วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

จ.นครสวรรค์|ชาวบ้านชุมชนวัดพุทธมงคลนิมิตร ร้องนักข่าว ช่วยนำเสนอให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบนำเงินคืนสู่วัด เพื่อจะนำเงินมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

ชาวบ้านชุมชนวัดพุทธมงคลนิมิตร พร้อมศิษย์ใกล้ชิดร้องนักข่าว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งติดตามเงินวัดคืน เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟวัดแล้ว 
 
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565  นาง สุนีย์  อินชู อยู่บ้านเลขที่ 144 ถนนพุทธมงคลนิมิตร ตำบลปากน้ำโพ  อำเภอเมือง  จังหวัดนครสวรรค์ และนาย ประสพสิน นาคกราย อายุ 63 ปี  เข้าร้องเรียนกับทีมงานผู้สื่อข่าวฟิล์ม 3 มิติออนไลน์ เรื่องการร้องเรียนหน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัดนครสวรรค์  เรื่องความไม่โปร่งใสเรื่องเงินภายในวัดพุทธมงคลนิมิตร  แต่เรื่องการตรวจสอบก็เงียบหาย 
   
โดยนายประสพสิน นาคกราย เล่าว่า การที่เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวเนื่องจาก ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ประชาชนติดโควิดกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนไม่มีกำลังที่จะทำบุญ ปัจจุบันทำให้ ท่านพระครูปลัดวรเมธ เตชวโล ผู้รับผิดชอบหาเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟภายในวัดพุทธมงคลนิมิตร มาเกือบ 1 ปี ไม่สามารถหาเงินจ่ายค่าใช้จ่ายภายในวัดพร้อมกับค่าน้ำค่าไฟได้เนื่องจากสถานการณ์โรคติดต่อโควิด 19 ระบาดหนัก ทำให้ญาติโยมไม่มีปัจจัยที่จะมาร่วมทำบุญค่าน้ำค่าไฟ เพราะแต่ละเดือนต้องหาเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เดือนละเกือบ 20,000 บาท 

 นายประสพสิน เล่าต่ออีกว่า สาเหตุ เนื่องจากเงินของวัดที่ญาติโยมทำบุญไว้ ทางรักษาการเจ้าอาวาสได้นำบัญชี และออกจากวัดไปนานแล้วโดยที่ยังไม่นำมาคืน เรื่องดังกล่าวก็อยู่ระหว่างการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่ เมื่อปี 2561 เรื่องความไม่โปร่งใสเรื่องเงินค่าใช้จ่ายภายในวัด จำนวนเงินนับหลายล้านบาท เรื่องผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว เรื่องก็ยังเงียบหาย 

มีแต่หน่วยงานล่าสุด ปปช จังหวัดนครสวรรค์ ทำหนังสือแจ้งมา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 แจ้งผลสรุปความผิด คือพระชั้นผู้ใหญ่ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ส่งเรื่องให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาสั่งปลดแต่เรื่องนี้เงียบหาย และไร้การตรวจสอบเรื่องเงินวัด จึงเป็นสาเหตุให้ทางวัดในช่วงสถานการณ์ covid 19 กำลังระบาด ไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ จึงเป็นเหตุต้องเรี่ยไรเงินประชาชนที่อยู่ข้างๆวัด มาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ 

 ทีมข่าวเฉพาะกิจฟิล์ม 3 มิติออนไลน์ จะมานำเสนอข่าวความคืบหน้าต่อไป

จ.ศรีสะเกษ|ไฟไหม้ร้านขายส่งสินค้าขนาดใหญ่กลางเมือง ชั้น 3 วอดทั้งชั้น

 ไฟไหม้ร้านขายส่งสินค้าขนาดใหญ่กลางเมืองชั้น 3 วอดทั้งชั้น เทศบาลนำรถดับเพลิง 5 คันและรถกระเช้ามาระดมฉีดน้ำดับไฟใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ สาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 28 ก.พ. 65  ร.ต.อ.พิชญพงศ์   แก้วสิริกาญจน์  ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า  เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านเฮงธนกิจ ตั้งอยู่เลขที่ 998/80-82 ถ.กวงเฮง ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นร้านขายส่งสินค้าขนาดใหญ่ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งประสานงานไปยังเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วยดับเพลิง จากนั้น ได้รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย  พ.ต.ท.สุรพงศ์  วรพิมพ์รัตน์ รอง ผกก.(ป.)  พ.ต.ต.ทนงศักดิ์  ยะสูงเนิน สวป. พ.ต.ต.จิรประวัติ  บุญรินทร์ สว.จร. และกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.สายตรวจและเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดจราจร ไปอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้รถดับเพลิง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 6 คันกำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้บริเวณชั้น 3 ของร้าน  ไฟได้ลุกไหม้รวดรวดเร็วมากเนื่องจากว่าชั้น 3 ที่เกิดเหตุเป็นที่เก็บสินค้าเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ จำนวนมากและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าไม่สามารถเข้าไปที่บริเวณชั้น 3 ได้เนื่องจากว่าไฟลุกไหม้แรงมาก  ต้องฉีดน้ำจากบริเวณถนนหน้าร้านขึ้นไปที่ชั้น 3 แต่ว่ายังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้  นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ซึ่งมาบัญชาการดับเพลิงด้วยตนเอง ได้สั่งการให้นำรถกระเช้าดับเพลิงมาเร่งฉีดน้ำดับเพลิงอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาประมาณ  1 ชม.เศษ จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

นายสุรกิจ   พัวไพศาล  อายุ  55 ปี  เจ้าของร้านเฮงธนกิจที่เกิดเหตุ เล่าว่า  ขณะที่ตนและครอบครัวกำลังขายส่งสินค้าให้กับลูกค้า ได้มีพนักงานของร้านวิ่งมาบอกว่า  เกิดไฟไหม้ที่ชั้น 3 ของร้าน  ซึ่งเป็นที่เก็บสินค้า ตนจึงได้ขึ้นไปดูที่เกิดเหตุและพบว่าไฟกำลังลุกไหม้  ดังนั้น จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอรถดับเพลิง  ซึ่งรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุรวดเร็วมากและเร่งฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเต็มที่ ตนต้องขอขอบคุณ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษและคณะที่มาช่วยดูแลดับเพลิงด้วยตนเอง  สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะอาจจะมีหนูไปกัดสายไฟเนื่องจากว่ามีสินค้าจำนวนมากอยู่ที่ชั้น 3 ส่วนความเสียหายครั้งนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้

นายฉัฐมงคล   อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ  กล่าวว่า  การเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ไฟลุกไหม้เร็วมาก คาดว่ามีสินค้าที่เป็นเชื้อไฟจำนวนมาก เนื่องจากว่าเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ตนจึงได้สั่งให้รถกระเช้าที่สามารถดับเพลิงตึกสูง 10 ชั้นมาทำการระดมฉีดน้ำดับเพลิงร่วมกับรถดับเพลิงอีก 5 คัน อย่างเต็มที่  จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้  ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงครั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป//

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ปราจีนบุรี | นายอำเภอบ้านสร้าง ห่วงใย ฉีดยากันเถอะครับ น้องโจฉีดเข็ม 3 แล้ว

 “ด้วยความห่วงใย” ฉีดกันเถอะครับ น้องโจฉีดเข็ม 3 แล้ว เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และคนที่เรารัก 💉💉💉
         
จันทร์ที่ 28 ก.พ. 65 เวลา 10.00 น. นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ  นายอำเภอบ้านสร้าง  พร้อมด้วย ป.อาวุโสบ้านสร้าง ลงพื้นที่วัดบ้านสร้าง เพื่อตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยบริการฉีดวัคซีน โควิด - 19 เพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เนื่องจากพบว่าอำเภอบ้านสร้าง จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ยังมีจำนวนน้อย
      
   ระหว่างนั้น... นายอำเภอบ้านสร้าง ได้พบกับ “น้องโจ” ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลบางยาง อำเภอบ้านสร้าง เข้ารับบริการฉีดวัคซีน จึงได้ทำการสอบถาม พบว่า “น้องโจ” รับบริการวัคซีน เข็มที่ 3 ซึ่งระบุว่าตนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม มาเป็นระยะเวลาครบตามเกณฑ์แล้ว จึงเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3    นายอำเภอยังได้สอบถามเพิ่มเติมว่า บุคคลในครอบครัวของน้องโจ ฉีดวัคซีนครบแล้วหรือยัง ผลปรากฏว่า ยังฉีดไม่ครบ  นายอำเภอจึงฝากน้องโจเชิญชวนบุคคลในครอบครัวเข้ารับการฉีดวัคซีน รวมถึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเพื่อนบ้าน และคนในชุมชนของน้องโจ ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ด้วย
         โดยนายอำเภอได้กล่าวทิ้งท้าย ชื่นชม “น้องโจ” ผู้เป็นแบบอย่างที่ดี มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ซึ่งนายอำเภอได้ขอให้น้องโจ เป็นอีก 1 เสียงในการช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนอื่นๆ เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเข็มที่ 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ร่วมกัน ณ วัดบ้านสร้าง ทุกวันจันทร์ และวันศุกร์
//////ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

จ.นครสวรรค์|เพิ่มศักยภาพครูตำรวจ D.A.R.Eรุ่นที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2565

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ ตำรวจภูธร ภาค  6  ดำเนินโครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ  D.A.R.E.  รุ่นที่  4  ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2565  
วันที่  28  ก.พ. 2565  -  2  มี.ค. 2565 ณ. โรงแกรนฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จง.นครสววรค์ พล ต.ต.นพดล  ศรสำราญ  รอง ผบช.ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ  D.A.R.E.  รุ่นที่  4  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565   ณ.โรงแรม
แกรนฮิลล์ แอนด์สปา จว..นครสวรรค์  ซึ่งมีการอบรม ระหว่างวันที่  28 ก.พ. 2565  -  2  มี.ค. 2565  พ.ต.ท.ธีรวีร์  แก้วฉีด  รอง ผกก.1 กก.ปปส. 4   กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ช่วยราชการฝ่ายป้องกันอาชญากรรม  กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการสัมมนาเพิ่มศักยภาพครูตำรวจ  D.A.R.E. ซึ่งมีครูตำรวจ D.A.R.E.  จากทุกสถานี ของ ตำรวจภูธร ภาค 6  จำนวน  150  นาย เข้ารับการอบรมสัมมนา
โดยการอำนวยการของ พล ต.ท.อัครเดช  พิมลศรี ผบช ภาค 6   สั่งการให้ ครูตำรวจ  D.A.R.E. เข้ารับการอบรม  พิธีเปิดการอบรม  พล.ต.ต.ระพีพงษ์  สุขไพบูลย์  ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์  ร่วมพิธีเปิดการอบรม    โครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน(D.A.R.E.ประเทศไทย )  ซึ่งเป็นโครงการลักษณะการป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด ในเด็กนักเรียนและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยง  ครูตำรวจ D.A.R.E. ที่เข้ารับการอบรมสัมมนา จะได้รับความรู้ใหม่ๆไปถ่ายทอดให้ความรู้กับเด็กนักเรียนให้เกิดประสิทธิภาพ  ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันยาเสพติดอย่างยั่งยืน ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม
วิทยากรให้ความรู้ ได้จากทีมวิทยากร  ซึ่งมีความสามารถในในการถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับการสอน D.A.R.E.ประเทศไทย

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ| ศรีมงคล คำเคน อัดฉีดมวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองละ 100,000บาท

ศรีมงคล คำเคน อัดฉีดมวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองละ100,000 บาท ตั้งเป้าอย่างน้อย3 เหรียญทองจากนักมวยแดนลำดวนสู้ศึกการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์”
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงยิมส์ โรงเรียนกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายศรีมงคล คำเคน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไนท์ตี้ไนท์ เอสเตท และบริษัทในเครือ เจ้าของโครงการ เดอะวันพลัสคอนโดมิเนียม และเดอะคิววัน (Q1) และเป็นผู้จัดการทีมมวยสากลสมัครเล่น  จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมและติดตามผลการฝึกซ้อมของนักมวยสากลสมัครเล่น  จ.ศรีสะเกษ  โดยได้พบปะพูดคุยกับสต๊าฟโค้ช นำโดย  นายวิเชียร วิชัย เลขาธิการชมรมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อรับทราบความคืบหน้าของการฝึกซ้อมมวยและพูดคุยกับนักมวยทุกคนอย่างเป็นกันเอง  ซึ่ง นายศรีมงคล    คำเคน ผู้จัดการทีม ได้มอบเงินส่วนตัวให้กับผู้ฝึกสอนและนักมวยทุกคน ๆ ละ 2,000  บาท จำนวนทั้งสิ้น 25 คน พร้อมทั้งได้มอบอาหาร เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคณะผู้ฝึกสอนและนักมวยทุกคนด้วย  ซึ่งก่อนหน้านี้  นายศรีมงคล   คำเคนได้มอบเงินสด จำนวน 200,000 บาท ให้กับประธานชมรมมวยสากลสมัครจังหวัดศรีสะเกษและคณะ ทั้งนี้เพื่อจะได้นำเอาเงินไปใช้จ่ายในการเก็บตัวเตรียมฝึกซ้อมมวย จะได้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ศรีสะเกษเกมส์ โดยมี นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว ประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่น จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย       นายจรูญศักดิ์ ปัชฌาบุตร นายก อบต.คูซอด นางสมจิตร์ รุ้งแก้ว รองประธานที่ปรึกษาชมรมกีฬามวยสากล  ให้การต้อนรับ
นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว ประธานชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 47 ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนี้  จ.ศรีสะเกษ โดยชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ  ได้ส่งนักกีฬาเข้าคัดเลือกเป็นตัวแทนเขต 3 ซึ่งปรากฏว่า มีนักกีฬาชายได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนภาค 3 จำนวน 8 รุ่นน้ำหนัก และนักกีฬาหญิงได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนภาค 3 จำนวน 8 รุ่นน้ำหนัก  ซึ่งนักกีฬาทั้ง 16 คนจะเป็นตัวแทนภาค 3 ในนาม จ.ศรีสะเกษเข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ในครั้งนี้ 

นายศรีมงคล คำเคน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไนท์ตี้ไนท์ เอสเตท และบริษัทในเครือ เจ้าของโครงการ เดอะวันพลัสคอนโดมิเนียม และเดอะคิววัน (Q1) และเป็นผู้จัดการทีมมวยสากลสมัครเล่น        จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ในวันนี้ตนได้มาติดตามการฝึกซ้อมของทีมมวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษในครั้งนี้พบว่า ผู้ฝึกสอนและนักมวยได้ซ้อมมวยกันอย่างเต็มที่และมีความสุขมาก โดยจากการที่ได้พูดคุยกับน้อง ๆ นักมวยและสต๊าฟโค้ชแล้ว ทั้งโค้ชและนักมวยได้มีการฝึกซ้อมอย่างเข้มแข็งเต็มที่ สภาพจิตใจและร่างกายดีมาก เราจึงทำมั่นใจได้ว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างน้อย 3 เหรียญทอง  ส่วนในการอัดฉีดนักมวยเพื่อเป็นกำลังใจนั้น ตนในนามชมรมมวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ จะอัดฉีดนักมวยที่ได้รับเหรียญทองเหรียญละ 100,000 บาทส่วนเหรียญเงินและเหรียญทองแดงก็จะได้รับเงินรางวัลลดหลั่นกันลงไป  ซึ่งการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้อาจจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ จ.ศรีสะเกษจะสามารถคว้าเหรียญทองจากกีฬามวยได้มากเป็นประวัติศาสตร์ก็ได้  จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนไปชมและเชียร์นักมวยและนักกีฬาทุกประเภทของ จ.ศรีสะเกษ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ศรีสะเกษเกมส์ในครั้งนี้ด้วย/// 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ|ความคืบหน้าโกงเงินผี ตร.เรียกสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะที่นายกสมาคมยันพร้อมให้ตรวจสอบไม่หนีไปไหน

ความคืบหน้าโกงเงินผี ตร.เรียกสอบปากคำผู้เสียหายขณะที่นายกสมาคมยันพร้อมให้ตรวจสอบไม่ได้หนีไปไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่ได้มีกลุ่มประชาชนที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย  จำนวนประมาณ  300 คน นำโดย  นางนุชนารถ   ใยรักษ์  อายุ  34 ปี  และ  นางสุจิตรา   สุธีร์  อายุ 50 ปี ได้พากันนำเอาโลงศพแห่มาวางไว้ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ  โดยมีการปราศรัยโจมตีการบริหารงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เนื่องจากว่าญาติของสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่ได้รับเงินฌาปนกิจศพจำนวนมากโดยยอดเงินผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 กว่าล้านบาท ต่อมา  นายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์   แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  นายบุญชวัฒน์   ปัญช์ณ์ญาแดง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ได้มาพบกับกลุ่มชาวบ้าน  และได้ขอตัวแทนชาวบ้านที่มาชุมนุมในครั้งนี้ จำนวน 10 คน เพื่อไปประชุมร่วมกับ นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่  ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการด่วนเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 65   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นางนุชนารถ   ใยรักษ์  อายุ  34 ปี  และ นางสุจิตรา   สุธีร์  อายุ 50 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้เข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับความเสียหายที่ยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวจากการที่สมาชิกของสมาคมเสียชีวิต  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียด เนื่องจากว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านทยอยมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัยอย่างต่อเนื่อง จากนั้น คณะของ นางนุชนารถ  ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 1058 หมู่ 7 ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ  เพื่อรอรับเอกสารจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนที่พากันมายื่นเอกสารอย่างต่อเนื่อง จะได้ทราบยอดจำนวนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและเงินที่จะต้องได้รับ  เพื่อจะได้ส่งเรื่องไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป                       
นางนุชนารถ   ใยรักษ์  อายุ  34 ปี แกนนำชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้  กล่าวว่า  วันนี้ สภ.อุทุมพรพิสัย ได้เรียกสมาชิกของสมาคมเข้าไปให้ปากคำเพิ่มโดยมีผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่องและมีผู้เสียหายเข้ามาส่งเอกสารเกี่ยวกับการที่ยังไม่ได้รับเงินตลอดเวลา โดยมาจากทุกอำเภอในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง ส่วนตนนั้นได้ถูกบุคคลคนหนึ่งฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ด่าหรือว่าไปว่าใครให้ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ตนพร้อมที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด  และจากการที่ได้พบกับ ผวจ.ศรีสะเกษแล้ว ตนได้เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับความเดือดร้อนของพี่น้องสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ให้ ผวจ.ศรีสะเกษได้รับทราบแล้ว โดยตนได้เสนอ ผวจ.ศรีสะเกษไปว่าขอให้ปิดสมาคมเพื่อทำการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดให้โปร่งใสก่อน และให้สมาชิกทุกคนงดจ่ายเงินจำนวน 2,080 บาทโดยขอให้สิทธิ์ของสมาชิกยังอยู่คงเดิม และขอให้ประกาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดศรีสะเกษ รายการข่าวแดนลำดวนติดต่อกัน  7 วันเพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษได้รับทราบและแจ้งให้สมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ทุกคนได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น โดยให้ตรวจสอบความโปร่งใสของสมาคมก่อนจึงให้เปิดทำการตามปกติต่อไป ซึ่งตนและคณะดีใจมากที่ ผวจ.ศรีสะเกษรับปากว่าจะช่วยเหลือดูแลตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 151 หมู่ 4 ต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้พบกับ ดร.สามัคคี   เดชกล้า นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ซึ่งกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ของสมาคมจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ อยู่ โดย ดร.สามัคคี ได้นำเอาเอกสารเกี่ยวกับระบบการเตรียมจ่ายเงินสงเคราะห์ให้กับครอบครัวของเสียชีวิตได้รับทราบ  มีการจัดเตรียมเอกสารไว้อย่างครบถ้วนเพื่อรอการตรวจสอบจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ดร.สามัคคี   เดชกล้า นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากแผนประมาณการจ่ายเงินคงค้างจ่ายสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิกที่เสียชีวิตในปี 2563 และ 2564  สมาคมฯ จะยังคงมีเงินสภาพคล่องในการจ่ายค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ที่เสียชีวิตที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคตอย่างมีความมั่นคงต่อไปได้  โดยทางสมาคมได้มีการวางแผนการจ่ายเงินให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ละเดือนและแต่ละปีไว้อย่างชัดเจน ในวันนี้หากไม่มีการก่อกระแสของสมาชิกบางคนทำให้เกิดความวุ่นวายเงินก็จะจ่ายเข้ารอบตามปกติ คือตามที่นัดกันไว้ระยะเวลา 6 เดือนเสียชีวิตเดือนมิถุนายน 64 เงินเข้าเดือนมกราคม 2565 ก็เอามาจ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต พอเดือนกรกฎาคมเงินเข้า เดือนกุมภาพันธ์ก็เอามาจ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต เดือนสิงหาเงินเข้าเดือนมิถุนายนก็เอามาจ่ายซึ่งเป็นไปตามรอบ ส่วนเรื่องการตรวจสอบบัญชีนั้น ขณะนี้ตนได้เตรียมเอกสารต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วโดยตนทำแล้วเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 3 วันมีหลายคนบอกว่า3 วันจะทำให้เสร็จ แต่ตนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมให้ตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.2565 เพื่อส่งให้นายทะเบียนท้องที่และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษเรียบร้อย ตนรอเพียงให้คนมาตรวจสอบเท่านั้นบนห้องประชุมข้างบน ตนได้จัดเตรียมเอกสารวางเรียงไว้ เป็นกอง ๆ จำนวนมากเพื่อไว้ให้ตรวจสอบ ตนยังไม่หนีไปไหนมีคนบอกว่าตนเอาเงินไปตรงนั้นตรงนี้ ตนไม่ได้หนีไปไหนยังอยู่ที่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหน ตนขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ยังให้ความไว้วางใจซึ่งในวันนี้ก็มีคนมาจ่ายเงินและขอรับเงินโดยเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี ตนก็ได้ให้เจ้าหน้าที่รับเงินเอาไว้ เพราะว่า สมาชิกเดินทางมาไกลมาก ตนขอยืนยันว่า คณะกรรมการดำเนินงานสมาคมฯ ดำเนินงานภายใต้กฎหมาย ข้อระเบียบ ประกาศ และมติที่ประชุมใหญ่โดยเคร่งครัด และบริหารกิจการของสมาคมฯด้วยความเสียสละ และโปร่งใสมาโดยตลอด  หากสิ่งใดไม่ถูกต้องตามระเบียบก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป//////// 

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

เร่งเครื่องพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองกลไกขับเคลื่อนทั่วไทย

เร่งเครื่องพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองวางกลไกขับเคลื่อนทั่วไทยตั้งเป้าพัฒนาเกษตรเมืองเพิ่มพื้นที่สีเขียวตอบโจทย์เศรษฐกิจชุมชนยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
วันนี้ (25 ก.พ.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Sustainable Urban Agriculture Development Project : SUAD Project) เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินงานโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองระดับเขต และระดับจังหวัด ทั่วประเทศผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ zoom cloud meeting พร้อมด้วย นายอภัย สุทธิสังข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ตรวจราชการประจำเขตตรวจราชการทุกท่าน และเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม โดยมี นายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน (กนท.) สป.กษ. เป็นเลขานุการการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ระดับเขต และระดับจังหวัด 
โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเล็งเห็นความสำคัญการแก้ไขปัญหาภาวะความไม่มั่นคงทางอาหารในเมือง เนื่องจากในปี2562 ประเทศไทยมีประชากรในเมืองมากกว่าในชนบทเป็นครั้งแรกสะท้อนถึงการขยายตัวของเมือง(Urbanization)และชุมชนเมืองมีการผลิตอาหารได้เองไม่ถึง10% เป็นเหตุผลสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในยุคปัจจุบันต้องเร่งขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรในเมือง(Urban Agriculture )โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด19และยุคต่อไป(Next normal)ที่ต้องให้ความสำคัญระบบนิเวศน์เมืองเรื่องสุขภาพคนและคุณภาพเมือง 
จึงต้องขับเคลื่อนเกษตรในเมืองควบคู่กับเกษตรในชนบทจึงได้มอบนโยบายให้ดำเนินการโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ มีวัตถุประสงค์ 6 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง 2. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว 3. การลด PM 2.5 และลดก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) 4. การเพิ่มคุณภาพอากาศ 5. การอัพเกรดคุณภาพชีวิตของประชาชน 6. การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ ในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ(Climate Change) ของโลก
 นอกจากนี้คณะอนุกรรมการระดับเขตและจังหวัดยังรับผิดชอบการขับเคลื่อนโครงการธนาคารสีเขียว (Green Bank) เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามแนวทางเกษตรกรรมยั่งยืนโดยการปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นทรัพย์สินและหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งยังนำมาคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิตเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกควบคู่ไปด้วยตามเป้าหมายCarbon Neutrality และ Carbon Zeroของประเทศไทยเพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นแรงจูงใจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีกทางหนึ่ง
  นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า การบริหารโครงการเชิงโครงสร้างครอบคลุมทั้งประเทศมีกลไกคณะกรรมการระดับพื้นที่แล้วยังมีคณะกรรมการระดับคลัสเตอร์ด้วยได้แก่
(1) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองทั้งในพื้นที่ที่วัด (Green Temple)
(2) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่วิทยาลัย (Green College)
(3) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่โรงเรียน (Green School)
(4) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่มหาวิทยาลัย (Green Campus)
(5) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองระดับชุมชนและท้องถิ่น (Green Community)
(6) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่อาคารชุด (Green Condo)
(7) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นการเคหะแห่งชาติ (Green Housing ) 
(8) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ในพื้นที่อุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม (Green Industry) 
(9) คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ในพื้นที่โรงแรม (Green Hotel)
(10)คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
(Green Bangkok)
  สำหรับเกษตรกรรมยั่งยืนมี5สาขาได้แก่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน วนเกษตรและเกษตรธรรมชาติ
 “ในเขตเมืองของแต่ละจังหวัดสามารถจัดทำสวนเกษตรในบ้านในชุมชนหรือพื้นที่สาธารณะแบบสวนขนาดเล็ก(Pocket Garden)เช่นสวนครัว สวนสมุนไพร สวนผัก หรือในพื้นที่สาธารณะต่างๆหรือการสร้างสวนป่าขนาดเล็ก(Pocket Forest)แนววนเกษตรเช่นในกรุงโตเกียวในมหานครลอนดอนและในสิงคโปร์ก็ทำสวนป่าสีเขียวในป่าคอนกรีต รวมทั้งต้องมีตลาดเกษตรในเมือง(Farmer Market)เพื่อจำหน่ายผลผลิตเกษตรในชุมชนเมืองด้วยเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจพร้อมกับยกระดับคุณภาพเมืองคุณภาพขีวิตของประชาชน”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด.

จ.นครสวรรค์| นายกวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ประจำปี 2565

นายกวันชนะ เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ประจำปี 2565
  วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.30 น. นายวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ ประจำปีงบประมาณ 2565
 โดยมีนายชฎากร วารินสะอาด ปลัดเทศบาลตำบลหนองบัว ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ในนามเทศบาลตำบลหนองบัว ขอขอบคุณนายวิฑูรย์ งามนิธิจารุเมธี ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองบัว คณะครูอาจารย์ ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งก่อนเข้าร่วมกิจกรรมได้มีการตรวจ ATK เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลเป็นลบทุกราย

จ.ปราจีนบุรี| สดุดีพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย พิธีวางพานพุ่มสักการะพระรูปพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นทิพยาลงกร

สดุดีพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย
พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระรูปพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์
เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2565

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.30 น.นายสมควร พานิชสงเคราะห์ สหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมวางพานพุ่มถวายสักการะ กล่าวคำสดุดีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” และอ่านสารนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา) เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมี บุคลากรของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี ผู้แทนสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ปราจีนบุรี และผู้แทนขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดปราจีนบุรี เข้าร่วมพิธี
ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วย
พิธีวางพานพุ่ม ถวายสักการะพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ 
พิธีมอบเกียรติบัตรการประเมินมาตรฐานสหกรณ์ประจำปี 2564    
และการมอบเงินบริจาคแก่ ศูนย์สงเคราะห์คามิลเลียน โซเชียลเซ็นเตอร์ ปราจีนบุรี จำนวน 51,000.- บาท เพื่อนำไปใช้กิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่อไป
ณ ห้องประชุม สหกรณ์การเกษตรเมืองปราจีนบุรี  ตำบลไม้เค็ด  อำเภอเมือง  จังหวัดปราจีนบุรี 
ซึ่งความสำคัญของวันสหกรณ์แห่งชาติ วันที่  26 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่ชาวสหกรณ์ทั่วประเทศ รวมทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีรวมใจกันน้อมรำลึกถึง พระกรุณาธิคุณของพระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ที่ทรงริเริ่มทดลองจัดตั้งสหกรณ์วัดจันทร์ ไม่จำกัดสินใช้ ขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2459 และทรงส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ขยายอุดมการณ์สหกรณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ ไปทั่วประเทศ เป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศสืบมา จนบัดนี้นับเป็นเวลา 106 ปี
ข่าว/อลงกรณ์  คุณกิตติมานนท์
ปราจีนบุรี
0878789225

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

จ.ศรีสะเกษ| เด็ก นร.ไทยการโควิดแห่ไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์

 เด็ก น.ร.ไทยต้านโควิดแห่ไปเข้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์แม้ว่าจะตื่นเต้นและกลัวเจ็บ  ขณะที่ สสจ.ศรีสะเกษเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเด็กนักเรียนประถมศึกษาทั้งสถานศึกษาภาครัฐและเอกชน      
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ ได้มีเด็ก น.ร. ร.ร.มารีวิทยา อ.เมืองศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นสถานศึกษาของเอกชน จำนวนประมาณ 200 คน  ได้พากันวอร์คอิน มาเข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยมีหน่วยบริการเคลื่อนที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ภายใน  โดยเด็ก น.ร.ที่รับการฉีดวัคซีนทุกคน ต้องมีใบอนุญาตจากผู้ปกครองมาแสดงด้วย ซึ่งเด็ก น.ร.ส่วนใหญ่ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จะเรียนอยู่ระดับชั้น ป. 5 – ป.6  อายุระหว่าง 10 - 12 ปี  
จากการสอบถามความรู้สึกของเด็ก น.ร.ต่างพากันบอกว่า รู้สึกตื่นเต้นและกลัวเจ็บ  แต่เมื่อมาฉีดวัคซีนจริงกลับตรงกันข้าม คือ แทบไม่รู้สึกเจ็บเลย หรือบางคนก็เจ็บนิดเดียว  เมื่อถามว่ากลัวเชื้อโรคโควิด 19  หรือป่าว  น.ร.ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ากลัวมาก เพราะเมื่อติดเชื้อโรคโควิด-19 แล้ว จะลุกลามถึงปอดทำให้เสียชีวิตได้ จึงได้พากันมาฉีดวัคซีนป้องกันไว้ดีกว่า             

ทางด้าน นพ.ทนง  วีระแสงพงษ์  นพ.สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า  หากทางสถานศึกษาใดมีความประสงค์จะให้สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษจัดเจ้าหน้าที่ออกไปให้บริการฉีดวัคซีนถึงสถานศึกษานั้น   สามารถประสานมายังสาธารณสุขจังหวัดได้  แต่ต้องมีจำนวนเด็กนักเรียนมากกว่า 200 คนขึ้นไป และจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย จึงจะสามารถฉีดวัคซีนให้ได้//

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|สมาชิกฌาปนกิจแห่โลงบุกศาลากลางร้องผู้ว่าฯ โดนอมเงินผีกว่า 300 ล้านบาท

สมาชิกฌาปนกิจแห่โลงบุกศาลากลางร้องผู้ว่าโดนอมเงินผีกว่า 300 ล้านบาท ขณะที่ ผวจ.  ศรีสะเกษสั่งการด่วนเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มประชาชนที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย  จำนวนประมาณ  300 คน นำโดย  นางนุชนารถ   ใยรักษ์  อายุ  34 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 10  ต.แขม  อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และนางสุจิตรา   สุธีร์  อายุ 50 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 2 ต.อีหล่ำ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้พากันนำเอาโลงศพแห่มาวางไว้ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ  โดยมีการปราศรัยโจมตีการบริหารงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เนื่องจากว่าญาติของสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่ได้รับเงินฌาปนกิจศพจำนวนมาก ต่อมา  นายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์   แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  นายบุญชวัฒน์   ปัญช์ณ์ญาแดง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ได้มาพบกับกลุ่มชาวบ้าน  และได้ขอตัวแทนชาวบ้านที่มาชุมนุมในครั้งนี้ จำนวน 10 คน เพื่อไปประชุมร่วมกับ นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่  โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1.30 น. จึงเสร็จสิ้น
นางนุชนารถ   ใยรักษ์  อายุ  34 ปี แกนนำชาวบ้านที่มาชุมนุมในครั้งนี้ กล่าวว่า พวกตนต้องการให้พ่อเมืองของเราช่วยเหลือประชาชนสมาชิกฌาปนกิจที่เดือดร้อน ต้องการทราบว่าเงินที่จ่ายมาให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยมันหายไปไหน เป็นผลทำให้ไม่มีเงินจ่ายสมาชิกที่เสียชีวิต แล้วต้องไปเก็บเงินเพิ่มจากสมาชิก 45,0000 คน คนละ 2,080 บาท เพื่อนำเอามาจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิต   มันเป็นได้ยังไง  พวกตนจึงมาหาผู้ว่าฯเพื่อขอให้ช่วย   โดยยอดเงินผู้เสียชีวิตที่ยังไม่จ่ายขณะนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 300 กว่าล้านบาท ผู้เสียชีวิตปี 64  จำนวน 915 คน ได้ค้างจ่ายสมาชิกที่เสียชีวิตปี 63 อีก 200 กว่าคน รวมแล้วเป็นยอดผู้เสียชีวิตจำนวนกว่า  1,000  ราย และสมาชิกที่ต้องเก็บเงินเพิ่มอีก 2,080 บาทอีก 45,000 กว่าคน เพื่อที่จะนำเอามาจ่ายผู้เสียชีวิต มันเป็นไปได้ยังไงที่เก็บเงินปี 65 เพื่อนำเอาไปจ่ายผู้ที่เสียชีวิตปี 63  มันเป็นไปไม่ได้ทั้งที่เงินเข้าสมาคมฯ ปีละกว่า 400 ล้านบาท ตรงนี้จึงขอให้ท่านผู้ว่าฯช่วยเหลือพวกตนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก  เมื่อเราขอให้สมาคมนำเอาสเตทเม้นท์มาให้สมาชิกได้ดู ก็ไม่ยอมนำเอามาให้ดู บอกว่ามีแต่รายจ่ายแล้วยังบอกว่าติดลบปี 64 จำนวน 3,000,000 กว่าบาท  มีเงินสดในบัญชีของสมาคมเพียง 40,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง และมีเงินอยู่ในบัญชีต่างๆอีกประมาณ 5,000,000 บาทแต่ตนไม่รู้ว่าจริงเท็จเพียงใดที่เรารู้ก็คือสเตทเม้นท์ บัญชีธนาคารของสมาคมจะไม่มีให้สมาชิกได้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์   แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ ตนจะได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบที่เกิดเหตุ ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทุกคน เพื่อที่จะได้ข้อเท็จจริงในการดำเนินการตามกฎหมาย  โดยจะให้พนักงานสอบสวนเริ่มทำการสอบปากคำผู้เสียหายที่ สภ.อุทุมพรพิสัย เป็นจุดแรก จากนั้นจึงจะไปสอบปากคำผู้เสียหายที่อำเภออื่น ๆ ต่อไป 

นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนรับทราบเรื่องนี้แล้วและไม่ได้นิ่งนอนใจ  ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนได้ติดตามเร่งรัดติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง  แต่เนื่องจากว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับการตรวจสอบระบบบัญชีของสมาคมทั้งหมด ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรื่องนี้ตนจะให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่อย่างเต็มที่///////

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ศรีสะเกษ| รมว ท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมใช้กีฬาฟื้นฟูเศรษฐกิจ กำชับ 8 หน่วยงานบูรณาการ

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมใช้กีฬาฟื้นฟูเศรษฐกิจ  กำชับ 8 หน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงแรมศรีลำดวน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายสันติ  ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางไปเป็นประธานในการประชุมการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2565 รอบที่ 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตตรวจราชการที่ 10, 11, 12, 13 และ 14 นี้   ซึ่ง น.ส.รุจาภา   วีสเพ็ญ  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น  โดยมีหน่วยงานจำนวน8 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา สถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานจังหวัด สำนักงานพื้นที่พิเศษ (อพท.) มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขต ร.ร.กีฬาจังหวัด และสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค/จังหวัด มาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
น.ส.รุจาภา   วีสเพ็ญ  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า  ในการประชุมผู้ตรวจราชการในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุมโครงการอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาซึ่งท่านผู้ตรวจราชการก็ได้มีดำริว่าต้องการตรวจราชการให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 20 จังหวัด ทั้งนี้เพื่อดูตามมาตรฐานว่า ในการดำเนินงานที่ผ่านมาเกือบ 6 เดือนนี้มีปัญหาในการปฏิบัติราชการยังไงบ้าง เราจะได้มาคุยกันเพื่อจะได้นำเอาปัญหาอุปสรรคนั้นไปแก้ไขเพื่อปรับปรุงพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป
นายสันติ  ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การตรวจราชการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเรามีแผนการตรวจราชการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 ที่ตนในนามของหัวหน้าผู้ตรวจราชการมาในนามของท่าน รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การตรวจราชการครั้งนี้เป็นการนำเอานโยบายของท่าน รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงมาสู่พื้นที่ให้ทุกหน่วยในพื้นที่ซึ่งในเขตอีสานนี้มี 20 จังหวัดสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรามี 8 หน่วยงาน ซึ่งในการมาตรวจราชการครั้งนี้เป็นการมอบนโยบายในการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ  โดยท่านรัฐมนตรีได้เน้นย้ำอย่างที่สุดว่าการทำงานไม่ว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ถ้าหน่วยงานในพื้นที่ไม่เกิดการบูรณาการ การขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งท่านรัฐมนตรีได้ฝากกำชับมาในเรื่องของการขับเคลื่อนของการท่องเที่ยว  จะต้องทำให้แหล่งท่องเที่ยวนั้นสะอาด ปลอดภัย เป็นธรรมยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายด้านการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องกีฬานั้นท่านรัฐมนตรีเน้นฝากว่า ทำยังไงจะทำให้กีฬาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำยังไงให้กีฬาเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว จะทำยังไงที่จะทำให้การจัดการการกีฬาเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมีรายได้มีการประเมินด้านเศรษฐกิจและรายได้ เข้าพักค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ นี่เป็นนโยบายของท่านรัฐมนตรีที่ให้มาขับเคลื่อนในครั้งนี้ ตนในนามของหัวหน้าผู้ตรวจราชการจะได้นำสิ่งต่างๆเหล่านี้มาสื่อสารให้ตั้ง 8 หน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มาเข้าร่วมประชุมในวันนี้ได้นำไปปฏิบัติ และรวมถึงมารับฟังข้อเสนอแนะความคิดเห็นโครงการต่างๆที่ลงมาสู่พื้นที่ บางโครงการอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากติดปัญหาอุปสรรคโควิดต่างๆ เพื่อจะได้นำปัญหาไปเสนอท่านรัฐมนตรีและผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับทราบว่า เราจะหาทางแก้ไขจะหาทางเยียวยาหน่วยงานต่างๆของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างไร การตรวจราชการในครั้งนี้หน่วยงานต่างๆจะได้นำเอานโยบายของท่านรัฐมนตรีและนโยบายของท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปขับเคลื่อนต่อไป////////

 ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

นครสวรรค์| ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์วันแม่

ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโก จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสายสัมพันธ์วันแม่ วันที่ 9  ส.ค.2567 ชมรมข้าราชการบำนาญอำเภอท่าตะโกได้จัดกิจ...