ดขัดแชมป์โลกยังคงเป็นของเจสซี แบม โรดริเกซ  อยู่ต่อไป  ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของพ่อแม่และชาวบ้านม่วงทุกคนเป็นอย่างมาก ที่ไอ้แหลมไม่สามารถเอาเข็ดขัดกลับมาเป็นของชาวไทยได้
นายเจียมศักดิ์ วังเอก อายุ 60 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 พ่อของไอ้แหลม กล่าวภายหลังการชกสิ้นสุดลงแล้วว่า การชกก็เป็นไปตามเกมส์ที่วางไว้  แต่ว่าอายุของไอ้แหลมก็เยอะมาก ตั้งใจว่าจะเอาเข็มขัดมาให้พี่น้องชาวไทยได้ชื่นชมมันก็ทำได้แค่นี้ ตนอยากให้ไอ้แหลมเลิกชกมวย แต่ว่าไอ้แหลมจะเลิกชกหรือป่าวไม่รู้ขึ้นอยู่ตัวลูกชายเอง การที่แหลมแพ้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะว่าอยากให้ลูกชายชนะ แต่ว่าลูกชายอายุมากแล้ว จึงอยากให้แหลมเลิกชกมวยได้แล้ว 

นางหนูรัตน์ วังเอก อายุ 57  ปี แม่ของไอ้แหลม กล่าวว่า  ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายแพ้ เพราะว่าไม่สามารถเอาเข็ดขัดมาไว้ที่ประเทศไทยได้ คิดว่าแหลมจะชนะแต่ว่าก็อาชนะไม่ได้ เพราะว่าแหลมอายุมากแล้ว ขณะที่คู่ต่อสู้เขายังหนุ่มแน่นกว่า แต่แม่ก็ภูมิใจเพราะว่า แหลมก็ทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งแม่ก็อยากให้ลูกชายหยุดชกมวยได้แล้วเพราะว่าอายุมากแล้ว/////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จ.ปราจีนบุรี| ททท.นครนายก นำคณะผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก รับผิดชอบพื้นที่นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้วประสานงานนำคณะผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต
 ในวันที่ 24  - 25 มิถุนายน 2565 เส้นทางเชื่อมโยง ณ อำเภอบ้านสร้าง - อำเภอเมืองปราจีนบุรี -อำเภอศรีมโหสถ ที่นำเสนอสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าปราจีนบุรี ทางเส้น 3481 อำเภอบ้านสร้าง 
โดยมีสถานที่ต่างๆในเส้นทาง ดังนี้ 
- กราบนมัสการหลวงพ่อขลัง พระประธานในโบสถ์ วัดใหม่โพธิ์เย็น ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง ที่ผู้คนในพื้นที่ให้ความเคารพศรัทธา และชมศาลาการเปรียญไม้หลังงาม ของวัด ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อจาด พระเกจิชื่อดัง ได้ริเริ่มสร้างขึ้น 
- วัดบางกระเบา พระอารามหลวงแห่งแรกของ จ.ปราจีนบุรี กราบนมัสการรูปเหมือนหลวงพ่อจาด คังคสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดบางกระเบา พระเกจิเรืองวิทยาคมแห่งภาคตะวันออก ในช่วงสงครามอินโดจีน ชมเรือเก๋งจีน ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานถวายหลวงพ่อ 
- เลือกช๊อปผลิตภัณฑ์แปรรูปเสื่อกก กินกุ้งแม่น้ำเผา และอาหารเมนูพื้นบ้านวัตถุดิบในพื้นที่ และล่องเรือโบราณชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำปราจีนบุรี โดย กลุ่มวิสาหกิจแปรรูปเสื่อกกบ้านบางพลวง
- ขึ้นฝั่งที่วัดแก้วพิจิตร อีกกนึ่งวัดพระอารามหลวงของ จ.ปราจีนบุรี ที่มีพระอุโบสถที่งดงาม สถาปัตยกรรม 4 เชื้อชาติ คือ ไทย จีน เขมร ยุโรป และกราบนมัสการหลวงพ่ออภัยในพระอุโบสถ
- เยี่ยมชมความงามของตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ ช๊อปผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร 
- ขอพรท้าวเวสสุวรรณที่วัดประทุมบูชา 
- เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี เรียนรู้เรื่องดินแดนทวารวดีแห่งภูมิภาคตะวันออก และชมโบราณวัตถุล้ำค่าใน จ. ปราจีนบุรี และจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออก /////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...