จ.ศรีสะเกษ| รมว.คลังเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษประชาคมอาเซียน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

 รมว.คลังเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษสู่ประชาคมอาเซียน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรม (ถนนคนเดินมารี – หนองแคน)   อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 7 ขึ้น  ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้  สภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้จัดงานนี้ขึ้น  ภายในงานมีกิจกรรม  ประกอบด้วย การแสดงวงดนตรีพื้นบ้านจากสถานศึกษา การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสภาวัฒนธรรมอำเภอ เครือข่ายวัฒนธรรม  การสาธิตแสดงศิลปวัฒนธรรมอาเซียนจากสถาบันการศึกษา สถานศึกษา  การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น  การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนจากเครือข่ายวัฒนธรรม  โดยมี นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ ในนามคณะกรรมการจัดงาน เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต นายนพ   พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  นายประหยัด  ถิลา  วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน มาร่วมพิธีและให้การต้อนรับ

นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักในคุณค่าความสำคัญของศิลปวัฒนธรรม 4 เผ่า จ.ศรีสะเกษ ร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน สร้างสรรค์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ตลอดจนสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง ซึ่งดำเนินการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว ผลจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการนำทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์ ให้เกิดการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีการขยายเครือข่ายจัดงานในระดับอำเภอเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมให้ครอบคลุมพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน จ.ศรีสะเกษ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาว จ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างยิ่ง

นายวิทยา วิรารัตน์  กล่าวต่อไปว่า  สำหรับในปีนี้ กำหนดจัดงาน จำนวน 8 ครั้ง ช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 โดยกำหนดจัดงานในพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ  4 ครั้ง ในวันเสาร์ที่ 15, 22, 29  ม.ค. 2565 และ 5 ก.พ. 2565 ณ บริเวณถนนสายวัฒนธรรม (ถนนคนเดินมารี - หนองแคน)  กำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่ตลาดวัฒนธรรมอำเภออื่น 4 ครั้ง ได้แก่ วันจันทร์ที่ 14 ก.พ.2565 ณ ศูนย์หัตถวิถีมณีวิภา อ.กันทรลักษ์ วันเสาร์ที่ 12  ก.พ.2565 ณ ตลาดวัฒนธรรม อ.ศรีรัตนะ วันเสาร์ที่  19  ก.พ.2565  ณ ตลาดวัฒนธรรมวัดไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์ และวันพุธที่  23  ก.พ.2565 ณ ตลาดวัฒนธรรม  อ.กันทรารมย์  จึงขอเชิญชวนประชาชน                                    ชาวศรีสะเกษไปร่วมกิจกรรมตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวข้างต้นด้วย//// 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|หัตถวิถีมณีวิภาศูนย์จำหน่ายสินค้าโอท็อปขนาดใหญ่ชายแดนไทย กัมพูชา

 หัตถวิถีมณีวิภาศูนย์จำหน่ายสินค้าโอท็อปขนาดใหญ่ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์เรียนรู้หัตถวิถีมณีวิภา เลขที่ 188 ต.หนองหญ้าลาด   อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธาน   ในพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้ "หัตถวิถีมณีวิภา" ซึ่ง นพ.อดุลย์   โบจรัส ผอ.รพ.กันทรารมย์ และ นางมลวิภา  โบจรัส ประธานสภาวัฒนธรรม อ.กันทรลักษ์ ได้สร้างศูนย์ขนาดใหญ่ขึ้นมาบนเนื้อที่ 8 ไร่ เป็นเส้นทางไปสู่ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร  วัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ รวมทั้งกลุ่มที่ผลิตสินค้าต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ให้มีสถานที่ในการจำหน่ายสินค้า และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ โดยภายในศูนย์มีแหล่งผลิตผ้าไหม การสาธิตการทอผ้าไหม การแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 เผ่า ร้านกาแฟมุมสบายรสชาติเข้มข้น การจำหน่ายสินค้าปลอดสารพิษ อีกทั้งเพื่อเป็นสถานที่ในการดำเนินงานของสภาวัฒนธรรม อ.กันทรลักษ์ ตลอดจนเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนศิลปะ วัฒนธรรม กับประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมี นางมลวิภา  โบจรัส ประธานสภาวัฒนธรรม อ.กันทรลักษ์  เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิชิต  ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ นายปราจิต   แก้วลา นายอำเภอกันทรารมย์                                      นายวิทยา   วิรารัตน์  ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ  และ นางอุดมลักษณ์  เพ็งนรพัฒน์  เป็นตัวแทนของ นพ.จาตุรงค์   เพ็งนรพัฒน์  ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 พรรคเพื่อไทย นำคณะข้าราชการ พ่อค้า  ประชาชนทั่วไป มาร่วมพิธีในครั้งนี้

นางมลวิภา  โบจรัส ประธานสภาวัฒนธรรม อ.กันทรลักษ์  กล่าวว่า  ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมของสินค้าโอท๊อป และสินค้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เป็นการแลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่เป็น AEC ที่นี่จะเป็น AEC ของแต่ละท้องถิ่น และกัมพูชาซึ่งมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยเราในขณะนี้ รวมทั้งจะใช้ศูนย์นี้เป็นสถานที่ขับเคลื่อนทางด้านประเพณีวัฒนธรรมต่างๆและอัตลักษณ์ศิลปหัตถกรรมที่จะนำเอามาบูรณาการให้สอดคล้องกัน โดยจะนำมาปรับใช้ในรูปของด้านเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้หัตถวิถีมณีวิภาแห่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวอำเภอกันทรลักษ์และชาวจังหวัดศรีสะเกษอย่างแน่นอน อย่างแรกก็คือการเพิ่มช่องทางด้านการตลาด นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์อย่างต่ำ  5 - 600,000 คนทุกปีก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเหล่านี้จะได้เข้ามาท่องเที่ยวชมที่ศูนย์แห่งนี้ จะได้รู้ว่าในพื้นที่ของอำเภอกันทรลักษ์หรือจังหวัดศรีสะเกษ เรามีหัตถะหรือหัตถสินค้านี้มีประเภทไหนบ้าง จะได้รู้ว่าสินค้าหัตถะที่ทำด้วยมือใส่หัวใจลงไปในผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นมาแต่ละชิ้นงานนั้น มีคุณค่างดงามคุ้มค่าเกินราคามากเพียงใด  และขณะนี้สินค้าประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก/////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.เพชรบุรี | อลงกรณ์ หนุนประมงพื้นบ้านเพชรบุรีพัฒนาท่าเทียบเรือ ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น

‘อลงกรณ์’ หนุนประมงพื้นบ้านเพชรบุรีพัฒนาท่าเทียบเรือ ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น รวมกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม

          

วันที่ 29 ม.ค. 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน คลองบางอินทร์ ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัดเพชรบุรี นายสมพงษ์ เพชรนาค ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเพชรบุรี นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อรับฟังปัญหาของชาวประมงในพื้นที่และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้านคลองบางอินทร์ พื้นที่หมู่ที่ 8 ทั้งนี้

 ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ได้ให้คำแนะนำกับชาวประมงพื้นบ้านในการรวมกลุ่มและจัดตั้งเป็นกลุ่มองค์กรประมงชุมชนท้องถิ่น เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มส่งออกทั้งในและต่างประเทศให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านให้มีความมั่นคง และยั่งยืนต่อไป.

จ.ศรีสะเกษ |วัดป่าพิมลมังคลารามปลูกต้นลำดวนและดอกคอสมอสเพื่อให้วัดเป็นรมณียสถานสะอาด

วัดป่าพิมลมังคลารามปลูกต้นลำดวนและดอกคอสมอสเพื่อให้วัดเป็นรมณียสถานสะอาดสวยงาม เหมาะกับการปฏิบัติธรรม

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าพิมลมังคลาราม ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายธานนท์   โสภิตชา ผอ.สำนักงาน    ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ  น.ส.พรนภา  ชาชุมพร  ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีปลูกต้นลำดวน อายุต้นลำดวนต้นละประมาณ 30  ปี จำนวน 40 ต้น  ซึ่งเจ้าคุณพระศรีญาณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำมิชิแกน สหรัฐอเมริกา และเจ้าอาวาสวัดป่าพิมลมังคลาราม ได้ขอบิณฑบาตมาจาก ผอ .สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ศรีสะเกษ  และได้เคลื่อนย้ายต้นลำดวนนำเอามาปลูกภายในบริเวณวัดแห่งนี้  เพื่อให้เกิดความร่มรื่นสวยงาม โดยบริเวณใกล้เคียงกันนี้มีการปลูกต้นคอสมอสกระจายเป็นบริเวณกว้างและกำลังออกดอกอย่างสวยงามตระการตา ทางวัดมีการจัดภูมิทัศน์รอบบริเวณอย่างสวยงามมาก  มีประชาชนชาวศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวทั่วไป พากันเข้ามาชมความสวยงามของสวนดอกไม้ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น คณะของ นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางด้วยรถ จยย.พ่วงข้าง ซึ่งมีการตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม ไปที่บ้านโนนแดงโนนม่วง เพื่อประกอบพิธีเปิดถนน “INEC ชุมชนสัมพันธ์วิถีวัฒนธรรมบ้านโนนแดงโนนม่วง” เพื่อส่งเสริม สืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่งเสริมความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์  และได้เดินทางไปเปิดถนนภายในหมู่บ้านโนนแดงโนนม่วง ซึ่ง นายพัชกร   จันทำ  ประธานบริษัท พี.เจ คอนสตรัคชั่น จำกัด  ได้บริจาคเงิน จำนวน 1,000,000 บาท จัดสร้างถนนแบบแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ระยะทางรอบหมู่บ้านยาวประมาณ 2 กม.ติดตั้งไฟโซล่าเซลล์ เพื่อส่องสว่างตลอดเส้นทางเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนชาวบ้านโนนแดงโนนม่วง โดยมี นายสว่าง  ดวงอาจ  นายก อบต.ทุ่งไชย นายนิรุตย์   เกษกุล  นายกเทศมนตรี ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย  นายรักชาติ  ฤทธิ์เดช  นายก อบต.บุสูง อ.วังหิน และนายมหาหิงค์  ไพรสิน นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง นำคณะข้าราชการ ประชาชนบ้านโนนแดงโนนม่วง มาร่วมพิธีและให้การต้อนรับ

เจ้าคุณพระศรีญาณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำมิชิแกน สหรัฐอเมริกา และเจ้าอาวาสวัดป่าพิมลมังคลาราม กล่าวว่า  กุศโลบายของการปลูกดอกไม้ภายในวัดป่าพิมลมังคลารามก็คือว่า เราต้องทำวัดให้เป็น        รมณียสถานก่อนคือทำให้วัดเป็นที่เหมาะสมสวยงามและเป็นที่น่าสนใจของคนอื่นหมายถึงว่าวัดต้องดูแลความสะอาดเรียบร้อยสวยงามให้คนที่อยู่วัดก่อน ส่วนญาติโยมที่จะมาดูหรือไม่มาดูก็เป็นเรื่องอีกส่วนหนึ่งต้องทำให้วัดของเราสะอาดดูดี การปลูกดอกไม้เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนเบื้องต้นก็คือชาวบ้านที่จะพากันมาลงแขกปลูกต้นไม้ในส่วนของราชการตั้งแต่ อบต.อำเภอรวมทั้งรอง ผวจ.ศรีสะเกษ และ ผวจ.ศรีสะเกษ ก็ได้ให้ความสำคัญในการที่จะมาช่วยดูแลให้ ซึ่งดอกไม้ที่ปลูกในขณะนี้ก็คือคอสมอสและดอกทานตะวัน ซึ่งในวันนี้ท่านรอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มาปลูกต้นลำดวนจำนวนประมาณ 40 ต้น ต้นใหญ่แล้วอายุประมาณ 30 ปี โดยทาง สวท.ศรีสะเกษได้ถวายวัด โดยที่ตั้งของ สวท.เก่าจะมอบคืนให้กับทางมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ  อาตมาภาพจึงได้ขอบิณฑบาตต้นลำดวนเอาไว้ เดือนเมษายนนี้คาดว่าดอกลำดวนที่นำมาปลูกจะออกดอกหอมเต็มทั้งวัด ต่อไปก็จะมีดอกอินทนิลส่วนบริเวณแก้มลิงแห่งนี้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก โดย รอง ผวจ.ศรีสะเกษได้เสนอแนวทางว่าให้ทำเป็นรมณียสถาน โดยการปลูกไม้ดอก อาจจะเป็นดอกอินทนิลหรือดอกคูนเป็นต้น ซึ่งจะต้องมาดีไซน์กันอีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญต้องให้ทำเป็นที่สวยงามก่อน เพื่อเป็นจุดเช็คอิน จากนั้นจึงค่อยมาคิดกันว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง

ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวและกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  จากการร่วมกิจกรรมเปิดINEC ชุมชนสัมพันธ์วัฒนธรรมที่วัดป่าพิมลมังคลาราม มองเห็นว่าชุมชนนี้สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยว 3 ธรรม  คือ 1.ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติบำบัด  เพราะมีฐานให้นั่งปฏิบัติสมาธิที่มีธรรมชาติของต้นไม้ร่มเย็น 2.  ท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม คือชุมชนเข้มแข็งและมีน้ำใจ  ชาวบ้านมีวิถีชีวิตแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน  มีอาหารพื้นถิ่นที่หลากหลายทางวัฒนธรรมน่าค้นหา  และ 3. การท่องเที่ยวเชิงธรรมะ   เพราะวัดนี้มีสายน้ำล้อมรอบวัด มีจุดที่เป็นสายน้ำ2 สี  คือสายน้ำสองสายมาบรรจบกันสีน้ำแตกต่างกัน  มีกุฏิหลังเล็กๆที่ให้ญาติโยมมาปฎิบัติธรรมหลายหลังที่สามารถเห็นความงามของดอกไม้ที่ทางวัดปลูกหลายชนิดและยังมีสระใหญ่เขียวเหมือนมรกต  อยู่ด้านหลัง  คิดว่านักท่องเที่ยวจะต้องชอบแน่นอน

นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า เรื่องชุมชนวัฒนธรรมแห่งนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันเกิดจากพลังของชาวบ้าน ผู้นำชุมชนและท่านเจ้าคุณพระศรีญาณวิเทศที่ได้มาร่วมกันทำขึ้นมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อบต.ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 3 ตำบล 2 อำเภอมาร่วมกัน ตนใช้คำว่าถ้าจะพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน จุดเริ่มต้นในการเป็นผู้นำเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นก้าวแรก ตนเชื่อว่าพลังต่างๆที่จะขับเคลื่อนมันเริ่มต้นจากพลังแห่งความร่วมมือ ทางราชการเห็นความร่วมมือแบบนี้แล้วจะได้นำไปพิจารณาเพื่อให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้เกิดการขับเคลื่อนก้าวหน้าต่อไป  ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนในชุมชนแห่งนี้ว่า 1.ขอให้รักษาพลังที่จะร่วมกันพัฒนาเรื่องการออกแบบความคิดของชุมชนนี้ไว้ ส่วนที่2. คือให้ช่วยกันรักษาธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมหรือธรรมชาติให้คงอยู่เพราะว่าการท่องเที่ยวสมัยใหม่ จะเน้นเรื่องวิถีชุมชนเป็นหลัก //////////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ| ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 นำ ผอ. ร.ร.และครูรับมอบวุฒิบัตรการอบรมหลักสูตรออนไลน์

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 นำ ผอ.ร.ร.และครูรับมอบวุฒิบัตรการอบรมหลักสูตรออนไลน์สอนภาษาอังกฤษประเทศนิวซีแลนด์จากผู้ว่าฯ  ขณะที่สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยมอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติให้กับ น.ร.ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ  

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์   นามศรี  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา  ศรีสะเกษ เขต 1 (ผอ.สพป.ศก.1) ได้นำ น.ส.พยัตติกา ห้วยจันทร์ ผอ.ร.ร.บ้านหนองนาเวียง อ.น้ำเกลี้ยง  และ น.ส.นัยนา  นีระเสน ครู ร.ร.บ้านหนองนาเวียง เข้ารับมอบวุฒิบัตรจาก นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ. ศรีสะเกษ  เนื่องจากผ่านการอบรมหลักสูตรออนไลน์ ในหัวข้อ "New Zealand Global Competence Certificate and English Teacher Training Programs" สำหรับครูและบุคลากรที่สอนภาษาอังกฤษ เป็นเวลา 12สัปดาห์ โดยได้รับทุนการศึกษา  40,000 บาท จำนวน 2 ทุน รวม 80,000 บาท  และได้รับทุน SEAMEO - New Zealand Master Class on Education Technology and Digital Security (หลักสูตรห้องเรียนปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยดิจิทัล) ของหน่วยงาน SEAMEO (องค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ร่วมกับ Education New Zealand (หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์) มอบทุนละ 50,000 บาท จำนวน 2 ทุน รวม 100,000 บาท  เป็นเวลา 18 สัปดาห์  ให้แก่ น.ส.พยัตติกา ห้วยจันทร์ ผอ.ร.ร.บ้านหนองนาเวียง และ น.ส.นัยนา นีระเสน ครู ร.ร.บ้านหนองนาเวียง  

ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์   นามศรี  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 (ผอ.สพป.ศก.1)  กล่าวว่า การอบรมดังกล่าว เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการสื่อสาร รวมทั้งความเป็นพลเมืองโลก การทำงานกับผู้คนต่างวัฒนธรรมและแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ระบบการศึกษาและวัฒนธรรมประเทศนิวซีแลนด์ ของหน่วยงาน AFS Intercultural Programs และ มหาวิทยาลัยMessy University ประเทศนิวซีแลนด์  ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ และ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ได้พิจารณาคัดเลือกให้ข้าราชการครูทั้ง 2 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรในสังกัดเข้ารับการแข่งขัน เพื่อคัดเลือกรับทุนการศึกษาต่างประเทศ หลักสูตรออนไลน์ และสามารถผ่านการอบรมครบถ้วนตามหลักสูตรดังกล่าว 

ต่อมา นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น จากสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2565   เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ  ให้แก่ ด.ญ.สุกาญจน์ชญา อร่ามเรือง นักเรียน ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ และมอบเกียรติบัตร ให้แก่ ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ ที่ได้สนับสนุนการพัฒนาส่งเสริม ด.ญ.สุกาญจน์ชญา อร่ามเรื่อง ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ โดยมี นางอาภาวดี พรหมจอม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด                          ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี  นายสำรวย  เกษกุล  นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต  นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย  น.ส.ชนมณัฐ   รอดบุญธรรม รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย หน.ส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ ภาคเอกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีครั้งนี้////////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|ศรีมงคล คำเคน มอบเงิน 200,000 บาท หนุนชมรมมวยสากลสมัครเล่นแข่งขันศรีสะเกษเกมส์

ศรีมงคล คำเคน มอบเงิน 200,000 บาทหนุนชมรมมวยสากลสมัครเล่นแข่งขันศรีสะเกษเกมส์

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เป็นประธานในพิธีรับมอบเงินสด จำนวน 200,000  บาท  จากนายศรีมงคล   คำเคน  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไนท์ตี้ไนท์ เอสเตท จำกัด  และบริษัทในเครือ เจ้าของโครงการ เดอะวันพลัสคอนโดมิเนียม และเดอะคิววัน (Q1) พร้อมด้วย  นายวิวัฒน์   รุ้งแก้ว ประธานชมรมมวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ  ซึ่งนายศรีมงคล ได้มีความประสงค์มอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” โดยมี  นายสำรวย   เกษกุล   นายอนุรัตน์  ธรรมประจำจิต นายนพ  พงศ์ผลาดิสัย น.ส.ชนมณัฐ  รอดบุญธรรม  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนร่วมเป็นเกียรติในพิธีรับมอบครั้งนี้

นายศรีมงคล   คำเคน  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไนท์ตี้ไนท์ เอสเตท จำกัด  และบริษัทในเครือ เจ้าของโครงการ เดอะวันพลัสคอนโดมิเนียม และเดอะคิววัน (Q1) กล่าวว่า  ตนเป็นชาวศรีสะเกษโดยกำเนิด  มีความชื่นชอบในกีฬามวยสากลสมัครเล่นรวมทั้งกีฬาทุกชนิด  ดังนั้น เมื่อ จ.ศรีสะเกษ จะมีการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ตนจึงได้นำเอาเงินมาให้การสนับสนุน  เพื่อต้องการให้นักกีฬาของ  จ.ศรีสะเกษ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันมีความพร้อมในทุกด้านอย่างเต็มที่

นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า   ตนต้องขอขอบคุณ คุณศรีมงคล  คำเคน และคณะ ที่ได้นำเงินจำนวน 200,000  บาทมาให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และชมรมกีฬามวยสากลสมัครเล่นจังหวัดศรีสะเกษ  ซึ่งการที่ทุกฝ่ายได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาของ จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่แบบนี้จะทำให้นักกีฬาทุกคนมีกำลังใจในการฝึกซ้อม พัฒนาฝีมือของตนเอง   จะได้สร้างชื่อเสียงด้านการกีฬาให้กับ จ.ศรีสะเกษ ต่อไป 

ข่าว / ภาพ  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

จ.เพชรบุรี|อลงกรณ์ พลบุตร เปิดงานสืบสานพิธีทำขวัญเกลือหนึ่งเดียวในโลกประเพณีดั้งเดิมของชาวเพชรบุรี

อลงกรณ์ พลบุตร เปิดงานสืบสานพิธีทำขวัญเกลือ หนึ่งเดียวในโลก ประเพณีดั่งเดิมของชาว จ.เพชรบุรี

วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี เปิดงานสืบสานพิธีทำขวัญเกลือและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเกลือทะเล เพื่อการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ประจำปี 2565 ที่สหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทย หมู่ที่ 9 ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี 

โดยในช่วงเวลา 07.00 น. นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วย นายธรรมนูญ ศรีวรรชนะ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธาน ในพิธีทำขวัญเกลือ ต่อจากนั้น เวลา 09.00 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน โดยมี นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวรายงานและร่วมกัน เปิดงานสืบสานพิธีทำขวัญเกลือและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเกลือทะเล เพื่อการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2565 พร้อมทั้งเยี่ยมชม บูธผลิตภัณฑ์เกลือทะเล และพิพิธภัณฑ์นาเกลือจังหวัดเพชรบุรี การผลิตเกลือ การเรียนรู้การพัฒนาเกลือไทยทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่เกษตรกรเกลือทะเล

สำหรับ พิธีทำขวัญเกลือ เป็นพิธีที่มีความสำคัญแก่เกษรตกรทำนาเกลือ ที่สืบสานกันมาแต่โบราณ มีการเซ่นไหว้ พระวายุ พระแม่คงคา พระแม่ธรณี และศาลตาพุกซี่งเป็นผู้พิทักษ์นาเกลือคนแรก ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลและความมั่นคงในการดำเนินชีวิตกับการประกอบอาชีพนาเกลือ ที่สืบต่อกันมาตราบเท่าทุกวันนี้

ประวิทย์ ลิ้มเจริญ รายงาน

จ.ศรีสะเกษ|ชาวบ้านโนนป่ายางบุกพบผู้ว่าและที่ดินจังหวัดยื่นหนังสือเร่งรัดออกโฉนดที่ดิน ชุมชนกุดหวายและโนนสำราญ

 ชาวบ้านโนนป่ายางบุกพบผู้ว่าและที่ดินจังหวัดยื่นหนังสือวอนเร่งรัดออกโฉนดที่ดิน ชุมชนกุดหวายและชุมชนโนนสำราญ เขตเทศบาลเมือง แกนนำเผยยื่นเรื่องขอออกโฉนดไปนานกว่า 5 ปีแล้วเรื่องเงียบหายติดตามก็ไม่มีคำตอบจากภาครัฐ

เมื่อวันที่  27 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน จำนวน 10 คน  ซึ่งเป็นชาวบ้านในเขตพื้นที่โนนป่ายางจำนวน  8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ประกอบด้วย  บ้านโนนแย้  บ้านโนนหล่อ บ้านโนนแดง บ้านเพียนาม หมู่ 3 บ้านเพียนาม หมู่ 9 บ้านโนนสำนัก ชุมชนโนนสำราญ ชุมชนกุดหวาย  ในเขต ต.หญ้าปล้องและ ต.หนองไผ่  ของ อ.เมืองศรีสะเกษ  มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า  20,000 คน  นำโดย นางนวลฉวี   ศรีพล  อายุ  72 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 79/1 ชุมชนโนนสำราญ เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ  ต.หญ้าปล้อง อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ  ได้เข้ายื่นหนังสือที่ลงนามโดย นายสราวุธ ศรีวัง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณะประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง กระทรวงมหาดไทย ยื่นกับ นายเกียรติคุณ   พรหมเพชร  เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ  เพื่อติดตามเรื่องขอเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่บริเวณชุมชนกุดหวายและชุมชนโนนสำราญ เขตเทศบาลเมือง                              ศรีสะเกษและขอให้ตรวจสอบ กรณีการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.หญ้าปล้อง ต.หนองไผ่รวมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับเรื่องไว้แล้ว  โดยก่อนหน้านี้ใน                       วันเดียวกันนี้ คณะของนางนวลฉวี ได้ไปเดินทางไปที่จวน ผวจ.ศรีสะเกษ โดยได้ยื่นหนังสือเรื่องเดียวกันนี้กับ นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้เร่งรัดในการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวด้วย

นางนวลฉวี   ศรีพล  อายุ  72 ปี  แกนนำชาวบ้านโนนป่ายาง กล่าวว่า พวกตนได้ร่วมกันเรียกร้องที่ดินทำกินโนนป่ายาง ซึ่งได้อาศัยเป็นที่ดินทำกินมาตั้งแต่ปี 2450 แต่ว่าพอถึง ปี 2468 ทางราชการได้ขีดเส้นให้โนนป่ายางเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง จำนวน 4,125 ไร่  ทั้งที่มีชาวบ้านอาศัยทำกินและเป็นที่อยู่อาศัยมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณกว่า  20,000 คน  จึงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษได้ตรวจสอบกรณีการดำเนินการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่  ต.หญ้าปล้อง ต.หนองไผ่ และพื้นที่ 7 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ต.หญ้าปล้อง อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ และเร่งรัดการออกโฉนดให้กับชาวบ้านในชุมชนกุดหวาย  ชุมชนโนนสำราญ เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ต.หญ้าปล้อง ที่มีที่อยู่อาศัยที่ดินทำกินและหลักฐานแจ้งการครอบครอง สด 1 ที่ยื่นออกโฉนดที่ดินก่อนการแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดิน 2551ที่ยังคงค้างการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินอย่างเร่งด่วนด้วย  เนื่องจากว่า พวกตนติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 5 ปี แต่เรื่องเงียบหายไม่มีคำตอบจากทางภาครัฐแต่อย่างใด

นายเกียรติคุณ   พรหมเพชร  เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า  เรื่องนี้ตนจะได้มีการประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ได้มีการประชุมเสร็จแล้วก็จะได้แจ้งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากว่าจะมีคณะกรรมการในการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ประชาชนทิ้งร้างซึ่งจะมีการประชุมใหญ่ ผลการประชุมก็จะได้มีการรายงานให้คณะกรรมการชุดใหญ่ได้รับทราบ หลังจากนั้นก็จะได้มีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง มติการประชุมออกมาเป็นเช่นไรก็จะได้นำเอามาพิจารณาต่อ  สาเหตุที่เรื่องนี้ล่าช้านั้น  เรื่องนี้ถ้านับจากตัวเรื่องที่ปรากฏนั้นเห็นว่า มันไม่ชัดเจนเราจะเห็นว่ากระบวนการยังไม่ชัดเจนในเรื่องของพื้นที่ โดยจะมีการคัดค้านกันระหว่างราษฎรเองและของรัฐเอง หลักฐานที่ทางราชการมีอยู่กับหลักฐานที่ราษฎรมีอยู่เราก็ต้องมาพิสูจน์กัน ซึ่งได้มีการตรวจสอบพิสูจน์มาตลอดเวลาไม่ได้มีหยุด และขณะนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาหลายคณะแล้ว ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษที่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อยากให้ติดตามเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ส่วนความคืบหน้าอย่างไร ก็จะได้รายงานให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งทราบอยู่แล้ว ทางหน่วยงานรัฐไม่ได้หยุดนิ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ แต่อย่างใด////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ศรีสะเกษ | พยาบาลสาวสุดเฮงซื้อสลากกาชาด 50 บาทได้รับรางวัลรถยนต์ปิคอัพ 1 คัน

 พยาบาลสาวสุดเฮงซื้อสลากกาชาด 50 บาทได้รับรางวัลรถยนต์ปิคอัพ 1 คัน

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานเหล่ากาชาดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางมัลลิกา   พุฒิชาติ  นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ  ได้นำคณะกรรมการเหล่ากาชาดมอบรางวัลให้กับผู้ที่ถูกรางวัลสลากกาชาด งานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565  โดยได้มอบรางวัลที่ 1 เป็นรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน จำนวน 1 คันให้กับ  นางสนิท ก้อนทอง อายุ  58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/74 หมู่ 6 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ อาชีพรับราชการ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการ  สำนักงานเกษตรอำเภอขุนหาญ  ซึ่งได้ซื้อสลากกาชาด  จำนวน  18  ใบ เป็นเงิน 900      บาท   ส่วนรางวัลที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะบรรทุกตอนเดียวยี่ห้อมิตซูบิชิ  รุ่นไทรทัน  มอบให้กับ  น.ส.ชลิตา บุตรวงศ์  อายุ  27 ปี  อาชีพ รับราชการ เป็นพยาบาล อยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 14 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ  และได้มอบรางวัลที่ 3 เป็นรถ จยย.จำนวน  5 คัน ให้กับผู้โชคดี จำนวน  5 คน 

นางมัลลิกา   พุฒิชาติ  นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ  กล่าวว่า   ตามที่ จ.ศรีสะเกษได้จัดงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ช่วยเหลือกิจการสาธารณกุศลต่าง ๆ เสริมสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งได้จัดให้มีการออกรางวัลสลากกาชาด เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ  โดย นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการออกรางวัล  และได้ดำเนินการออกรางวัลสลากกาชาด งานเทศกาลปีใหม่สีเผ่าไทย               ศรีสะเกษประจำปี 2565  เสร็จเรียบร้อยแล้ว  จึงได้จัดพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ถูกรางวัลสลากกาชาดในครั้งนี้

น.ส.ชลิตา  บุตรวงศ์  อายุ  27 ปี  อาชีพรับราชการ เป็นพยาบาล อยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ  อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 14 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งโชคดีถูกสลากกาชาด รางวัลที่ 2  กล่าวว่า ตนได้ซื้อสลากกาชาดที่ รพ.ศรีสะเกษ  จำนวน 1 ใบ เป็นเงิน 50 บาท และเมื่อมีการประกาศผลการออกรางวัลสลากกาชาดศรีสะเกษ ปรากฏว่า  สลากกาชาด ที่ตนซื้อไว้จำนวน 1 ใบ ถูกรางวัลที่ 2 ได้รับรางวัลรถยนต์ปิคอัพ จำนวน 1 คัน ทำให้ตนรู้สึกดีใจมาก  แต่ว่า ตนยังขับรถยนต์ไม่เป็น จะต้องให้พ่อสอนขับรถยนต์ให้ หลังจากฝึกขับรถยนต์ได้แล้ว จึงจะนำเอารถยนต์มาขับใช้เองต่อไป//////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ|กักตัวครู นร.รวม 100 คนเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิค 19 สั่งปิด ร.ร .ศรีสะเกษวิทยาลัย 10 อัน

ศรีสะเกษ กักตัวครู น.ร.ร่วม 100 คนเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด-19 สั่งปิด ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย 10 วัน  ผอ.ร.ร.เผยมีครูติดเชื้อแล้ว 2 คน น.ร.18 คน จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์กำชับครูทุกคนให้สอน น.ร.อย่างมีคุณภาพ

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่  ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้บรรยากาศภายใน ร.ร.ค่อนข้างเงียบเหงา  ไม่มี น.ร.มาเรียนหนังสือแต่อย่างใด มีเพียงคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้  นายยิ่งยง  นันทวณิชชยากร ผอ.ร.ร.                            ศรีสะเกษวิทยาลัย ได้ลงนามในประกาศ ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ฉบับที่ 3/2565  ลงวันที่ 25 ม.ค. 2565  เรื่อง  การใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทางไกล (ออนไลน์) ระหว่างวันที่ 26 ม.ค. – 4 ก.พ. 2565  ประกาศโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID-19) ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาส่วนหนึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง หรือกลุ่มเสี่ยง และได้กักตัวหรือสังเกตอาการ ทำให้ไม่สะดวกในการจัดการเรียนรู้ที่โรงเรียนและการดูแลนักเรียนได้อย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน และป้องการการแพร่ระบาด

ในวงกว้าง ทางโรงเรียนจึงมีมติให้ใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทางไกล (ออนไลน์)  โดยได้กำชับให้ผู้สอนทุกรายวิชา ทุกระดับชั้น จัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ ลดความเครียดของนักเรียน โดยการลดเวลาในการบรรยายลง และเพิ่มเวลาค้นคว้าด้วยตนเอง

นายยิ่งยง  นันทวณิชชยากร ผอ.ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย กล่าวว่า  มี น.ร.คนหนึ่งซึ่งไม่ค่อยเข้าเรียนอยู่ทางด้าน อ.ค้อวัง ที่เข้ามาเรียนที่ ร.ร.แห่งนี้ ปรากฏว่าเข้ามาเรียน 2 วันแล้วก็ไม่ได้เรียนหนังสือ เข้ามาเตะฟุตซอลที่สนามของ ร.ร. ก็จะมีเพื่อนในสายชั้นเดียวกันคือระดับสายชั้น ม.5 มาเตะฟุตซอลด้วยกัน และหนีเรียนบ้าง ในช่วงพักเที่ยง เด็กได้มาเตะฟุตซอลกัน และดื่มน้ำแก้วเดียวกันขวดเดียวกันทำให้มีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งพอติดเชื้อผู้ปกครอง น.ร.ก็ได้โทรศัพท์มาลาที่ ร.ร. จึงได้มีการสอบสวนโรคโดยทีมงานพยาบาลสอบสวนโรคได้ความว่าในช่วงที่เตะฟุตซอล 2 วันนี้มีใครบ้างที่เล่นด้วยกันซึ่งได้รับคำตอบว่า ทั้งหมดเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันปรากฏว่าเป็น น.ร.สาย อ.ค้อวัง ค่อนข้างเยอะมาก และเป็น น.ร.ในเขตอำเภอเมืองรวมทั้งทุกอำเภอที่เป็นเพื่อนเล่นด้วยกัน ตนจึงได้โทรประสานกับผู้ปกครองเพื่อให้มีการกักตัว น.ร.เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์และได้แนะนำผู้ปกครองว่าให้ นำ น.ร.ที่กักตัวไปตรวจ ATK ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (25 ม.ค.2565) ตนได้รับข้อมูลว่า  น.ร.ที่กักตัว 45 คนติดเชื้อเพิ่มรวมทั้งสิ้น 18 คนรวมทั้งตัว น.ร.ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ด้วย 

ผอ.ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย กล่าวต่อไปว่า  ในจำนวน น.ร. 18 คนที่ติดเชื้อนี้มี น.ร.หญิงจำนวน 2 คนซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันติดเชื้อด้วย  ประกอบกับกลุ่มผู้เสี่ยงสูงนี้ เริ่มมีการกระจายเชื้อออกไป แต่ตนก็ได้พยายามให้น.ร.ได้มีการกักตัวทุกๆวัน ปรากฏว่าครูก็ได้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 คนโดยคนแรกไทม์ไลน์ไม่มีอะไร สามารถที่จะบล็อคทุกอย่างเอาไว้ได้ ส่วนครูอีกคนหนึ่งมารู้ทีหลังว่าไปทานข้าวกับกลุ่มคุณครูด้วยกัน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เสี่ยงสูง  ตนจึงได้รีบสั่งปิด ร.ร.ทั้งนี้เนื่องจากว่า ถ้าไม่สั่งปิดแล้วให้ น.ร.มาเรียนหนังสือ น.ร.ที่ต้องมาเรียนกับคุณครูที่ต้องกักตัวจำนวน 20 คนนี้ จะมาเรียนเหมือนไม่ได้เรียน ก็อาจจะลงมาเล่นนอกอาคารเรียน ตนจึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาในหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เรื่องทะเลาะวิวาทหรือการหนีออกจาก ร.ร.ไปเที่ยวเตร่ตามสถานที่ต่างๆ จึงได้ตัดสินใจให้ครูสอนทางออนไลน์แทน และคุณครูที่กักตัวจำนวน 20 คนนี้ก็จะต้องสอนออนไลน์ด้วย ตอนนี้ก็เริ่มที่จะวางแผนในการตรวจหาเชื้อและจะปิดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565

ผอ.ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ยังกล่าวด้วยว่า  ตนขอเรียนว่าในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทาง ร.ร.ได้เปิดเรียนนี้ ตนได้มองในเรื่องการเรียนออนไลน์ซึ่งเป็นปัญหามาโดยตลอด ตนได้พยายามเปิดเรียนเพื่อที่จะได้ให้ น.ร.ได้กลับเข้ามาสู่ ร.ร.เพื่อให้ น.ร.ได้เรียนอย่างมีความสุข การที่ น.ร.ได้พบปะกันก็จะมีสังคมของเขาและขณะเดียวกันในการที่เปิดเรียนก็ได้เปิดเรียนอย่างมีคุณภาพคือดูแล น.ร.เป็นอย่างดี แต่เรื่องของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะเชื้อตัวใหม่นี้ ตนคาดไม่ถึงว่าจะแพร่กระจายเข้ามาตอนไหน ตนก็พยายามเฝ้าระวังทำให้ดีที่สุดและถามว่าตอนนี้ น.ร. จำนวน  3,738 คน ก็มีการแพร่กระจายเชื้อจาก น.ร.คนเดียวกระจายได้ถึง 18 คน                                 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเท่าไหร่ จึงขอสื่อสารไปยังผู้ปกครองทุกท่านว่า ในช่วงที่บุตรหลาน เรียนออนไลน์ก็ขอให้ท่านได้กำชับติดตามเข้มงวดว่าไม่ให้ น.ร.ออกไปไหน เพราะว่ายังมีส่วนหนึ่งที่เรียนออนไลน์แล้วใช้วิธีช่วงที่บางครั้งวิชาไม่สำคัญ ก็พากันหนีออกมานัดกันไปที่คาเฟ่  ไปใช้สัญญาณเน็ตที่    คาเฟ่เพื่อเรียนออนไลน์ ซึ่งตรงนี้ก็มีโอกาสติดเชื้อเข้ามาที่ ร.ร.  ตนขอเรียนว่า จริงๆแล้ว ร.ร.เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด แต่ว่าเมื่อมีความจำเป็นตนจึงต้องสั่งปิดการเรียนการสอนไปก่อน/////////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

เฉลิมชัย เผยส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนทะลุแสนล้าน

“เฉลิมชัย”เผยส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนทะลุแสนล้าน 

เผยปีนี้ผลผลิตเพิ่มกว่า5แสนตัน มอบ“อลงกรณ์”รับผิดชอบชุดเฉพาะกิจผนึกทีมผลไม้ภาคตะวันออกรับมือฤดูผลไม้ล่วงหน้า พร้อมลุยหนองคายเร่งรถไฟจีน-ลาวขนสินค้าเกษตร27ม.ค.นี้

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)กล่าววันนี้(26ม.ค)ถึงผลดำเนินงานบริหารจัดการผลไม้ปี2564และปี2565ว่า ในปี 2564 สามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนขายทะลุหนึ่งแสนล้านบาทเป็นครั้งแรกแม้เผชิญปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ความสำเร็จดังกล่าวมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐที่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในปีที่ผ่านมาและสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศชาติจากการส่งออกทำสถิตินิวไฮโดย11เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 2564ส่งออกผลไม้7ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่และมะม่วงจำนวน1,992,751ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% เทียบกับปี 2563ที่ส่งออก1,718,228ตันมูลค่า 117,673ล้านบาท สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700ตัน คิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้น38.29% คิดเป็นมูลค่า115,459ล้านบาทเติบโต59.11%เทียบกับปี2563ส่งออก653,476ตันมูลค่า72,566ล้านบาท โดยฤดูกาลผลิตปี2565จะมีผลผลิตออกมา5,200,009ตันเพิ่ม11.39%หรือเพิ่มกว่า5แสนตันเทียบกับปี2563ที่มีปริมาณ4,668,435ตันซึ่งเป็นตัวเลขจากกรมศุลกากร

ดร.เฉลิมชัยกล่าวต่อไปว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลไม้ที่จะเริ่มต้นฤดูในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้จึงมอบนโยบายให้ฟรุ้ทบอร์ดกำหนดมาตรการล่วงหน้าโดยมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ

ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบกล่าวว่า คณะทำงานฯได้กำหนด5มาตรการ21โครงการสำหรับบริหารผลไม้ในภาวะวิกฤติเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนและโครงการต่างๆ

และเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาได้จัดการประชุมทางไกลกับสมาคมทุเรียนไทย ตัวแทนแปลงใหญ่ทุเรียนจังหวัดระยอง สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียน สมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย สถาบันทุเรียนไทย หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคตะวันออก นายชรัตน์ เนรัญชรและนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ. หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.ระยอง สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการการเกษตรเขตที่6 อธิบดีกรมวิขาการเกษตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด หน่วยงานEECและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมรองรับผลไม้ภาคตะวันออกโดยมีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก เช่นข้อเสนอให้เร่งจัดทำมาตรฐานzero covid ทุเรียนที่มีงานวิจัยรองรับโดยกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนและสื่อสารกับจีนเพื่อสร้างความมั่นใจกับจีนและประเทศลูกค้าอื่นๆ การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)

การหารือกับจีนในการขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว และ ส่งไปคุนหมิงเลยโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่านเพื่อให้สามารถส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นๆทางรางได้ตั้งแต่เดือน มีนาคมปีนี้ ตลอดจนข้อเสนอให้ประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนต่างๆรวมทั้งข้อเสนอให้ด่านมีGreen Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะรวมทั้งปัญหาการทำGAPที่ชาวสวนต้องจ่ายมากขึ้นว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรเมื่อใดรวมทั้งข้อพิจารณาเรื่องการเยียวยาชาวสวนลำไยในฤดูกาลที่ผ่านมา

นายอลงกรณ์กล่าวว่าได้รายงานให้รัฐมนตรีเกษตรฯ.ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ดทราบถึงข้อเสนอดังกล่าวเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปโดยเร็ว นอกจากนี้ตนจะนำคณะเดินทางไปหนองคายและอุดรธานีเพื่อหารือกับผู้ประกอบการ3ประเทศไทย-จีน-ลาวเรื่องการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวในวันที่27มกราคมนี้

    สำหรับความคืบหน้าในเรื่องGMP นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการ สวพ.6 ได้รายงานในที่ประชุมว่าปัจจุบันได้มีการอบรม มาตรฐาน GMP plus ให้กับล้งไปแล้วกว่า 400 แห่ง และ ดำเนินการป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนอย่างจริงจังเพื่อยกระดับคุณภาพของทุเรียนในปีนี้.

จ.นครสวรรค์| ตำรวจแม่วงก์ จับกุมตัวพ่อค้ายาบ้าได้พร้อมของกลางยาบ้า 721 เม็ด

 ตำรวจแม่วงก์ จับกุมตัว นายไพฑูรย์ได้ของกลางเป็นยาบ้า721 เม็ด

 วันที่ 25 ม.ค.2565 เวลาประมาณ 00.15 น. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ อ่องยิ้ม ผกก.สภ.แม่วงก์  จังหวัดนครสวรรค์ พ.ต.ท.ศักดิ์ณรงค์ แสงพิทูร รอง ผกก.สส. สภ.แม่วงก์ พ.ต.ต.สิงหา เตี๋ยอำนวยชัย สว.สส.สภ.แม่วงก์  ร.ต.อ. เนตร แหลมทอง รอง สว.สส.สภ.แม่วงก์   ร.ต.ท.ประสาท บุญเรืองศักดิ์ รอง สว.สสฯ ด.ต.อัชวิน อภิญญานุวัฒน์ ส.ต.ต.ภูมิเผ่า น้อยวัน

 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกัน  จับกุมตัวนายไพฑูรย์  อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 2 ต.แม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ 

ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิด กฏหมายเป็นผู้เสพ และเป็นผู้ขับขี่รถยาเสพให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) โดยผิดกฏหมาย

พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 721 เม็ด

โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO สีขาว จำนวน 1 เครื่อง

ชุดจับกุมจึงบันทึกจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่วงก์  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จ.ศรีสะเกษ | ปภ.เปิดศูนย์บริการจัดการน้ําแห่งแรกของประเทศไทย วังแก้ไขภัยแล้งอย่างยั่งยืน

ปภ.เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำแห่งแรกของประเทศไทยหวังแก้ภัยแล้งอย่างยั่งยืน ให้ชาวศรีสะเกษจะได้ใช้ดูข้อมูลน้ำในพื้นที่ทั้งในภาวะปกติและวิกฤติเพื่อสร้างความเข้าใจไม่ให้ตื่นตระหนก

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำ จ.ศรีสะเกษ ชั้น 1 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง นายบุญประสงค์  นวลสายย์ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ได้จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น เป็นศูนย์บริหารจัดการน้ำแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีการนำเอาวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ครบชุดมาจัดทำเป็นระบบเชื่อมโยงกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลน้ำแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำของ จ.ศรีสะเกษและทั่วประเทศ มาจัดไว้อย่างเป็นระบบสามารถนำเอาข้อมูลขึ้นแสดงบนจอภาพขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถที่จะใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาสั่งการเพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาเกี่ยวน้ำท่วม ภัยแล้ง ลมพายุ ได้อย่างรวดเร็วมาก  จากนั้น ได้มีการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำ จ.ศรีสะเกษ โดยมี นายสำรวย   เกษกุล  รอง ผวจ.                          ศรีสะเกษ พร้อมด้วย หน.ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุมและร่วมพิธีเปิดศูนย์ในครั้งนี้  

นายบุญประสงค์  นวลสายย์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการน้ำแห่งนี้เกิดจากแนวคิดของ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ที่ได้ดำริว่าจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้กับพี่น้องชาว จ.ศรีสะเกษทั้งระบบน้ำ  แล้วเราจะหาน้ำมาเติมในจุดไหนน้ำท่วมเราจะแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างรวดเร็วเตรียมพร้อมได้ยังไง ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา ผวจ.ศรีสะเกษได้มอบหมายให้                       นายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษลงไปเก็บข้อมูลในพื้นที่โดยใช้โทรศัพท์ ใช้แบบฟอร์มด้วยมือ เป็นระบบทำให้เกิดการร่วมคิดร่วมสร้างด้วยกันขึ้นมาว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง ซึ่งในวันนี้ศูนย์บริหารจัดการน้ำแห่งนี้เป็นการต่อยอดขึ้นในปี 2565 ในวาระการขับเคลื่อนน้ำให้มีระบบและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลระบบสาระสนเทศของชลประทาน จ.ศรีสะเกษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่นำข้อมูลมาให้ ผวจ.ศรีสะเกษได้วางแผนแก้ไขปัญหาทั้งในยามปกติและในยามวิกฤตเรื่องน้ำที่จะต้องแก้ไขภัยแล้ง เราจะมาดูในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ฐานข้อมูลในระบบทั้งหมด  จะดูผ่านระบบที่วางไว้รวมทั้งจิ๊กซอต่างๆ การจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะได้งบประมาณมาพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องน้ำ

นายบุญประสงค์  นวลสายย์  หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ในภาวะวิกฤติศูนย์น้ำแห่งนี้จะเป็นศูนย์ที่มอนิเตอร์เฝ้าระวัง ฝนตกน้ำท่วมพายุจะเข้าตรงไหนการคาดการณ์ต่างๆจะอยู่ในการมอมิเตอร์ของศูนย์แห่งนี้ ผวจ.ศรีสะเกษสามารถที่จะนั่งประชุมและบัญชาการผ่านห้องนี้โดยดูสภาพอากาศเมื่อมีฝนตกในพื้นที่ปริมาณน้ำในเขื่อนในอ่างเก็บน้ำต่างๆซึ่งจะเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์น้ำหน้าเขื่อนทั้งเขื่อนหัวนาเขื่อนราษีไศล และอ่างเก็บน้ำทั้ง 16 อ่างน้ำล้นสปิลเวย์พี่น้องจะสามารถดูได้สดทันที ข้อมูลเหล่านี้จะผ่านทางศูนย์บริหารจัดการน้ำและจะบรรจุลงในเว็บไซต์ของศูนย์บริหารจัดการน้ำทันที ซึ่งพี่น้องชาวศรีสะเกษจะสามารถเข้าดูเพื่อสร้างความเข้าใจไม่ให้ตื่นตระหนกได้ นี่คือประเด็นสำคัญ  ซึ่งการพัฒนาแหล่งน้ำนี้มีความสำคัญในการดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ถ้ามีน้ำทุกจุดทุกที่ทุกเวลา พี่น้องชาวศรีสะเกษที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำก็จะมีน้ำได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งตรงนี้คิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว  ฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษว่า ศูนย์น้ำแห่งนี้ไม่ใช่ศูนย์น้ำของ ปภ.หรือของ ผวจ.ศรีสะเกษ แต่เป็นศูนย์บริหารจัดการน้ำของพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษจะได้ใช้ดูข้อมูลน้ำในพื้นที่ทั้งในภาวะปกติและวิกฤติซึ่งพี่น้องจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่////////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ