วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

จ.นครสวรรค์|นายกวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว เร่งช่วยเหลือประชาชนในเขตเทศบาลและสถานที่ราชการที่ถูกน้ำท่วม เป็นครั้งที่ 2

พายุฤดูร้อนตกซ้ำระบายน้ำไม่ทันในเขตเทศบาลหนองบัว นายกวันชนะ นำเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 14.50 น. มีฝนตกหนัก เป็นครั้งที่ 2  จนถึงเวลาประมาณ 15.25น.ฝนหยุดตก นายกวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ นำเจ้าหน้าที่ออกงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล ออกสำรวจทางระบายนํ้าและนำกระสอบทรายไปกั้นนํ้าเอ่อล้นบริเวณหน้าห้องสมุดประชาชนอำเภอหนองบัว เพื่อป้องกันทรัพย์สินเสียหาย 
จากการสอบถามนายกวันชนะ ชี้แจงว่า การเกิดน้ำท่วมขังเกิดจากการทำถนน 4 เลนในเขตเทศบาลหนองบัว โดยทางหลวงไม่ยินยอมให้เชื่อมท่อระบายน้ำทิ้งลงท่อระบายน้ำ ในชุมชนจำนวน 27 จุด ทำให้เกิดน้ำท่วมขังเดือดร้อนประชาชนในเขตเทศบาลเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากเข้าสู่ฤดูฝนประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่านี้

จ.ศรีสะเกษ|นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ มอบพันธุ์ผัก 10 ชนิดให้ชาวบ้านปลูกพืชผักสวนครัว

นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณมอบพันธุ์ผัก 10 ชนิดให้ชาวบ้านปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร
          
วันที่ 30 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ นายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (ศจพ.อ.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนางขวัญตา  คิดดี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นางสาวนงค์เยาว์ พรหมทา พัฒนาการอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (เลขานุการ ศจพ.อ.) นายนิคม ชาลี ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง  /เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลผือใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลผือใหญ่ ได้ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุน เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจครัวเรือนยากจนกลุ่มเป้าหมายจากระบบ TPMAP   
นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในการไปเยี่ยมเยียนครั้งนี้  ตนได้มอบเมล็ดพันธุ์ผัก จำนวน 10 ชนิด จากศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ(ศจพอ) ให้แก่ประชาชนเพื่อสนับสนุนการปลูกพืชผักสวนครัว สร้างความมั่งคงทางด้านอาหาร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างตู้เย็นในครัวเรือน โดยยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง เกิดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในตนเองและครอบครัว ยกระดับคุณภาพชีวิต จำนวน 9 ครัวเรือน  ซึ่งตกเกณฑ์รายได้ต่ำกว่า 38,000 บาท/คน/ปี และได้รับการสนับสนุนวัสดุสาธิตอาชีพ(เลี้ยงกบ)ตามโครงการขยายผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตครัวเรือนยากจนรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ. แล้ว พร้อมทั้งได้มอบผ้าอ้อมสำเร็จรูปแก่ผู้ป่วยติดเตียงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3 ราย///                                         ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|รพ.สต.เฮลั่น ขอบคุณหมอหนูอนุมัติให้โอนไปสังกัด อบจ ได้แล้ว

 รพ.สต.เฮลั่นขอบคุณหมอหนูอนุมัติให้โอนไปสังกัด อบจ.ได้แล้ว  แกนนำประกาศลั่นจะให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่เจ็บป่วยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 1 ตุลาคมเตรียมย้ายสังกัด ขณะที่ นายก อบจ.ศรีสะเกษเผย ไม่มีใครที่จะรู้ความต้องการในท้องถิ่นเท่ากับคนท้องถิ่นเอง ปัญหาเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษจะทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ถอยรถ EMS รับส่งผู้ป่วยรถใหม่ป้ายแดง จำนวน 2 คันพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาไว้ให้การบริการประชาชนชาวศรีสะเกษทันที
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมศูนย์โอท็อป อบจ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนสมาชิกของชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ (รพ.สต.) จำนวนประมาณ 80  คน นำโดย นายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ และนายพรชัย  ศรีปัตเนตร  ผอ.รพ.บ้านกุดโง้ง ตำบลโพนข่า  ได้พากันเดินทางมาพบกับ นายวิชิต  ไตรสรณกุล  นายก อบจ.ศรีสะเกษ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้ให้การสนับสนุนในการถ่ายโอนภาระกิจ รพ.สต.ไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งพากันชูป้ายข้อความว่า “ขอขอบคุณท่านอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายก รมต.และ รมว.สาธารณสุข ที่อนุมัติให้มีการตัดโอนตำแหน่ง ขรก.และ ลจ.ถ่ายโอน สอน.และ รพ.สต. จำนวน 3,366 แห่ง 21,899 อัตรา ผ่าน อกพ.กระทรวงฯ 29 เม.ย.65”  “ขอขอบคุณท่าน สาธิต  ปิตุเดชะ รมช.สธ.” “ขอขอบคุณ ปลัด สธ.และคณะกรรมการ อกพ.กระทรวงฯ” “ขอขอบคุณสำนักงบฯที่อนุมัติให้โยกเงินเดือน” “ขอขอบคุณ นพ.สสจ.ทุกจังหวัดที่เห็นชอบและอนุมัติให้ตัดโอนตำแหน่ง ขรก.และ ลจ.” พร้อมทั้งได้มีการตะโกนร้องเสียงดังก้องห้องประชุมว่า “ศรีสะเกษ ขอบคุณ”  เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายก รมต.และ รมว.สาธารณสุข และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน  ขณะเดียวกัน อบจ.ศรีสะเกษ ได้มีการส่งมอบรถ EMS รับส่งผู้ป่วยรถใหม่ป้ายแดง จำนวน 2 คันพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยครบชุด มาไว้ให้การบริการประชาชนชาวศรีสะเกษ เพื่อเตรียมรับการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.มาสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเป็นไปอย่างสดชื่นคึกคักมาก
นายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  วันนี้เราก็ได้จัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่าน นายกอบจ. ศรีสะเกษที่สนับสนุนให้มีการถ่ายโอนในวันนี้และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนให้มีการถ่ายโอน รพ.ต.ไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษตามกฎหมาย ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ และขอฝากไปถึงท่านรัฐมนตรีและท่าน สว.ที่ยังเป็นห่วงพวกเราว่า หากไปอยู่ อบจ.แล้วจะทำงานไม่ได้ วันนี้ก็ได้ยินชัดเจนจากท่าน นายกอบจ. ศรีสะเกษแล้วว่า ทางอบจ.ศรีสะเกษจะให้การสนับสนุนการทำงานของพวกเราอย่างเต็มที่เพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอกราบเรียนไปถึงทุกภาคส่วนที่ยังเป็นห่วงพวกเราว่า พวกเราจะทำงานไม่ได้นั้น ตนขอยืนยันว่าพวกตนจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และจะให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าเดิม เพราะว่าเราทำงานอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขมาระยะหนึ่งแล้ว จริง ๆก็ดีอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งในส่วนที่มาอยู่ท้องถิ่น ตนคิดว่าในเรื่องของการทำงานน่าจะตอบสนองเรื่องสุขภาพของท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

น.ส.สุภัทร ศรีสะอาด อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านประสาทเยอเหนือ อ.ไพรบึง  จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนซึ่งเป็นตัวแทนพยาบาลมีความพร้อมมากเพราะว่าการที่เราได้ย้ายไปอยู่ อบจ.มีการกำหนดตำแหน่งตัวบุคลากรได้เลย งานของเราก็จะมีบุคลากรแบ่งเป็นกลุ่มงานซึ่งจะทำให้เราได้แสดงศักยภาพหรือความสามารถของพยาบาลในการดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยได้เป็นอย่างดีและเต็มที่ ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษว่า ขอให้มั่นใจในตัวของพวกเราว่า ไม่ว่าจะสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรืออยู่ที่ อบจ.เราจะสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดีและจะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

นายวิชิต  ไตรสรณกุล  นายก อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  พวกเราเดินกันมาจนถึง ณ วันนี้ในเรื่องการถ่ายโอนรพ.สต.อุปสรรคก็มีบ้าง แต่ถ้านับถึงวันนี้ก็ค่อนข้างที่จะสำเร็จเข้าไป 90 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก แล้วพอถึงช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาเรื่องงบประมาณพอถึงเวลานั้นก็จะถึง 100% วันที่ 1 ตุลาคม ก็เตรียมมาอยู่ในสังกัดของ อบจ. ศรีสะเกษ ตนขอเรียนว่า ตาม รพ.สต.ต่าง ๆโดยเฉพาะบุคลากรที่ทำงานอยู่ใน รพ.สต ก็ล้วนคนอยู่ในพื้นที่ เพราะฉะนั้นเมื่อรพ.สต.มาอยู่ในท้องถิ่นท่านก็คงจะอยู่ในบ้านของท่านอยู่แล้ว หรือหากว่าต้องการเปลี่ยนที่ทำงานใหม่         ก็สามารถสับเปลี่ยนกันในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษได้ไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน แล้วการทำงานอย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วคือ ไม่มีใครที่จะรู้ความต้องการในท้องถิ่นเท่ากับคนท้องถิ่นเอง เพียงแต่ว่าการอยู่ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขเขารู้ว่าประชาชนต้องการอะไร รู้ว่า รพ.สต.ขาดอะไรจะทำอย่างไรที่จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจัดการเองได้ ก็จะต้องรองบประมาณจากส่วนกลาง รออนุมัติ อนุญาตจากผู้บังคับบัญชาส่วนกลาง แต่ถ้าอยู่ที่ อบจ.ศรีสะเกษ หากต้องการอะไรท่านรู้ ผมรู้ มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเงินก็ใช้เงินอยู่ที่นี่ ทำแผนปฏิบัติการการทำงานอะไรต่าง ๆ ก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด ไม่ต้องไปขอใครอยู่ใน  จ.ศรีสะเกษ ของเราเองเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็แค่เดินเข้ามาพูดคุยกันก็จบไม่ต้องมาประท้วงไม่ต้องเสียค่ารถไปที่กระทรวงเหมือนที่ทำกันอยู่ในทุกวันนี้ นั่งรถโดยสารมาก็เจอตนแล้ว นั่งสามล้อปั่นมาก็เจอตน เพราะว่าตนอยู่ที่นี่ตลอดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข เพราะว่าเราอยู่ใกล้ชิดกันรู้ว่าเป็นอย่างไรมันก็จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษของเราก็จะทำให้ง่ายขึ้น  ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษและบุคลากร  รพ.สต.ทุกคนว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เราก็ได้พูดคุยกันไปหลายครั้งแล้วทุกคนก็เข้าใจอยากจะมาสังกัด อบจ.ศรีสะเกษซึ่งในส่วนนี้คนที่ทำงานอยู่ใน รพ.สต.ก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษไม่ต้องห่วงว่าใครจะทำอะไรยังไงล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษทั้งสิ้น ไม่ต้องห่วงหรือมากังวล   เพราะว่าประชาชนชาวศรีสะเกษเลือกตนมาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 400,000 - 500,000 คะแนน ตนต้องทำงานให้พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนให้ดีที่สุดและอย่างเต็มที่อยู่แล้ว////////

 ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

จ.ปราจีนบุรี| กาชาดปราจีนบุรี ช่วยผู้ป่วยผู้ด้อยโอกาสทั้งจังหวัด

       “ กาชาดปราจีนบุรี ช่วยผู้ป่วย ผู้ด้อยโอกาสทั้งจังหวัด# ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมนายกเหล่ากาชาด และคณะ ลงพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง มอบเครื่องอุปโภค/บริโภค เยี่ยมผู้ป่วย และผู้ด้อยโอกาส ถึงบ้าน ”
      ศุกร์ที่ ๒๙ เม.ย. ๖๕  เวลา ๑๓.๓๐ น.
      นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์  ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนางมัทนา สุวัณณุสส์  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี  เดินทางมามอบเครื่องอุปโภค/บริโภค เพื่อดำเนินการตาม “โครงการวันกาชาด บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขปวงประชา เยี่ยมผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ด้อยโอกาส ในสังคม ประจำปี ๒๕๖๕” ให้แก่นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง จำนวน ๔๐ ชุด เพื่อนำไปมอบให้กับ กลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่ อำเภอบ้านสร้าง ต่อไป
      
หลังเสร็จจากพิธีส่งมอบเครื่องอุปโภค/บริโภค ให้กับนายอำเภอบ้านสร้างแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ ตำบลบางพลวง อำเภอบ้านสร้าง เพื่อเยี่ยมเยือน สร้างขวัญ ให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค/บริโภค ให้กับผู้ป่วยติดเตียง ถึงบ้านอีกด้วย 
      ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ จะได้เดินทางไปเยี่ยมเยือน สร้างขวัญ ให้กำลังใจ พร้อมมอบชุดยังชีพ ให้กับผู้ด้อยโอกาส และผู้ป่วยติดเตียง ในทุกอำเภอ ของจังหวัดปราจีนบุรี รวมจำนวนทั้งสิ้น ๕๖๓ ราย ต่อไป /////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ|ความคืบหน้าจับพระ 2 รูปเสพยาบ้า

คืบหน้าจับพระ 2 รูปเสพยาบ้าผู้ใหญ่บ้านหารือกับเจ้าคณะตำบลหาพระอื่นมาจำวัดแทนแล้ว เผยเสียใจไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากผู้นำชุมชนไม่สามารถเข้าไปดูแลภายในวัดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ 238 พิทักษ์นครลำดวน จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังหิน เข้าทำการตรวจค้นกุฏิพักสงฆ์ ภายในวัดบ้านนิคมซอย 3 หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนออกไปประมาณ 1 กม. โดยภายในกุฏิพบ พระกฤติมา บุญอุปละ อายุ 36 ปี  พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี และ นายสถาพร กาเหลา อายุ 29 ปี ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าว พระกฤติมา  เป็นผู้พักอาศัย จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้าที่เหลือจากการเสพจำนวน 1 ชิ้น อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 24 นัด  โดยพระกฤติมา   ให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตน และรับว่าเสพยาบ้าจริง  ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจค้นกุฏิพักของ พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาบ้าและรับว่าเสพยาบ้า  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กต 8551 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้ากุฏิภายในวัดที่เกิดเหตุ โดยนายสถาพร รับว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวตนเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ขับขี่เข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นปรากฏว่า  พบยาบ้า ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดปิดเลื่อนเปิดจำนวน 2 ถุง ยาบ้ารวม 314 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้แผงควบคุมกระจกบริเวณประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ ซึ่ง นายสถาพร รับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนและรับว่าเสพยาบ้าจริงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัว พระทั้ง 2 รูป ไปทำการสึก จากนั้น ได้ควบคุมตัวทิดสึกใหม่ทั้ง 2 คนและ นายสถาพร พร้อมของกลางนำไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.วังหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านนิคมซอย 3 หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ สภาพภายในวัดค่อนข้างเงียบเหงา  ไม่มีพระสงฆ์อยู่ในวัดแต่อย่างใด ส่วนกุฏิหลังเกิดเหตุ ได้ปิดประตูเอาไว้ โดยจากการสอบถาม นางสาวอุไรรัตน์ บรรลุ อายุ  38 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้วัด ซึ่งเคยใส่บาตรกับพระทั้ง 2 รูปนี้ กล่าวว่า พระทั้ง 2 องค์นี้มีลักษณะดูเป็นคนดีมาก แต่ว่าพอเกิดมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทำให้ตนรู้สึกใจหายไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมากับพระสงฆ์ในหมู่บ้านของตน 
นายประมวล อัสพงค์ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านนิคม ซอย 3  หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า ความรู้สึกส่วนตัวระดับหมู่บ้านตนรู้สึกเสียใจไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ก็มีความสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระทั้ง 2 รูป และได้เข้าไปว่ากล่าวตักเตือนแล้วบ่อยครั้ง พร้อมทั้งได้แนะนำพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปว่าหากมีวัยรุ่นเข้ามาภายในวัด ก็ขอให้แจ้งผู้นำหมู่บ้านแต่ก็เห็นเงียบไป  คิดว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนก็มีความสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมและได้ว่ากล่าวตักเตือนเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดได้เข้าไปสอบถามพระภายในวัดแต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด ตนได้แนะนำหลายเรื่องแต่ว่าพระไม่ได้ปฏิบัติตามแต่อย่างใด จึงได้เกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว

นายประมวล อัสพงค์ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านนิคม ซอย 3  กล่าวต่อไปว่า พระทั้ง 2 รูปมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ประมาณ 2 พรรษาแล้ว มาอยู่ใหม่ๆก็ปฏิบัติตัวดี เป็นพระที่มีความรู้พอสมควร แต่มาช่วงหลังได้มีการคลุกคลีกับพวกวัยรุ่นในหมู่บ้านมีการมั่วสุม มีเด็กวัยรุ่นเข้าไปเล่นด้วยเยอะ ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาแล้ว ตนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเจ้าคณะตำบลบุสูง  ซึ่งเจ้าคณะตำบลบุสูงได้แนะนำพระสงฆ์ให้มาจำพรรษาและมาดูแลวัดแห่งนี้ พร้อมทั้งปรับปรุงวัดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำตามแบบเดิมอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของยาเสพติดมีการควบคุมโดยคณะกรรมการหมู่บ้าน ซึ่งระบบระเบียบก็ยังขัดแย้งกันอยู่ระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษกับชุมชนหมู่บ้าน จริง ๆแล้วแต่ก่อนถ้าจะมีพระมาอยู่วัดในหมู่บ้าน กรรมการหมู่บ้านและกรรมการวัดมีอำนาจเต็มว่าจะให้ใครมาอยู่หรือไม่ให้อยู่ ช่วงหลังนี้กฏของสำนักงานพระพุทธศาสนาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามแนะนำว่า ไม่ให้ผู้นำหมู่บ้านเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ก็เลยเกิดปัญหาดังกล่าวนี้ขึ้นมา เป็นอำนาจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแต่พระคุณเจ้าที่มาอยู่วัดได้มาอยู่กันเอง ผู้นำชุมชนไม่สามารถเข้าไปควบคุมดูแลได้  ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา //

 
ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 


จ.นครสวรรค์| พายุฤดูร้อนถล่มพื้นที่อำเภอหนองบัว บ้านเรือนประชาชนและหน่วยงานราชการได้รับความเสียหาย

พายุฤดูร้อนถล่มพื้นที่อำเภอหนองบัว ประชาชนและหน่วยราชการได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง 
วันที่ 28 เมษายน 2565 เวลาช่วงเย็น เกิดพายุฤดูร้อนถล่มในเขตเทศบาลตำบลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้น้ำท่วมขังสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ราชการ 
เนื่องจากการสร้างถนน 4 เลน ในเขตเทศบาลตำบลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้เกิดระบายน้ำไม่ทันท่วงทีในเขตเทศบาล สร้างความเดือดร้อนไม่สามารถระบายน้ำได้ทันท่วงที แถมทำทรัพย์สินเสียหายพังพินาศ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเทศบาลตำบลหนองบัว และผู้รับเหมาและหมวดการทางอำเภอหนองบัว ออกมาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง เพราะช่วงนี้พายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

จ.ศรีสะเกษ| ผู้ว่าฯเชิญชวนเที่ยวชมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีชายแดนไทย-กัมพูชา

ผู้ว่าเชิญชวนเที่ยวชมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีชายแดนไทย -กัมพูชาด้าน อ.ภูสิงห์ เผยศรีสะเกษเป็นเมืองที่ไม่สามารถจะอธิบายยาว ๆ ได้ นอกจากอยากบอกว่าอะไร อะไรก็ดี ที่ศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65 นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วย พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา  นายประหยัด  ถิลา  วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ  นางดาลัด  หิรัญไพบูลย์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ จ.อ.สมควร  สิงห์คำ  นายอำเภอภูสิงห์ และคณะข้าราชการ ได้เดินทางมาตรวจติดตามบรรยากาศการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา  ที่บริเวณจุดชมวิวผาพญากูปรี  ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งที่จุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวพากันมาชมความสวยงามของธรรมชาติกันอย่างคึกคัก   เนื่องจากว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ รับสายลมเย็นสบายจากช่องโอโซน อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ  นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาชมจุดชมวิวแห่งนี้ต่างมีสีหน้าสดชื่นที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายเป็นการเพิ่มพลังความสดชื่นให้กับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่จะมีสายหมอกพัดผ่านเข้ามาทำให้บริเวณนี้เหมือนดินแดนในม่านหมอกที่สวยงามมาก  ซึ่งนักท่องเที่ยวพากันบันทึกภาพความสวยงามของผาพญากูปรีไว้เป็นที่ระลึก และชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหลายอำเภอได้ใช้น้ำจากลำห้วยนี้ในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 100 ปีแล้ว
นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  จุดชมวิวผาพญากูปรีก็เป็นจุดเช็คอินหนึ่งที่ได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่เป็นสายน้ำหลักของจังหวัดศรีสะเกษที่ไหลไปสู่พื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษและเป็นเชิงสัญลักษณ์หนึ่งก็คือพญากูปรีที่มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า กูปรีมีที่ป่าสุดท้ายที่จังหวัดศรีสะเกษแห่งนี้และจุดนี้เป็นจุดเชื่อมระหว่างชายแดนไทยกับกัมพูชาก็คือด่านชายแดนช่องสะงำซึ่งเชื่อมกับกัมพูชาเป็นประตูไปสู่นครวัดนครธมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ประเทศกัมพูชาระยะทางก็ไม่ไกลมากนัก อีกทั้งเรื่องของศรัทธาความเชื่อที่พี่น้องประชาชนมีต่อหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนา ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมาและพากันมาชมบรรยากาศที่มีความหลากหลายและถือโอกาสชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของจุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดที่มีอากาศบริสุทธิ์มาก นักท่องเที่ยวจะสามารถสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ปอดสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี 
นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า  ตนจึงขอเชิญชวนไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยทั่วประเทศว่า  เมื่อเป็นช่วงที่มีการเปิดประเทศเปิดชายแดน ถ้าอยากจะไปสัมผัสอารยะธรรมโบราณที่นครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา ช่องสะงำของจังหวัดศรีสะเกษก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นเส้นทางในการเดินทางไป ซึ่งอำเภอภูสิงห์ของเราก็จะมีในเรื่องความศรัทธาต่อหลวงปู่สรวง พี่น้องพุทธศาสนิกชนก็ได้พากันมากราบไหว้สักการะและได้มาชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ ก็จะได้หลากรสหลายบรรยากาศ จึงขอเชิญชวนพี่น้องนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศมาท่องเที่ยวที่จังหวัดศรีสะเกษ เมืองที่ไม่สามารถจะอธิบายยาว ๆ ได้ นอกจากอยากบอกว่าอะไร อะไรก็ดี ที่ศรีสะเกษครับ//// 

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ปราจีนบุรี|ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน

ว่าผู้ราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลุยขับเคลื่อนโครงการพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน 

วันพฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 09.30 น.อำเภอศรีมหาโพธิ Kick Off "คลองโสม น้ำใส เทิดไท้องค์ราชัน" ผู้ว่าฯ ปราจีน ลุยขับเคลื่อนโครงการ พัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย นางมัทนา สุวัณณุสส์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำจังหวัดปราจีนบุรี โดยนำคณะผู้บริหารจังหวัดปราจีนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอศรีมหาโพธิ องค์กรภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ร่วมกิจกรรม Kick off "คลองโสม น้ำใส เทิดไท้องค์ราชัน" ณ บริเวณสะพานคลองโสม ถนนสาย 3079 บ้านคลองโสม ม.8 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 
     
โดยโครงการพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำจังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของจังหวัดปราจีนบุรีที่มุ่งเน้นให้ปราจีนบุรีเป็นเมืองสะอาด สร้างจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาดพื้นที่ส่วนรวม และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของราษฎรเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะ "สืบสาน รักษา และต่อยอด" พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของพสกนิกรทั่วหล้า
     สำหรับคลองโสมนั้น เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญของอำเภอศรีมาหาโพธิ มีความยาวประมาณ 25 กิโลเมตร กว้าง 10-15 เมตร และลึกประมาณ 2-3 เมตร ไหลผ่านในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอศรีมหาโพธิก่อนจะไหลลงสู่ปราจีนบุรี จึงทำให้คลองโสมมีความสำคัญและถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจและสังคมของอำเภอศรีมหาโพธิและจังหวัดปราจีนบุรี
     ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ร่วมสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา และเยี่ยมชมสวนส้มโอของนาย นิกร ศรีศิริ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์จากปุ๋ยหมักจากผักตบชวา และได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ มากมายทุกปีด้วย/////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

จ.ศรีสะเกษ| ศิษย์หลวงพ่อสรวงวัดไพรพัฒนามอบเงิน 1 แสนบาทซื้อคอมพิวเตอร์

 ศิษย์หลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนามอบเงิน 100,000 บาทซื้อคอมพิวเตอร์ มอบให้วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงเพื่อสนับสนุนการศึกษาเด็กไทยตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วย  นางกรลักษณ์  โคอิเกะ  คหบดีจากกรุงเทพมหานคร  นางสวาท  คล้ายนิล  เจ้าของโรงโม่หินศิลานิล หมู่ 2 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี  น.ส.นิติยา  สุขหนุน  คหบดีจาก อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และคณะ ได้นำเอาผ้าไตรจีวร พานขัน 5 ขัน 8  เครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม ไปประกอบพิธีกราบไหว้สรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน เพื่อความเป็นสิริมงคลและได้กราบขอพรตามที่แต่ละคนมุ่งมาดปรารถณา พร้อมทั้งได้อาราธนานิมนต์พระสงฆ์จำนวน  10 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนา โดยมี นายสมยศ  พันธ์มา  รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวง มาร่วมพิธีและให้การต้อนรับ
นางกรลักษณ์  โคอิเกะ  คหบดีจากกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตนและคณะเป็นศิษย์ของหลวงปู่สรวงมานานหลายสิบปีแล้ว  และได้มากราบไหว้หลวงปู่สรวงเป็นประจำอยู่เสมอ พร้อมทั้งได้ช่วยในการจัดกิจกรรม   ต่าง ๆ ของวัดไพรพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสำนึกในพระคุณของหลวงปู่สรวง ที่ช่วยดลบันดาลประทานพรให้พวกตนที่เป็นลูกศิษย์ได้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง อยู่ดีมีความสุข และในโอกาสเดียวกันนี้ คณะของพวกตนคือ  นางสวาท  คล้ายนิล และ  น.ส.นิติยา  สุขหนุน  ได้ถวายเงินจำนวน 100,000 บาท แด่ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  เพื่อใช้เงินในการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ สำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการศึกษาให้กับเด็กนักศึกษาตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาต่อไป

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอ                  ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า อาตมาภาพต้องขอเจริญพรขอบคุณโยมกรลักษณ์ โยมสวาท โยมนิติยา และคณะที่ได้มาร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อคอมพิวเตอร์ให้กับทางวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาในครั้งนี้  ซึ่งขณะนี้ ทางวิทยาลัยฯยังขาดเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษา จำนวน 40 ชุด รวมทั้งค่าดำเนินการติดตั้งคอมพิวเตอร์ เป็นเงินประมาณ 1,000,000  บาท จึงขอเจริญพรเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศร่วมบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อคอมพิวเตอร์มอบให้กับวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา โดยบริจาคได้ที่  วัดไพรพัฒนา โทร 081-265 - 9154, 084-832 - 6951 และร่วมบริจาคโดยการโอนเงินเข้าที่บัญชีมูลนิธิหลวงปู่สรวง ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสขุขันธ์ เลขที่ 861-025-093-8 และบัญชีวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เลขที่ 861 047 453 4 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวง จงปกปักรักษาคุ้มครองป้องภัยให้ทุกท่านและครอบครัวจงประสพแต่ความสุขความเจริญ มีอายุ วรรณะ สุขะพละทุกท่านเทอญ ขอเจริญพร////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 










จ.ศรีสะเกษ| ชุดเคลื่อนที่เร็วบุกรวบ 2 พระยึดวัดนิคมซอย 3ร่วมกับวัยรุ่นมั่วสุมเสพขายยาบ้า

ชุดเคลื่อนที่เร็วบุกรวบ 2 พระยึดวัดนิคมซอย 3 ร่วมกับวัยรุ่นมั่วสุมเสพและขายยาบ้า  ของกลาง ยาบ้า 314 เม็ด อาวุธปืนและกระสุนปืน ผู้ต้องหา 3 ราย  
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนิคมซอย 3 หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ พร้อม สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ 238 พิทักษ์นครลำดวน จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังหิน เข้าทำการตรวจค้นกุฏิพักสงฆ์ ภายในวัดดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนออกไปประมาณ 1 กม. โดยภายในกุฏิพบ พระกฤติมา บุญอุปละ อายุ 36 ปี  พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี และ นายสถาพร กาเหลา อายุ 29 ปี ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าว พระกฤติมา  เป็นผู้พักอาศัย จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้าที่เหลือจากการเสพจำนวน 1 ชิ้น อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 24 นัด  โดยพระกฤติมา   ให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตน และรับว่าเสพยาบ้าจริง  
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจค้นกุฏิพักของ พระอติชาต พงษ์สีมา อายุ 48 ปี พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาบ้าและรับว่าเสพยาบ้า  ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค                 สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กต 8551 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้ากุฏิภายในวัดที่เกิดเหตุ โดย                นายสถาพร รับว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวตนเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ขับขี่เข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นปรากฏว่า  พบยาบ้า ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดปิดเลื่อนเปิดจำนวน 2 ถุง ยาบ้ารวม 314 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้แผงควบคุมกระจกบริเวณประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ ซึ่ง นายสถาพร รับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนและรับว่าเสพยาบ้าจริง


 นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย สืบเนื่องจาก ได้มีประชาชนในพื้นที่บ้านนิคมซอย 3 และ นิคม ซอย 4 หมู่ที่ 9 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนไปยัง นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ ผ่านทางศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษว่า ได้มีพระสงฆ์ 2 รูป ซึ่งเป็นพระมากจากต่างถิ่น คือ พระกฤติมา เป็นชาวจังหวัดลำพูน และ พระอติชาต เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดดังกล่าวเมื่อช่วงโควิดระบาดช่วงแรก 2 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นที่วัดไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ชางบ้านจึงให้อยู่ที่วัดดังกล่าว ต่อมาระยะหลังปรากฏว่า พระทั้ง 2 รูป มีพฤติการณ์เปลี่ยนไปคือไม่ออกบิณฑบาต และมักจะมีวัยรุ่นในพื้นที่ รวมทั้ง นายสถาพร                  ขับรถเข้าออกภายในวัดและมักจะได้ยินเสียงปืนออกจากภายในวัดเป็นประจำ ชาวบ้านจึงแอบดูพฤติการณ์จนกระทั่งทราบว่า พระทั้ง 2 รูป ใช้พื้นที่ภายในวัดร่วมกับวัยรุ่นในพื้นที่ใช้เป็นแหล่งมั่วสุมเสพและขายยาบ้าเป็นประจำทุกวัน จนทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัว และไม่กล้าที่จะมาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาทั้งที่เป็นวัดประจำหมู่บ้าน จึงได้ร้องเรียนไปยัง ผวจ.ศรีสะเกษ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนที่ได้รับ จึงได้สั่งการให้ตนและคณะ เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัว พระทั้ง 2 รูป ไปทำการสึก จากนั้น ได้ควบคุมตัวทิดสึกใหม่ทั้ง 2 คนและ นายสถาพร พร้อมของกลางนำไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.วังหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป//////////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...