จ.ศรีสะเกษ| เปิดเรียนวันแรก ผอ.ร.ร จัดนักเรียนชาย-หญิง สลับเรียนแต่ละวันปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ศรีสะเกษ เปิดเรียนวันแรก ธเนศ เครือรัตน์ ขอให้นักเรียนไปบอกพ่อแม่ ญาติพี่น้องไปฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่ ผอ.ร.ร.เผย จัดเรียนสลับชาย-หญิง แต่ละวัน ปฏิบัติตามมาตรากระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

    วันที่ 1 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายธเนศ เครือรัตน์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายคำโพธิ์ บุญสิงห์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และคณะศึกษานิเทศก์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดเรียนวันแรกของภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ซึ่งปรากฎว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมาก มีพ่อแม่ ผู้ปกครองจูงมือลูกหลาน ถือกระเป๋า สมุด หนังสือ ไปส่งลูกที่ ร.ร.ซึ่ง นายสุรชาติ ทอนศรี ผอ.ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ พร้อมด้วย คณะครู ได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่มือและรองเท้าของนักเรียน มีการเข้าแถวเคารพธงชาติ จากนั้น นายธเนศ และคณะ ได้ไปเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียนตามห้องเรียนต่าง ๆ รวมทั้งโรงอาหารของ ร.ร.ด้วย ซึ่งบรรยากาศการจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นการเปิดเรียนวันแรก และเด็กพากันดีใจที่ได้มา ร.ร.เป็นวันแรก ได้พบกับครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน หลังจากที่ได้หยุดเรียนเป็นเวลา นานหลายเดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19

นายสุรชาติ ทอนศรี ผอ.ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการเปิดเรียนวันแรกนี้ ตนต้องขอขอบคุณคณะ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้อนุมัติให้เปิดทำการเรียนการสอนได้ ซึ่งได้จัดให้มีการสลับกันมาเรียน ชายและหญิง โดยในวันนี้ได้ให้นักเรียนชายทุกระดับชั้นมาเรียนหนังสือ และในวันถัดไปจะให้นักเรียนหญิงมาเรียนหนังสือสลับกันไป ทั้งนี้เนื่องจากว่า จำนวนนักเรียนชายและนักเรียนหญิงมีจำนวนใกล้เคียงกัน รวมจำนวนประมาณ 3,000 คนเศษ ตนได้กำชับให้คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่สะดวกที่จะให้เด็กนักเรียนมาเรียนหนังสือ ตนและคณะครูก็พร้อมที่จะจัดการเรียนการสอนให้ โดยให้เด็กนักเรียนเรียนที่บ้าน ซึ่งการเปิดเรียนวันแรกนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากตนและคณะครูทุกคนได้เตรียมการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุต่าง ๆ มา ทำให้การเปิดเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ทางด้าน นายธเนศ เครือรัตน์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมาในวันนี้ เพื่อมาเยี่ยมเป็นกำลังใจให้กับครู นักเรียนทุกคนในการเปิดภาคเรียนวันแรก จากการที่ตนได้ดูภาพรวมแล้วพบว่า การเตรียมการจัดการเรียนการสอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดมาก ทำให้ตนรู้สึกสบายใจว่าลูกหลานของพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษที่มาเรียนหนังสือจะมีความปลอดภัย ซึ่งตนได้ประกาศแจ้งให้นักเรียนทุกคนขอให้ไปบอกพ่อแม่ ผู้ปกครอง และญาติพี่น้องทุกคนว่า ขอให้ไปฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19 ทุกคนด้วย ทั้งนี้เพื่อจะได้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนในครอบครัวของนักเรียนทุกคนมีความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนต้องขอขอบคุณ ผอ.ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ และคณะครูทุกคน ที่จัดเตรียมการเปิดภาคเรียนวันแรกนี้ สามารถจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี

ข่าว / ภาพ  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

 

จ.ศรีสะเกษ| วัดไพรพัฒนาหนุนเปิดประเทศเตรียมต้มยาสมุนไพรโบราณต้านโควิด 19

ศรีสะเกษ วัดไพรพัฒนาหนุนเปิดประเทศเตรียมต้มสมุนไพรโบราณต้านโควิด-19 ต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน แม้ว่าท่านได้ละสังขารไปนานกว่า 21 ปีแล้ว ปรากฏว่า ได้มีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศพากันหลั่งไหลมากราบไหว้เพื่อขอพรจากหลวงปู่สรวงกันอย่างต่อเนื่อง  โดยก่อนที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปบนมณฑป  นักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านเข้าไปในตู้อบพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อรับการพ่นยาเสียก่อน จากนั้น จะต้องมาตรวจวัดอุณหภูมิ รับเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ  ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้มอบให้ นายสมยศ   พันธ์มา รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนานำนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิหลวงปู่สรวงมาให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นอย่างดียิ่ง

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา  กล่าวว่า  ขอเจริญพรญาติโยมทุกท่านสำหรับวัดไพรพัฒนา ได้สนองนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้  ทางวัดไพรพัฒนามีความพร้อมมีจุดคัดกรองมีตู้พ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้กำหนดไว้ทุกอย่างเป็นอย่างดีและจะมีการเปิดตลาดวัฒนธรรมอาเซียนในวันเดียวกันนี้ด้วย  นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาที่วัดไพรพัฒนาก็จะสบายใจได้ว่าทางวัดไพรพัฒนา และที่ตลาดวัฒนธรรมอาเซียนมีมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด 

พระครูโกศลสิกขกิจ  ยังกล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวในการเปิดประเทศครั้งนี้  อาตมาภาพได้นำกลุ่มหมอพื้นบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้สมุนไพรโบราณพื้นบ้านในเขต ต.ไพรพัฒนา จะได้นำเอายาสมุนไพรพื้นบ้านมาต้มสำหรับให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่มากราบนมัสการขอพรจากหลวงปู่สรวงได้ดื่มกิน รวมทั้งประชาชนที่มาเที่ยวจับจ่ายซื้อสินค้าที่ตลาดวัฒนธรรมอาเซียนก็สามารถที่จะกินยาสมุนไพรโบราณเพื่อต้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เลย ซึ่งการใช้ยาสมุนไพรพื้นบ้านในการต้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขต ต.ไพรพัฒนาและ อ.ภูสิงห์สามารถใช้ในการต้านโควิด-19 ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก//////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

จ.ศรีสะเกษ | ดร.กัลยาณี นายกท่องเที่ยวทำพิธีบวงสรวงไล่โควิด 19

ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี นายกท่องเที่ยวทำพิธีบวงสรวงไล่โควิด-19 ก่อนเปิดประเทศ ขอพรให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวศรีสะเกษปลอดโรคมีแต่ความสุข  และชวนผู้ร่วมงานแต่งผ้าไทยสวยงามเพื่อประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 25 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระธาตุสุพรรณหงษ์ บ้านหว้าน ต.น้ำคำ อ.เมืองจ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ได้  เดินทางไปเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีบวงสรวงไล่โควิด-19  และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ  ก่อนเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  โดยได้รับความเมตตาจาก พระใบฎีกา สมศักดิ์ อุชุจาโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุสุพรรณหงส์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  ซึ่งที่วัดแห่งนี้ มีโบสถ์ที่สร้างขึ้นกลางสระน้ำเป็นเรือสุพรรณหงส์อย่างสวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก และมีนายวิมล ทองสาย ผู้ใหญ่บ้านบ้านหว้าน จัดตั้งเครื่องสักการบูชา  นำแม่จ้ำมาประกอบพิธีกรรม เพื่อไล่โควิด-19 ให้พ้นออกไปจาก จ.ศรีสะเกษและพ้นไปจากประเทศไทย พร้อมทั้งขอพรให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเดินทางมาที่ จ.ศรีสะเกษให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ และปลอดภัยจากโรคโควิด-19 

โดยมี  คณะกรรมการเครือข่ายการท่องเที่ยวจาก อ.เมือง  อ.กันทรารมย์ อ.ห้วยทับทัน อ.อุทุมพรพิสัย   เครือข่ายผู้ประกอบการโรงแรม และจิตอาสา เช่น นายโกวิทย์  โกมณเฑียร  นางประพันธ์   หงษ์ศิลา  นางนารีรัตน์  อิสริยศไกร  ดร.รัชพล สุทนต์ภัชกุล  นางบูรณ์ภาคย์ ภูมิโภคพัฒน์  นางจันทร์เพ็ญ ปริปุณณะชัย นางมยุรี   ชูรัตน์  นางพรภินันท์ บุญหวาน   นางสาวสุวรรณี  วิมลสุข  นายประทิน   สายเสน  นายดาเรศ   พลศักดิ์   นางสาวณัจยา   บูรณะ  นายเลิศชาย นนท์ศิลา  นายวชิรวิชญ์  โรจน์ทองสุทธ์ นางสาวฐาปนีย์ ธนบดีอริยะกูล  น.ส.วนัชพร บุตรเนตร นางอุไร ธนศรีชัยนันท์ นายธีรบูลย์ รชตวิมลรัตน์  และกรรมการชุมชนในหมู่บ้านหว้าน  แต่งกายด้วยชุดไทยสวยงามตระการตามาร่วมพิธี โดยจำนวนจำกัดคนไม่ให้มากเกินไป ซึ่งหลังจากประกอบพิธีบวงสรวงแล้ว ดร.กัลยาณี ได้นำเครือข่ายท่องเที่ยวไปร่วมถ่ายแบบประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของวัดสุพรรณหงส์ เพราะทุกคนที่มาร่วมพิธีครั้งนี้ต่างแต่งกายด้วยผ้าไทยสวยงามหลากหลายสไตล์  ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีการแต่งกายของชาวไทยให้ติดตาตรึงใจแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาร่วมแต่งกายและถ่ายภาพกลับไปเผยแพร่ที่ประเทศของตน     

ดร.กัลยาณี   ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้เปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  เป็นต้นไปและให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  และบอกว่า ถ้าเปิดประเทศแล้วหากเกิดปัญหาก็ต้องปิดประเทศอีก  ดังนั้น การบวงสรวงในวันนี้เป็นการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ปราศจากเหตุร้ายทั้งปวง ให้มีแต่ความร่มเย็น  และปลอดภัยจากโรคโควิด-19  เพราะตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 มาจนถึงกลางปี พ.ศ. 2564  ทุกคนต้องเผชิญกับความลำบาก ตกงาน ขาดรายได้ ล้มป่วย เครียด ฆ่าตัวตาย และเสียชีวิต โควิด-19 เป็นภัยอันตรายที่คุกคามชีวิต กิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจที่เคยปฏิบัติก็ไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม โควิด-19 เป็นภัยที่ต้องทำพิธีขับไล่ ตามความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ศาสนาเป็นการสร้างกำลังใจและความหวัง เป็นการสวดเพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคลแก่ทุกคนมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

พระใบฎีกา สมศักดิ์ อุชุจาโร   เจ้าอาวาสวัดพระธาตุสุพรรณหงส์กล่าวว่า    อาตมาภาพรู้สึกยินดีมากที่  ดร.กัลยาณี  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวพาคณะมาทำพิธีบวงสรวงไล่โควิด-19 ที่วัดแห่งนี้   การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก  วันนี้ถือว่าได้ทำพิธีสวดคุ้มครองให้ทุกคนได้รับแต่สิ่งดีๆ และเปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่  1 พฤศจิกายน  2564  ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี  ขอให้พรให้ทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองและชุมชนได้จำหน่ายสินค้าของที่ระลึกเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่อไป

ด้านนายวิมล ทองสาย ผู้ใหญ่บ้านบ้านหว้าน กล่าวว่า  ทางชุมชนบ้านหว้าน และผู้ค้าขายในตลาดโบราณ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข และ จ.ศรีสะเกษ อย่างเคร่งครัด ร้านค้าทุกร้านจะมีแอลกอฮอล์ ที่วัดอุณหภูมิ และสวมแมสทุกคน  และได้ขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเข้ามาในวัดสุพรรณหงส์ ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนด้วย  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค  ซึ่งทางชุมชนเข้มงวดมากเพื่อต้องการให้ทุกคนปลอดภัยไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19   ชาวบ้านจะได้ขายของ มีรายได้ยั่งยืนและสถานที่ท่องเที่ยวไม่ถูกปิดอีกต่อไป//////

 ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.ศรีสะเกษ | ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมเปิดเรียนแบบออนไซด์ 187 ร.ร จาก 258 ร.ร

ศรีสะเกษ ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมเปิดเรียนแบบออนไซด์ 187 ร.ร.จาก 258 ร.ร.อีก 71 ร.ร.ต้องเปิดเรียนโดยใช้วิธีการเรียนแบบอื่น ประกาศการประเมินเตรียมความพร้อมของกรมอนามัย 44 ข้อมีความพร้อมได้สีเขียวทุกโรงเรียน 

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่  สพป.ศรีสะเกษ เขต 1  อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์  นามศร ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1  กล่าวว่า  สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1 ได้นำนโยบายแนวทางการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของกระทรวงศึกษาธิการ  และของ  สพฐ. มาพิจารณาดำเนินการ ซึ่งเราก็ได้ดำเนินการตามนั้น  โดยเฉพาะในเรื่องของการประเมินเตรียมความพร้อมของกรมอนามัย 44 ข้อ โดยประเด็นที่ 1  สพป.ศรีสะเกษ เขต 1  มีความพร้อมได้สีเขียวทุกโรงเรียน  จาก 258 โรงเรียน  นี่คือการประเมินที่เราประเมินกันมาตั้งแต่ภาคเรียนที่  1  และภาคเรียนที่ 2 มาดูประเด็นที่ 2 ก็คือ  ที่เรานำมาเป็นคุณสมบัติในการเปิดการเรียนแบบ  On-site ก็คือ  การที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส  คือ  2 เข็ม  ไม่น้อยกว่า 85 %  ซึ่งตรงนี้เราก็ได้คัดกรองและดูตามข้อมูลหลักฐานที่มีการรายงานมา ได้จำนวน 187  โรงเรียน  จาก 258  โรงเรียน  คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ประมาณ 70.54 %  นี่คือส่วนที่จะเปิดเรียนแบบ On-site ได้ในวันที่ 1 พ.ย.2564 ที่เหลือ อีก 71  โรงเรียน  ก็สามารถเปิดเรียนรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่  On-site คือ On-air,  On- hand, On-demand  และ  On-line   

ว่าที่  ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์   นามศรี  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1  กล่าวต่อไปว่า ซึ่งก็จะได้ดำเนินการตามนี้ ทางเขตก็จะได้พิจารณาออกไปนิเทศติดตามต่อไป ประเด็นที่ 3 ที่จะเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาก็คือ  ครูจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด โดยวิธี ATK ใน  1 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ ส่วนนักเรียนก็แล้วแต่ความเสี่ยงของนักเรียนซึ่งเป็นมาตรการที่ทาง ศบค.จังหวัด คือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้กำหนดให้เรา เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและคณะครู  ประเด็นที่ 4 ที่เป็นคุณสมบัติที่จะพิจารณาก็คือ  โรงเรียนสามารถดำเนินการตาม 7  มาตรการเข้มงวดที่เป็นการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ซึ่งทั้ง 4 มาตรการนี้    โรงเรียนต้องผ่านและต้องเป็นไปตามนี้ถึงจะสามารถเปิดเรียนแบบ On-site ได้  สพป.ศรีสะเกษ  เขต 1 ได้ 187  โรงเรียน  อีก 71  โรงเรียนก็ไม่สามารถเปิดแบบ On-site ได้ นี่คือความพร้อมที่เราดำเนินการ

ว่าที่  ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์   นามศรี  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1  ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นยังมี  6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ  7 มาตรการเข้มงวด อย่างเคร่งครัด ที่จะต้องดำเนินการทั้งส่วนตัวทั้งส่วนที่เป็นสถานศึกษาก็คิดว่าการดำเนินการแบบนี้จะทำให้นักเรียนปลอดภัย  ซึ่งความปลอดภัยของทั้งเด็กทั้งครูตามนโยบายของ  นายอัมพร  พินะสา  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องมาก่อน  ฉะนั้น  การเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 นี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการดำเนินการตรงนี้ จึงขอนำเรียนให้ทุกท่านได้สบายใจว่าถ้าไม่ปลอดภัยแล้วเราจะไม่เปิดภาคเรียนที่  2 โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  ที่มีนายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  เป็นประธาน  และมีสาธารณสุขจังหวัด  เป็นเลขานุการ  จะดูแลพวกเราเป็นอย่างดียิ่ง ตนต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง  รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้ความอบอุ่นกับครูและนักเรียนทุกโรงเรียนของเราเป็นอย่างดี  ซึ่งจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสบายใจได้เมื่อเด็กไปโรงเรียนก็จะต้องช่วยกัน  และเมื่อกลับจากโรงเรียนเราจะปลอดภัยทั้งจังหวัด  ตนจึงขอฝากถึงผู้บริหารทุกโรงเรียนจะต้องไปดำเนินการให้เป็นไปตามสุขลักษณะ สุขอนามัย  รวมทั้งต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนที่จะเข้าโรงเรียนด้วย  ดังนั้น จึงขอฝากกับทุกท่านว่า อย่าประมาท  การ์ดอย่าตก  เราจะปลอดภัยกันทุกคน  จะทำให้เราผ่านพ้นสถานการณ์โควิดนี้ไปได้///////

ข่าว / ภาพ  ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ

จ.นครสวรรค์| พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ พร้อม สจ.เศรษฐา พันธุ์วิริยะพงษ์ นำทีมช่างสำรวจลงพื้นที่สำรวจเส้นน้ำจากอ่างเก็บน้ำ 1 เข้าสู่เทศบาลหนองบัว

พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ. พร้อมคณะนำทีมช่างสำรวจเส้นทางน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขาพระ 1 ส่งเข้าเขตเทศบาล ตามข้อเสนอของ ส.จ.เศรษฐา พันธุ์วิริยะพงษ์

   วานนี้ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์นายก อบจ. นำคณะช่างสำรวจ เดินทางไปที่อ่างเก็บน้ำเขาพระ 1 (อ่างเก็บน้ำเจ้าคุณไกร) เพื่อวางโครงการผันน้ำเข้าสู่สระต่างๆในเขตเทศบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในฤดูแล้ง ซึ่งประสบปัญหานี้เกือบทุกปี   ส.จ.เศรษฐา พันธุ์วิริยะพงษ์ ได้มองเห็นปัญหานี้จึงนำเสนอโครงการนี้เป็นลำดับแรกๆหลังจากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.จ.  แล้ว และได้ติดตามสานต่อโครงการนี้มาโดยตลอด

 

 หลังจากนั้น นายวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองบัว พร้อมทั้ง รองนายกฯ น.ส.สินีนาฏ พันธุ์วิริยพงษ์ พงษ์ได้มาให้การต้อนรับนายก อ.บ.จ.พร้อมคณะ เพื่อนำเสนอเส้นทางจ่ายน้ำที่จะลอดใต้ถนนบริเวณปากซอยร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ออกมาทางหน้าอำเภอ เข้าสู่สระวัดหนองกลับ

  ส.จ.เศรษฐา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการนี้นายก อ.บ.จ.จะนำเข้าสู่สภาเพื่ออนุมัติงบประมาณ หลังจากนั้นจะดำเนินการทันที

จ.ศรีสะเกษ | หลวงปู่สรวงให้โชคหนุ่มหนองบัวลำภู 12 ล้าน

ศรีสะเกษ หลวงปู่สรวงให้โชคหนุ่มหนองบัวลำภูไปทำงานไต้หวันถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้านบาท รีบบินกลับไทยเมื่อพ้นช่วงกักตัวแล้วหอบเงิน 55,000 บาทมาทำบุญที่วัดไพรพัฒนาเพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา

  วันที่ 30 ต.ค. 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ    นายวรรณชาติ   เกล็ดงูเหลือม  อายุ  49 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 7 ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู  พร้อมด้วยภรรยาญาติพี่น้อง จำนวนประมาณ  12 คน  ได้มากราบนมัสการ พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา โดยได้นำเอาเงินสด จำนวน 55,000  บาทวางบนพานแล้วพร้อมดอกไม้ธูปเทียน นำเอาไปถวายแด่พระครูโกศลสิกขกิจ เพื่อเป็นการร่วมทำบุญกับหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ที่ได้ท่านได้ให้โชคทำให้นายวรรณชาติ ถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยมี  นายสมยศ พันธ์มา  รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ร่วมในพิธีถวายปัจจัยทำบุญในครั้งนี้ด้วย

นายวรรณชาติ   เกล็ดงูเหลือม  อายุ  49 ปี  กล่าวว่า  ตนเคารพศรัทธาหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนามานานแล้ว  ต่อมาได้เดินทางไปทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างอยู่ที่ประเทศไต้หวัน  ซึ่งเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564  ที่ผ่านมา ตนได้ดูในปฏิทินหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาที่ตนได้นำเอาติดตัวไปด้วยเพราะว่าปฏิทินเป็นรูปภาพของหลวงปู่สรวง ตนได้ดูในปฏิทินพบว่า มีเลข 935 กำกับอยู่  จึงได้ซื้อหวยใต้ดินที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งปรากฏว่าเลขดังกล่าวเป็นเลขอั้น เจ้ามือจ่ายครึ่งราคา ปรากฏว่า ตนถูกหวยใต้ดินได้เงินมาจำนวนทั้งสิ้น 55,000  บาท  ตนจึงได้อธิษฐานกับรูปภาพของหลวงปู่สรวงว่า หากถูกรางวัลที่ 1 ตนจะนำเอาเงินที่ได้มาครั้งแรกจำนวน 55,000 บาทไปทำบุญกับหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาทั้งหมด ต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 25 ก.ย. 64 ตนได้ซื้อล็อตเตอรี่  จำนวน 5 คู่ โดยเลือกเอาเลขล็อตเตอรี่ที่ตนเองชอบ  ซึ่งที่ประเทศไต้หวันได้มีการขาย                         ล็อตเตอรี่และขายหวยใต้ดินเหมือนกันกับประเทศไทยทุกอย่าง  เมื่อซื้อล็อตเตอรี่มาแล้ว ตนได้เปิดยูทูปฟังเสียงบทสวดขอพรหลวงปู่สรวงและได้สวดขอพรหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาก่อนนอนทุกวัน 

นายวรรณชาติ   เกล็ดงูเหลือม  อายุ  49 ปี  กล่าวต่อไปว่า  ต่อมาวันที่ 1 ต.ค. 64 มีการประกาศผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนจึงได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ซื้อไว้มาตรวจดู  ปรากฏว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ 38 หมายเลข 578171  ที่ตนซื้อเอาไว้ถูกรางวัลที่ 1 จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านบาท ทำให้ตนดีใจมาก  จากนั้น เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 64  ตนได้นั่งเครื่องบินเดินทางกลับมาประเทศไทย และได้ทำการกักตัว 10 วัน เมื่อพ้นกำหนดกักตัวแล้ว ได้เดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ จ.หนองบัวลำภู และได้นำครอบครัวญาติพี่น้องเดินทางมาที่วัดไพรพัฒนา  เพื่อนำเอาเงิน จำนวน 55,000 บาทที่ถูกหวยครั้งแรกทั้งหมด มาถวายพระครูโกศลสิกขกิจ เพื่อทำบุญถวายหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ตามที่ได้ขอพรจากหลวงปู่สรวงเอาไว้  ส่วนเงินรางวัล 12 ล้านบาทที่ได้รับมานั้น ตนจะสร้างบ้านอยู่กับครอบครัว  เนื่องจากว่า ตนไม่มีบ้านเป็นของตนเองมาก่อนเลย  จะนำเอาเงินไปใช้หนี้สิน และจะแบ่งเงินนำเอาไปทำบุญ  ที่เหลือจะเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งตนกับครอบครัวญาติพี่น้องจะมาทำบุญกับหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนาเป็นประจำตลอดไป

ทางด้าน พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  เจ้าคณะอำเภอ ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า  การที่ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาที่มีโชคโดยได้รับบุญบารมีของหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาแผ่ไพศาลไปถึงประเทศไต้หวัน ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของโยมวรรณชาติ หลวงพ่อก็ดีใจด้วยที่จะทำให้ครอบครัวของโยมวรรณชาติมีฐานะดีขึ้นและมีบ้านอยู่ แล้วจะได้มีทุนเพื่อให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียนต่อไป ปัจจัยที่โยมวรรณชาติถวายมานี้จะได้นำเอาไปสมทบทุนในการก่อสร้างอาคารเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ก็ขอให้โยมวรรณชาติ  จงมีดวงเฮง ๆ  ขอให้ประพฤติตัวที่ดีงามเพื่อให้เกิดความผาสุกในครอบครัวต่อไป ขอเจริญพร/////////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จ.นครสวรรค์| ชาวบ้านในเขตเทศบาลหนองบัว กลัวซวยเดือดร้อนไปด้วย เรื่องถุงยังชีพทยอยขึ้นโรงพักลงบันทึกประจำวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ชาวบ้านในเขตเทศบาลหนองบัว ทยอยขึ้นโรงพักขอลงบันทึกประจำวัน เรื่องถุงยังชีพเพราะกลัวเดือดร้อน ที่ สท.บางท่าน เอาชื่อไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมโดยที่ตนเองไม่รู้เรื่อง

   

  วันที่ 29 ตุลาคม 2564  เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็น ชาวบ้านในเขตเทศบาลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ได้รวมตัวเดินทางไปที่ สภ.หนองบัว พบ.พ.ต.ท.สมศักดิ์  คำโย  ทำหน้าที่ร้อยเวร สภ.หนองบัว โดยชาวบ้านทั้งหมดได้ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรื่องถุงยังชีพเพราะ  โดน สท บางท่าน มาขอให้เซ็นรายชื่อโดยอ้างว่าจะขอถุงยังชีพนำมาให้ แต่กลับเอาไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองบัว

    

  การที่ชาวบ้านเดินทางไปลงบันทึกประจำวันในครั้งนี้ ก่อนที่ชาวบ้านจะเล่าเหตุการณ์ให้ ผู้สื่อข่าวฟิล์ม 3 มิติ ฟังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ และใบหน้าผู้เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวัน เพราะเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านเล่าว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 ก.ย 2564 เกิดน้ำท่วมใหญ่ทำให้ ทางเทศบาลนำถุงยังชีพ มาแจกให้ประชาชนในเขตเทศบาล ยังไม่ครบ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ต.ค 2564  ช่วงบ่าย ได้มี สท .บางท่าน เข้ามาสอบถามและร่างรายชื่อผู้ที่ยังไม่ได้รับถุงยังชีพ ชาวบ้านเข้าใจว่า สท ที่มาร่างรายชื่อลายเซ็นเพื่อจะไปนำถุงยังชีพมาแจกให้ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับถุงยังชีพ

    

      หลังจากนั้นต่อมากลุ่มชาวบ้านที่ถูกร่างรายชื่อไปเรื่องถุงยังชีพ ก็มาทราบภายหลังว่า วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ว่า สท ท่าน ดังกล่าวที่มาขอร่างรายชื่อลายเซ็นไปไม่ได้นำไปขอถุงยังชีพที่เทศบาลตามที่กล่าวอ้าง แต่กลับนำรายชื่อไปยื่นร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองบัว ทำให้พวกตนเองเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยหรืออาจจะถูกดำเนินคดีไปด้วย เพราะเห็นทาง นายกวันชนะ ปอพานิชกรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว โพสต์ facebook ว่าจะดำเนินคดีฟ้องศาลกับผู้ที่ใส่ร้ายป้ายสีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง  

   ในฐานะชาวบ้านที่ทราบข่าวและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงรวมตัวกันเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องถุงยังชีพแต่อย่างใดเพราะความบริสุทธิ์ใจ หลายวันก่อนก็มีกลุ่มชาวบ้านได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องการร้องเรียนเรื่องถุงยังชีพ เช่นกัน

      สำรวย สินพลับ พร้อม ทีมข่าวฟิล์ม 3 มิติ รายงาน

จ.ปราจีนบุรี | ผู้ว่าฯวรพันธุ์ ลงพื้นที่มอบของอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนที่เกิดน้ำท่วม

กาชาดปราจีนฯลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน

วันที่ 29 ตุลาคม 2564 14.00น. นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย นางมัทนา สุวัณณุสส์ นายกเหล่ากาชาด/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดปราจีนบุรี พ.อ.สุรวิชญ์ แดงจันทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปราจีนบุรี (ท) ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปราจีนบุรี สมาชิก อส. ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและ มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.บางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรีจำนวน 141 ชุด และ ต.วัดโบสถ์  อำเภอเมืองปราจีนบุรี จำนวน 200 ชุด 

 

เพื่อเป็นกำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป พร้อมให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ และที่ต่ำให้ติดตามการแจ้งเตือนระดับน้ำของทางราชการ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อมหากเกิดอุทกภัยฉับพลัน     ///

     //ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์087-8789225ปราจีนบุรี

จ.ศรีสะเกษ | พร้อมเปิดผามออีแดงให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปรับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน ไทยลาวกัม พูชา

ศรีสะเกษ พร้อมเปิดผามออีแดงให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปรับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน ลาว กัมพูชา ไทย  ผู้ว่าฯประกาศลั่น หนาวนี้ศรีสะเกษพร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่  

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564  ผู้สื่อข่าวรายงายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง  อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร  ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย  ดร.กัลยาณี   ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ  นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท์  หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาสำรวจความพร้อมของการเตรียมที่จะเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมความสวยงามตามธรรมชาติได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์   จันทร์โอชา  นายกรัฐมนรี ได้มีกำหนดที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นต้นไป ซึ่งจากการสำรวจความพร้อมพบว่า มีการปรับปรุงบริเวณรอบผามออีแดงอย่างสวยงาม สถานที่สะอาดระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน  มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่วนการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ ตชด.และเจ้าหน้าที่ทหาร มาคอยดูแล  โดยผามออีแดง เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปอย่างเป็นมุมกว้างได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา  มีธรรมชาติที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวจะมองเห็นสายหมอกที่ลอยอย่างอ้อยอิ่งจากเขตกัมพูชาเข้ามาในเขตแดนไทย จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นมาก นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นความสวยงามของปราสาทพระวิหารได้ด้วยตาเปล่าค่อนข้างชัดเจน บริเวณผามออีแดง ยังมีภาพแกะสลักหินนูนต่ำบนหน้าผาหินทราย อายุประมาณ 1,500 ปี เป็นภาพเทพ  3 องค์สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 ซึ่งถูกประกาศให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและศึกษาประวัติศาสตร์อารยะธรรมของขอมโบราณ พร้อมทั้งจะได้ชมสถูปคู่ ทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ สร้างจากหินทราย ถือเป็นสิ่งก่อสร้างพิเศษ  นอกจากนี้ในช่วงค่ำนักท่องเที่ยวจะได้ชมดาวล้านดวง ที่เนินนับดาว แหล่งเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ โดยมี นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย  นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย นางจิตร   อาจสัญจร หน.อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้การต้อนรับและนำสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้

ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องถือว่าผามออีแดงมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ สถานที่ที่ปิดไว้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ถือว่าช่วงนี้ทรัพยากรธรรมชาติและบริเวณผามออีแดงมีความสวยงามมาก ไม่ได้ถูกทำลายเหมือนสมัยก่อนที่มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก  การปิดเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการปรับปรุงและตอนนี้ถือว่ามีความสวยงามมาก  คนที่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วพอขึ้นมาที่ผามออีแดง มีการสวมหน้ากากอนามัยสามารถที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงได้ ตอนช่วงเช้าตื่นขึ้นมาก็มารอรับพลังพระอาทิตย์ขึ้น 3 แผ่นดินขึ้นจากประเทศลาว มาถึงประเทศไทยและลงไปถึงกัมพูชา ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นการมารับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการได้มารับพลังสุริยะจากแสงแรกของเช้าวันใหม่ จะช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่ได้รับพลังสุริยะได้มีพลัง โชคดีมีชัย และทำให้มีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นในการทำกิจการงานต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ต่อไป ถ้ามาในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเจอหมอกที่สวยงาม วันไหนฝนตกก็ยิ่งจะเห็นหมอกชัดเจนมากแต่ก็คุ้มมากเพราะว่าใครๆที่มาผามออีแดงก็จะบอกว่าวิวทิวทัศน์สวยงามมาก จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านมารับพลังสุริยะ3 แผ่นดินที่ผามออีแดงตอนนี้พร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้วโดยจะเปิดในวันที่ 1 พ.ย.64 นี้เป็นต้นไป  

นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  ตนมาในวันนี้ 2 สถานะก็คือในสถานะซึ่งดูภารกิจภาพรวมของ จ.ศรีสะเกษและอีกส่วนหนึ่งในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งในแนวทางแรกก็คือตามที่นโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการเปิดการท่องเที่ยว แต่สถานการณ์โควิดก็ได้มีการเปิดจังหวัดนำร่องต่างๆแต่ว่าในส่วนของจังหวัดอื่นที่มีความพร้อมในกิจกรรมที่จะทำได้ถ้าสามารถทำให้เดินได้ก็ให้เดินไป ในส่วนนี้เองทางจังหวัดก็ได้มีการเตรียมความพร้อมต่างๆและคิดว่าสถานการณ์โควิดต่างๆเราก็ผ่อนคลายไปมากแล้วก็ควรที่จะได้มีการเปิดพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวนี้ศรีสะเกษก็เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะฉะนั้นเป้าหมายแรกของเราก็คือเราก็มองมาที่ผามออีแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวหมอกจะสวยงามมาก ซึ่งทาง นอภ.กันทรลักษ์ และอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันในการเตรียมความพร้อม แต่ว่าเมื่อตนมาดูแล้วพอได้รับทราบมาตรการต่างๆ รวมทั้งบรรยากาศต่างๆ คิดว่า จ.ศรีสะเกษก็มีความพร้อมในการที่จะเปิดผามออีแดงแล้ว ซึ่งทางอำเภอกันทรลักษ์ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้มีการวางมาตรการสอดคล้องกับมาตรการของ  ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนคนเช่น จะไม่ให้คนมารวมตัวกันมากๆช่วงคาบของการท่องเที่ยว  2 - 3 ชั่วโมงในแต่ละรอบ จะมีคนได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงประมาณ 600 คน เฉลี่ยเป็นผัด ๆ กันไปและในส่วนที่ 2 ก็คือจัดระบบที่จะไม่ให้คนมาออหนาแน่นบริเวณทางขึ้นที่จะขออนุญาตเข้ามา ก็มีการวางระบบในการที่จะมีการจองล่วงหน้าผ่านระบบต่างๆของทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้จองมาก่อนและประการที่ 3 ก็คือเรื่องของการเข้าพักโดยทั่วไป ตอนนี้ก็ยังงดให้เข้าพักในเขตอุทยานแต่ว่าจะอนุญาตให้จองเพื่อให้เข้าพักในลักษณะของเต็นท์ของอุทยานแต่เพียงคืนละ 30 คนเท่านั้น 

ผวจ.ศรีสะเกษ  ยังกล่าวด้วยว่า  เพราะฉะนั้นในช่วงแรกนี้เราก็จะทดสอบมาตรการในเรื่องนี้ดูและในอนาคตต่อไปทางอุทยานก็อาจจะมีการขยับขยายจำนวนคนมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติร่วมกันและอีกส่วนหนึ่งก็คือการเฝ้าระวังส่วนตัว ตามมาตรการทางสาธารณสุขต่างๆ และการฉีดวัคซีนที่เป็นมาตรการหลักของแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ในส่วนของฝั่งเราก็คือทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารก็ได้มีการฉีดวัคซีนทุกคนแล้ว และทางนายอำเภอกันทรลักษ์ก็ได้มีการยืนยันไปแล้วว่า ในส่วนของร้านอาหารสถานประกอบการต่างๆหรือโรงแรมรีสอร์ท  เป็นเป้าหมายในการฉีดวัคซีนและมีการฉีดวัคซีนไปเยอะแล้ว ในฝั่งของนักท่องเที่ยวเราก็เปิดโอกาสให้กับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว ถ้าไม่มีป่วยไข้หรือภาวะเสี่ยงอื่นๆก็สามารถที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและเดินทางกลับออกไปได้ โดยดำเนินการตามมาตรการ จ.ศรีสะเกษก็มีความพร้อมในเรื่องเหล่านี้ รวมทั้งงานกีฬาต่างๆที่จะเกิดขึ้นและการเฉลิมฉลอง 239  ปีซึ่งเราก็อยากบอกว่า หนาวนี้ศรีสะเกษพร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่////// 

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

 

จ.ศรีสะเกษ| เปิดลานออดหลอดซอดศรีเกษเป็นสถานที่ขายสินค้า OTOP หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

ศรีสะเกษ เปิดลานออดหลอดซอดศรีเกษเป็นสถานที่ขายสินค้าโอท็อปหวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ หลังที่ 3  ศูนย์ OTOP จังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสำรวย   เกษกุล   นายอนุรัตน์   ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิด"ลานออดหลอดซอดศรีเกษ" (วิถีใหม่ New Normal สู้ภัย Covid - 19)  ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้จัดงานนี้ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และการเผยแพร่ ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้า OTOP Off Line และ On line  และเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของฝากของที่ระลึกบริการแก่นักท่องเที่ยวผ่านช่องทางการตลาดภายนอกชุมชน และเพิ่มทักษะประสบการณ์แก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ในการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ โดยมีโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ตลาดนัด คนไทยยิ้มได้ OTOP Mobile ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง สัมมาชีพชุมชน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โครงการโคกหนองนาโมเดล เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน  โดยมี  นายนายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทน พัฒนาการ   จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน  และมี ดร.กัลยาณี ธรรมจารี นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ หน.ส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชนทั่วไป มาร่วมพิธีในครั้งนี้กันอย่างคึกคักมาก

นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่น ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP โดยรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนให้ชุมชนเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ แหล่งเงินทุน และพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการตลาด เพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากชุมชน สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดย จ.ศรีสะเกษ  ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับโอกาสทางอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนที่ไม่มีพื้นที่ค้าขาย และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จึงได้มีการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น และพัฒนาพื้นที่ "ลานออดหลอดซอดศรีเกษ" ให้เป็นศูนย์รวมของสินค้า OTOP จังหวัดศรีสะเกษ

ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวด้วยว่า โดยการจัดงานมีการจัดกิจกรรมมาแล้ว จำนวน 3  ครั้ง มียอดจำหน่าย  รวมทั้งสิ้น 3,097,498  บาท  โดยมีการนำเอาผลผลิตที่เกิดจากโครงการโคกหนองนา จำนวน 7 อำเภอ ได้แก่               อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ยางชุมน้อย อ.วังหิน อ.โนนคูณ อ.น้ำเกลี้ยง อ.พยุห์ อ.กันทรารมย์ สินค้า OTOP/ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้ง 22  อำเภอ มาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปกำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 27 – 29 ต.ค. 2564  โดยเริ่มการจัดกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.30 – 20.00 น.  ทุกวัน //////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ